26เม.ย.62-"หมอธี" มอบ ก.พ.อ. ศึกษาระเบียบและข้อกฎหมาย หาแนวทางเยียวยา ปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการสถาบันอุดมศึกษา 8% เท่ากับข้าราชการครู อีกทั้งสามารถเพิ่มได้ในอัตราเท่าไหร่ และย้อนหลังได้หรือไม่
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการแจ้งเกี่ยวกับประกาศในราชกิจจานุเบกษา เรื่อง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2562 ให้ข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา ปรับเพิ่มเงินเดือน ร้อยละ 8 เท่ากับข้าราชการครู สาระสำคัญคือในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็น เพื่อเป็นการเยียวยาให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งที่เหมาะสมและเป็นธรรม ก.พ.อ. อาจกำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับการเยียวยาโดยให้ได้รับเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งตามที่เห็นสมควรเป็นกรณี ๆ ไปก็ได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมจึงมีมติมอบให้คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับระเบียบและข้อกฎหมายของ ก.พ.อ. ไปดูว่าจะมีการเยียวยาเรื่องนี้ได้อย่างไร หากจะให้เงินเงินย้อนหลังต้องดูว่าจะให้ถึงเมื่อไหร่ ทราบว่าจะมีการประชุมในวันที่ 30 เมษายนนี้ นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของ ก.พ.อ. ไปดูว่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบมีใครบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)ได้มีการสำรวจเรื่องเหล่านี้แล้ว แต่ข้อมูลขณะนี้อาจจะเปลี่ยนไแปลงป ทาง สกอ. จึงเสนอว่าจะไปสำรวจข้อมูลใหม่ ก.พ.อ.จึงขอให้สำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย ถ้าสรุปได้เร็วก็ให้เร่งนำเสนอ ก.พ.อ.อีกครั้ง เพื่อจะได้เร่งดำเนินการต่อไป เนื่องจากทราบเป็นเรื่องที่คนมหาวิทยาลัยรอมานาน และตนช่วยดำเนินการมาตลอด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ศูนย์ประสานงานสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือ CHES เสนอให้มีการปรับเพิ่มเงินเดือนร้อยละ 8 ให้แก่อาจารย์ทั้งสายวิชาการและสายสนับสนุน และให้ย้อนหลังนั้น นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายเปิดช่องให้ ก.พ.อ.มีอำนาจเสนอเพิ่มเงินเดือนข้าราชการในสถาบันอุดมศึกษาได้แล้ว จากนี้ต้องไปดูข้อกฏหมายและความเป็นจริงด้วยว่าการเยียวยาหรือเพิ่มเงินเดือนนั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ และทำได้แค่ไหน กลุ่มใดบ้าง และ เยียวยาได้ย้อนหลังกี่ปี ซึ่งต้องดูข้อกฎหมายและสำนักงบประมาณ ด้วย