"ธนาธร" ลั่นสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ต้องใช้สูตรที่อนาคตใหม่ได้ ส.ส. 87 คน ซัด 5 ปี "บิ๊กตู่" สร้างความเกลียดชัง สร้างปีศาจจำนวนมาก หยาม 8 ล้านเสียง พปชร. เป็นฐานคะแนนส่วนตัวของอดีต ส.ส.ที่ถูกดูด ลั่นส่งคนเขย่าการเมืองท้องถิ่น ยึดสนามเล็กต่อ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์กรณีการสูตรคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับตีความ แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้ข้อยุติว่าการตัดสินใจของ กกต.จะเป็นการกำหนดอนาคตของประเทศไทย หลังเลือกตั้ง พรรคฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. 7 พรรค รวมแล้วมี 254 เสียง เกินครึ่งหนึ่งของสภาล่าง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
"หาก กกต.ตัดสินใจใช้สูตรคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ทำให้พรรคฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.เหลือเพียงกว่า 240 เสียงนั้น กกต.คือผู้เปลี่ยนประเทศไทยทันที ซึ่งเรื่องนี้น่าแปลกใจมาก เลือกตั้งไปแล้วหนึ่งเดือน แต่ผลเลือกตั้งยังคงไม่มีความชัดเจน"
เขากล่าวว่า ถ้าประชาชนไม่เชื่อมั่นในผลการเลือกตั้ง เราก็จะเดินหน้าประชาธิปไตยอีกครั้งไม่ได้ วาทกรรมประชาธิปไตย 4 วินาทีในคูหาการเลือกตั้ง ของฝ่ายอนุรักษนิยมนั้น ไม่จริง พรรคที่จะมี ส.ส. 1 คน ต้องมีคะแนน 7.1 หมื่นเสียง หากให้พรรคการเมืองที่ได้ 3-4 หมื่นเสียงมี ส.ส. 1 คน ทั้งที่เสียงเท่านี้ยังไม่อาจชนะ ส.ส.เขตบางเขตได้ ก็ต้องถามว่าความเป็นธรรมนั้นอยู่ตรงไหน
นายธนาธรยืนยันว่า ต้องใช้สูตรคิด ส.ส.ที่จะทำให้อนาคตใหม่มี ส.ส. 87 คน เพราะจะไม่มีพรรคไหนมี ส.ส.เกิน ส.ส.พึงมี และทุกพรรคที่มี ส.ส.จะมีอย่างน้อย 7.1 หมื่นเสียงทุกพรรค นายปิยบุตรจะแถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าวอย่างชัดเจนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า และจะยื่นสูตรคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ กกต.นำไปพิจารณา
ส่วนผลการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชารัฐได้ถึง 8 ล้านเสียง นายธนาธรกล่าวว่า ไม่ต้องตกใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนสนับสนุน พปชร.และ พล.อ.ประยุทธ์จริงๆ ตลอด 5 ปีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีการสร้างความเกลียดชัง สร้างปีศาจจำนวนมาก ให้เห็นว่าความมั่นคงต้องเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ขณะเดียวกันก็ใช้การดึงอดีต ส.ส.ที่มีฐานคะแนนส่วนตัวมาสังกัด พปชร. เสียงส่วนหนึ่งจึงเป็นเพียงของตัวส.ส.ไม่ใช่ พปชร.
