เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตํารวจ มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งต่างๆ จํานวน 194 ราย อาทิ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา(สบ 10) ดํารงตําแหน่ง รองผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ดํารงตําแหน่ง จเรตํารวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ. 3ดํารงตําแหน่ง รองจเรตํารวจแห่งชาติ (สบ 9) พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. ดํารงตําแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ. ดํารงตําแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.สพฐ.ตร. ดํารงตําแหน่ง ผบช.ภ.7  พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 ดํารงตําแหน่ง ผบช.น. พล.ต.ท.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.สง.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดํารงตําแหน่ง ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ประจําสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ดํารงตําแหน่ง ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.งป. ดํารงตําแหน่ง ผบช.ภ. 8  พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ.9 ดํารงตําแหน่ง ผบช.ทท. เป็นต้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2560 เป็นต้นไป

                เข้าสู่ทำเนียบครอบครัว "นายพลตำรวจ" แบบที่เรียกว่าเป็น "นายพลตำรวจ" ที่แม้ครอบครัวอื่นอาจมีพ่อ มีลูก มีหลาน เป็นนายพลตำรวจ แต่สำหรับครอบครัว "ศิริรักษ์" ได้ขยับติดยศเป็น "นายพล" ทั้งสามี ทั้งภรรยา หลังจากที่ "บิ๊กเบิ้ม"พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจตำรวจภูธรภาค 5 (รองผบช.ภ.5) นักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.) 35 รุ่นเดียวกับ"บิ๊กปู"พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผ.ตร. ติดยศนายพลมาหลายปี ตอนนี้ภรรยา "รองเบิ้ม"พ.ต.อ.หญิงวัลลภา ศิริรักษ์ รองผู้บังคับการ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ก็ขยับติดยศ "นายพล" ดํารงตําแหน่ง ผู้บังคับการกองบัญชี อยู่ในลำดับที่ 192 ในคำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ถึง ผู้บังคับการ(ผบก.) วาระประจำปี 2560  ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60 นี้ด้วย ซึ่งน่าจะมีไม่กี่คู่ใน "กรมปทุมวัน" ๐

                ควงคู่กันดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2561 ตามนโยบาย "บิ๊กแป๊ะ"พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ที่ให้ "บิ๊กอวบ"พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.ดูแลงานป้องกันปราปบราม(ปป.) และ"บิ๊กปู"พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ดูแลงานความมั่นคง(มค.) ดูภาพรวมทุกมิติ ทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การระดมกวาดล้างอาชญากรรม การประสานความร่วมมือทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ส่วนโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ โครงการยอดนิยมช่วงเทศกาลวันหยุดยาวๆ "บิ๊กอวบ"ยืนยันปีนี้ยังมีเช่นเคย โดยใช้ชื่อเข้ายุค เข้าสมัย "โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน"  เปิดโครงการและเริ่มรับฝากบ้านเรือนประชาชนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั่งแต่วันที่ 25 ธ.ค.2560 - 3 ม.ค. 2561  พร้อมฝากบอก...ขอให้มั่นใจการดูแลบ้านและทรัพย์สินประชาชนที่เข้าร่วมโครงการได้ 100% ๐

                เป็นผลงานที่น่าชื่นชม "ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไทย" ที่ช่วยประสานพาแม่ค้าหญิงไทย ออกมาจากการกักขังของพ่อค้าชาวจีน หลังจากไปเที่ยวและไปซื้อเสื้อผ้า แต่พี่สาวแฟนเคยติดเงินค้างจ่ายกว่า 2 ล้านบาท จึงถูกคุมตัวเอา โชคดีที่สามารถใช้ไลน์ส่วนตัวติดต่อ "เดอะหนึ่ง"พ.ต.อ ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.สืบสวนสอบสวน สตม. ที่เปิดไลน์ให้แจ้งข่าวและเบาะแสทางไลน์ส่วนตัว เพื่อลดขั้นตอนการสืบสวนหาข่าวผู้กระทำความผิดงานของต่างด้าวและความผิดอื่นๆ  กระทั่ง "เดอะหนึ่ง"ประสานงานกับตำรวจจีน ที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว ไปช่วยแม่ค้ารายนี้ออกมาได้อย่างปลอดภัย ไม่เสียแรงที่เป็นลูกน้อง "ผบ.แป๊ะ"พล.ต.อ.จักรทิพย์  และพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. ทำงานสมกับคำว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์  ตามสโลแกน "เราอยู่ไหนประชาอุ่นใจทั่วกัน"...แม้ห่างไกลข้ามทะเลข้ามประเทศหลายพันหลายหมื่นกิโล อิอิ  ๐

                สำหรับความเคลื่อนไหวในแวดวงทหาร ... ไฮ-ไลท์ น่าจะอยู่ที่วันศุกร์ที่ผ่านมา จากการแถลงข่าวของ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ นักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์  ตัญกาญจน์  หรือ  "น้องเมย" นำโดย พล.อ.อ. ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ที่ดูแลสายงานด้านกำลังพล  ในฐานะ ประธานคณะกรรมการฯ  ทำให้เห็นสาเหตุ ปัจจัย  ตัวเร่งเร้า รวมถึงความบกพร่องในหลายๆ ส่วน  แต่ในส่วนของ "ตัวบุคคล" โดยเฉพาะ "รุ่นพี่" ซึ่งเป็นนักเรียนปกครอง ที่ได้รับการคัดเลือกมาบังคับบัญชารุ่นน้อง อาจจะต้องมีการปรับปรุงวิธีการคัดเลือกบุคลากร โดยดูจากคุณสมบัติที่ละเอียดมากขึ้น  เน้นหนักในเรื่อง "คุณภาพ" ไม่ใช่ "ปริมาณ"  โดยหลังสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.)  ได้จัดสัมนาเรื่องดังกล่าวที่อาจจะมีการกดหนดหลักเกณฑ์ใหม่ และลดจำนวนลง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 157  คน อาจลดลงเหลือแค่ 53 คน 

                ยังไม่นับรวมขบวนการ "สอบคัดเลือก"  ในส่วนของการตรวจสุขภาพ การทดสอบสมรรถนะร่างกาย จากเดิม"เหล่าทัพ"ที่นักเรียนเข้าไปสอบตรงจะเป็นคนคัดเลือกให้เป็นไปตามเกณฑ์  ก่อนส่งผู้ที่สอบคัดเลือกได้มาเข้ารับการศึกษาที่ โรงเรียนเตรียมทหาร ต่อไปอาจจะต้องเปลี่ยนการทดสอบให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน  ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า  "เหล่าทัพ" ที่มีการตรวจเข้มที่สุดคือกองทัพอากาศ   ขณะที่เหล่าทัพอื่นๆ  ก็ต้องยอมรับว่า มีการ"หยวนๆ" กันบ้าง  ...สดับตรับฟังแล้ว  ขั้นตอนนี้คือ "ต้นทาง" ที่ควรยกเครื่องมากที่สุด   แม้จะไม่ได้สำคัญไปกว่า "ข่าวทหาร"  ในแบบฉบับที่คนชอบเสพ แต่ก็ถือเป็นการ "ปฏิรูป" ที่ฐานราก รื้อถอนได้ทั้งระบบอุปถัมภ์  ระบบการสร้างมาตรฐานเหมาะสม  และ "เตรียมทหาร" โรงเรียนแรกของคนในเครื่องแบบ น่าจะเป็นจุดรวมศูนย์ที่สำคัญ ถ้า "บิ๊กต๊อก" พล.อ.ธารไชยยันต์  ศรีสุวรรณ  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะริเริ่มทำ น่าจะพลิกหลักสูตรการปลูกฝัง "วิธีคิด" ด้านอื่นๆ ของ "รร.ลูกผู้ชาย" ไปในคราวเดียวกัน...สังคมพร้อมปรบมือให้ ๐ 

                ยังไม่มี "ดอกพิกุล" ร่วงจากปากของ "บิ๊กป้อม " พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม  หลังจากเกิดเหตุ "นาฬิกาหรู" ที่ปรากฎเป็นภาพข่าวทางสื่อ นำไปสู่กระแสโจมตี เพื่อให้องค์กรอิสระตรวจสอบที่มาของนาฬิกาดังกล่าว  ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  แม้"บิ๊กป้อม" จะ ไม่ให้สัมภาษณ์ แต่ก็ยังทำงานตามปกติ  ทั้งเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมกำหนดมาตรฐานการดูแลรักษาความปลอดภัยในท้องถนน ที่กระทรวงกลาโหม  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร  ที่สวนรื่นฯ กอ.รมน. พร้อมเปิดห้องรับรองในสโมสรทหารบก รับ 5 เสือ บริษัทยางฯ เพื่อหารือถึงแนวทางร่วมแก้ไขปัญหาราคายางพารา ตกต่ำ  ส่วนผลการประชุม มอบให้ "เสธ.ต้อง"พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกกระทรวงกลาโหม   แถลงผ่าน แอพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มประชาสัมพันธ์ของกระทรวงกลาโหม ๐

                ยังเหนียวแน่น ...สำหรับความรัก-ความเคารพของทหาร ที่มีต่อ "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี วันที่ 28 ธันวาคมนี้ "ป๋า"เปิดบ้านให้  "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความแห่งชาติ (คสช.) และ ครม.ทหาร (ที่ลดลง) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าอวยพรและขอพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2561...ตอกย้ำเจตนา  "ป๋า" ที่ยังพร้อมเป็นกำลังใจให้ คสช. และ ครม. อย่างไม่เปลี่ยนแปลง จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น  ๐