"อนาคตใหม่ก็ไม่มีทางอื่น นอกจากรณรงค์อย่างหนักแน่น ใช้ข้อเท็จจริงและความจริงใจที่เข้มข้น เพื่อเปลี่ยนแปลง โดยไม่ใช้ความเกลียดชัง"
ความรู้จากยุโรป
นอกจากนี้ นายธนาธรยังเผยผ่านเฟซบุ๊ก "Thanathorn Juangroongruangkit ว่า พรุ่งนี้เช้า ( 28 เม.ย.) ผมไปร่วมจับตาการนับคะแนนใหม่ทุกหน่วยทั้งเขต 1 นครปฐม เพราะทราบมาว่ามีการนับและรวมผลคะแนนผิดพลาด จึงต้องนับใหม่ทั้งหมด และผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่มีโอกาสพลิกกลับมาชนะ
ดังนั้น ขอเรียนเชิญทุกท่านที่ จ.นครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ไปร่วมจับตาสังเกตการณ์ด้วยกันนะครับ ที่อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
ส่วนช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ผมจะเปิดบรรยายสาธารณะ เล่าถึงสิ่งดีๆ ที่ได้จากทริปยุโรปล่าสุด จากนั้นเปิดวงคุย มาช่วยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงการนำเอามาปรับใช้พัฒนาไทยให้ก้าวไปข้างหน้า พร้อมรับมือโลกยุคใหม่ในทุกมิติ
ดำเนินรายการโดย หมอเก่ง นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง พบกันที่สำนักงานใหญ่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 ไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด คือ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 35,762 คะแนน ส่วนอันดับที่ 2 คือ ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ที่ได้คะแนน 35,615 ซึ่งมีคะแนนห่างกันเพียง 147 คะแนน
วันเดียวกันนี้ พรรคอนาคตใหม่จัดประชุมใหญ่สามัญพรรคอนาคตใหม่ ครั้งที่ 1/2562 โดยตอนหนึ่ง นายธนาธรกล่าวถึงท่าทีของพรรคต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ เขย่าการเมืองระดับประเทศจนเป็นผลสำเร็จมาแล้ว และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น เรายืนยันว่าจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันอย่างแน่นอน แต่จะเป็นกี่แห่ง หรือกี่พื้นที่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารและทีมงานพรรค
"ยืนยันว่าจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับท้องถิ่น และเขย่าการเมืองท้องถิ่นดังเช่นที่ได้ทำกับการเมืองระดับประเทศมาแล้ว"
นายธนาธรกล่าวว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่การเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้สมัครหาเสียงแข่งขันกันด้วยนโยบายอย่างเข้มข้น ซึ่งท้องถิ่นไหนที่พรรคอนาคตใหม่ส่งผู้สมัคร เราจะให้ทีมไปช่วยร่วมออกแบบนโยบาย ท้องถิ่นมีอะไรน่าสนใจ อยากออกแบบเมืองอย่างไร แผนจัดการน้ำแล้งน้ำท่วม แผนการจัดการขยะเป็นแบบไหน ทีมงานจากส่วนกลาง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเราที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
แผนยึดสนามท้องถิ่น
รวมถึงนักวิชาการในเครือข่ายของเราจะไปร่วมช่วยกันออกแบบนโยบาย และนำเสนอในการหาเสียงกับพ่อแม่พี่น้องว่า เมืองของพวกเขา 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้าพรรคอนาคตใหม่ได้เข้ามาพัฒนาจังหวัดนี้ การบริหารเทศบาล 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ถ้าเลือกพรรคอนาคตใหม่เป็นผู้บริหารท้องถิ่น เราจะพูดกันด้วยงบประมาณที่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดกันด้วยบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ เราจะคุยเรื่องท้องถิ่นด้วยข้อเสนอที่แหลมคม และจะเปลี่ยนการเมืองท้องถิ่นดังที่เราได้เปลี่ยนการเมืองระดับประเทศสำเร็จมาแล้ว
"ประชาธิปไตยที่กินได้จริง สิ่งที่ทำให้ประชาธิปไตยส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเรา ของลูกหลานเรา อยู่ที่การเลือกตั้งท้องถิ่น"
นายธนาธรกล่าวว่า ที่ผ่านมาสำหรับการเมืองท้องถิ่นนั้น เราก็รู้ว่าอยู่ในมือของคนไม่กี่ตระกูล อยู่ในมือของพ่อซึ่งเป็นนักการเมืองระดับชาติ แม่เป็นนายก อบจ. ลูกเป็นนายก อบต. ส่วนหลานเป็นนายกเทศมนตรี อย่างนี้เป็นต้น เราอยู่แบบนี้มานานเกินไป ถึงเวลาที่จะต้องเขย่า และเขย่าด้วยคุณภาพของนโยบายที่พรรคอนาคตใหม่จะนำเสนอ และเรามั่นใจว่านี่จะเป็นทางออกและยกระดับท้องถิ่น ยกระดับจังหวัดต่างๆ ให้พัฒนาได้อย่างแท้จริง
นายอภิชิต ถาบุตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้ง จ.สกลนคร ให้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติของนายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ ว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนหรือไม่
พร้อมยื่นเอกสารเป็นหลักฐาน คือสำเนาหนังสือรับรองและรายละเอียดวัตถุประสงค์ และสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ณัฐฐินีย์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นหลักฐานว่านายสมศักดิ์ เป็นผู้มีหุ้นส่วนในบริษัท ณัฐฐินีย์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในข้อ 23 “ประกอบกิจการค้า ทำสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีการก่อสร้าง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง”, ข้อ 24 “ประกอบกิจการเพื่อบริการรับทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท การตลาดและงานบันเทิงทุกประเภท”, และข้อ 25 “ประกอบกิจการ รับเป็นที่ปรึกษาการจัดเก็บรวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท”
สอยพลังประชารัฐ
นายอภิชิตกล่าวว่า การยื่นคำร้องในครั้งนี้ ด้วยตนต้องการเห็นมาตรฐานเดียวกันจาก กกต.และหน่วยงานองค์กรอิสระต่างๆ ในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครและเอาผิดพรรคการเมือง อย่างที่นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สกลนคร ถูกตัดสินให้ขาดคุณสมบัติ โดยอาศัยหลักฐานจากเพียงสิ่งที่ระบุอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัทเพียงอย่างเดียว และมีกระแสข่าวว่าอาจนำไปสู่การดำเนินคดีอาญาต่อนายธนาธร ฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 และมาตรา 86 เพราะไปเซ็นรับรองให้นายภูเบศวร์
“ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐท่านนี้ เราตรวจพบว่าถือหุ้นอยู่ 3 หจก. แล้วหนึ่งในนั้นก็ระบุวัตถุประสงค์ว่าทำสื่ออยู่ แบบเดียวกับผู้สมัครเขต 2 จ.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ของเรา แล้วตอนนี้มีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการเล่นงานนายธนาธร จากกรณีไปรับรองให้ผู้สมัครซึ่งเราเห็นว่าเป็นกรณีแบบเดียวกันกับผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น ถ้านายธนาธรต้องถูกดำเนินการจากเรื่องนี้ ทั้ง กกต.และหน่วยงานต่างๆก็ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน”
นายอภิชิตกล่าวทิ้งท้ายว่า หากนายสมศักดิ์จะถูกตัดสินว่าขาดคุณสมบัติแบบเดียวกันกับกรณีของนายภูเบศวร์ ก็จะต้องมีการดำเนินการกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในแบบเดียวกับที่กำลังจะเกิดขึ้นกับนายธนาธรด้วย เพราะนายอุตตมก็ได้เซ็นรับรองผู้สมัครพลังประชารัฐรายนี้ด้วยเช่นกัน
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่า กกต.อาจยกความผิดปมโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากรอหน่วยงานรัฐที่ปรากฏในผังโต๊ะแจง โดยมีกระแสข่าวว่ามีประเด็นเรื่องเงินยังไม่เข้าบัญชีพรรค อาจไม่สามารถเอาผิดได้นั้น หากเป็นเช่นนั้นจริง คงเป็นเรื่องแปลกที่สุดในยุคปฏิรูป เพราะรูปแบบเช่นนี้ ถือว่าความผิดในกรณีดังกล่าวสำเร็จแล้ว
"มีการจัดโต๊ะจีนระดมทุน มีการยื่นความจำนงและออกเช็ค เพื่อซื้อโต๊ะจีนที่จัดโดยพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสื่อมวลชนจำนวนมากได้นำเสนอไปอย่างชัดเจน เปรียบเหมือนตำรวจจับกุมคนร้ายขโมยของเพราะกระทำความผิดที่สำเร็จแล้ว แต่พอถูกจับก็คืนของที่ขโมยมา ก็ยังมีความผิดต้องโทษอยู่ดี"
นายสุชาติกล่าวว่า กรณีซื้อโต๊ะจีนนี้ กกต.ควรจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่ควรหาช่องทางเพื่อช่วยเหลือกัน หากเป็นเช่นนั้นจริง ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |