เทคนิคสูงวัยอย่างมีคุณภาพ จากใจ..ณภัสวรรณ จิลลานนท์


เพิ่มเพื่อน    

      การมีสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกอย่างต้องมาจากจิตใจข้างในที่คิดดี จึงจะส่งให้ร่างกายที่แข็งแรง และใบหน้าที่เบิกบานแจ่มใส แต่ที่กล่าวมาล้วนต้องเป็นการดูแลตัวเองแบบไม่บังคับ รวมถึงต้องมีอารมณ์ที่ดีจากการคิดบวก คติการดูแลสุขภาพในแบบฉบับวัยเก๋าที่สวยเด้งกว่าวัยอย่าง พี่น้อย-ณภัสวรรณ จิลลานนท์ เจ้าของบริษัท สยามนุลักษณ์ จำกัด ในวัย 68 ปี ที่ปัจจุบันควบตำแหน่งเจ้าของธุรกิจจำหน่ายคอลลาเจนแบรนด์ “Milin” นอกจากการเอาใจเรื่องสุขภาพแล้ว การแบ่งเวลาว่างจากการทำธุรกิจโดยการเป็นล่ามแปลภาษาจิตอาสาให้กับตำรวจท่องเที่ยวในตลาดนัดสวนจัตุจักร ทุกวันเสาร์และอาทิตย์มากกว่า 3 ปี เพราะมองว่างการได้ช่วยเหลือคนอื่น นอกจากความภูมิใจแล้ว ยังทำให้ชาวต่างชาติประทับใจประเทศไทยอีกเช่นเดียวกัน

(ณภัสวรรณ จิลลานนท์)

        พี่น้อย-ณภัสวรรณ เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวนั้นรู้สึกภูมิใจที่ตัวเองสามารถเป็นตัวอย่างในการดูแลสุขภาพให้กับคนอื่น แม้ว่าอายุตอนนี้จะล่วงเข้าวัย 68 ปีแล้ว ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพของเจ้าตัวจะไม่เน้นความกดดันและไม่บังคับตัวเอง เป็นต้นว่าจะไม่ชอบอดอาหาร และก็ไม่คำนวณแคลอรีเมนูที่รับประทานเข้าไป เพราะนั่นจะทำให้รู้สึกทรมานเวลากินข้าว ขณะเดียวกันก็เป็นคนอารมณ์ดี รักตัวเอง และไม่อยากที่จะเจ็บป่วยเนื่องจากอายุมากแล้ว นอกจากนี้เมื่อเข้าวัยเลข 6 หลายคนมักจะมีปัญหาความเชื่องช้า และก็มักจะไม่สบายบ่อย เป็นนู่นเป็นนี่ รวมไปจนถึงการมีความคิดถอยหลัง แต่เจ้าตัวบอกว่าทำทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา

      “พี่จะเป็นคนที่ชอบความแอคทีฟ เห็นได้จากการที่เป็นคนชอบทำงาน เพราะไม่อย่างนั้นพี่จะรู้สึกตัวเองเป็นง่อย และเป็นผู้ใหญ่ที่ไร้ค่า ซึ่งทุกวันนี้แม้จะอายุเข้าเลข 6 ปลายๆ แล้ว พี่ก็ยังขับรถเองนะ เพราะจะทำให้เราได้ฝึกการใช้สายตาและสมองให้สัมพันธ์กันเวลาที่ต้องขับรถ เป็นคนชอบทำอะไรเอง ส่วนเรื่องของการเป็นคนอารมณ์ดีนั้น สิ่งสำคัญมาจากนิสัยส่วนตัว อย่างการที่เราเป็นคนไม่เอาอะไรกับใคร และถ้าหากรู้ว่าที่ไหนมีรังสีอำมหิต พี่ก็ไม่เข้าไปใกล้ เนื่องจากเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกคบคนค่ะ ที่สำคัญพี่เป็นคนกล้าปฏิเสธถ้าหากว่าเราไม่ชอบในสิ่งนั้นๆ เช่น การที่เพื่อนชวนไปกินข้าววันเกิด และพี่ไม่ไป ก็จะบอกกับเพื่อนไปเลย ส่วนหนึ่งเพราะไม่ชอบจัดงานวันเกิด แต่ไม่ใช่ว่าไม่ชอบใครและจะไม่ไปงานนั้นค่ะ เพราะมันหมดเวลาเกรงใจกัน ทุกอย่างต้องมีช่องว่าง เพราะการที่เราจะเป็นเพื่อนกัน ก็ไม่จำเป็นจะต้องตัวติดกันตลอดเวลาค่ะ แต่อยู่ที่ไหนเราก็เป็นเพื่อนกันได้”

      ในส่วนของการออกกำลังกายเพื่อกระชากวัยให้ดูสวยใสและแข็งนั้น พี่น้อยเล่าว่า ปัจจุบันชอบ “ชกมวย” และเลือกเอกเซอร์ไซส์มากว่า 1 ปีแล้ว เพราะได้บริหารร่างกายทุกส่วน ช่วยลดน้ำหนัก ทำให้นอนหลับสบาย ซึ่งก่อนนี้ได้ออกกำลังกาย ด้วยการเต้นระบำหน้าท้องมากกว่า 3 ปี (ตั้งแต่อายุ 65-67 ปี) แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้อดอาหารอย่างที่หลายคนคิด เพราะทุกวันนี้ยังกินข้าวขาหมูอยู่เลย ซึ่งเคล็ดลับอ่อนกว่าวัยของพี่อีกอย่างหนึ่ง คือการนอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมงสำหรับคนวัยพี่

      “เหตุผลที่พี่เลือกชกมวย เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบเล่นอะไรเหมือนใคร และพี่ก็จะไม่ชอบเล่นโยคะ เพราะมองว่ามันเชื่องชา และเป็นกีฬาของผู้สูงวัย ชอบกีฬาที่แอคทีฟและได้เหงื่อ ซึ่งการต่อยมวยของพี่ไม่ใช่การชกกับเป้าหรือนวม แต่เป็นการชกแบบศอก เข่า กระโดดเตะ และศอกกลับหน้ากลับหลังกับครูสอนมวยไทย เล่นวันละ 1 ชั่วโมง และก็จะไม่ฟิกซ์วันออกกำลังกายเช่นกัน ถ้าว่างวันไหนก็ไปชกค่ะ ที่ผ่านก็เคยเต้นระบำหน้าท้องมา 3 ปี พอเต้นได้ดีแล้วก็อยากลองเอกเซอร์ไซส์อย่างอื่นดูบ้างค่ะ จึงมาลงเอยที่ชกมวย”

      แม้ตอนนี้จะอายุ 68 ปีแล้ว แต่ถ้าถามว่าการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ระหว่างก่อนและหลังวัยหลัก 6 ขอบอกว่าชีวิตทั้งก่อนและหลังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เช่น เมื่อก่อนเคยทำงานหนัก (เป็นแอร์โฮสเตสสายการบิน) มีวินัย และเป็นคนที่ตรงเวลา โดยเฉพาะเวลาที่นัดคนอื่น ก็จะไปก่อนเวลาเสมอ ทุกวันนี้เราก็ยังคงทำอย่างนั้นอยู่ ซึ่งถ้าเราเป็นคนมีระเบียบวินัย ก็จะทำให้เรามีความผิดพลาดน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม เราต้องมีจุดมุ่งหมายหรือไกด์ไลน์ที่บอกมา เพื่อให้เราใช้ชีวิตตามสิ่งที่ตั้งเป้าเอาไว้ ที่สำคัญเมื่อก่อนพี่เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ทุกวันนี้ก็ยังทำอย่างนั้นอยู่ค่ะ”

      ส่วนเรื่องของงานจิตอาสา อย่างการช่วยเป็นล่ามแปลภาษาให้กับนักท่องเที่ยวที่ตลาดนัดจตุจักรนั้น พี่น้อยบอกว่า ทำมานานกว่า 3 ปีแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ เนื่องจากเคยเป็นแอร์โฮสเตส ก็มีทั้งที่ให้ข้อมูลร้านค้าในจตุจักรกว่า 9 พันร้าน และถามเส้นทาง นอกจากนี้ก็ช่วยแปลภาษาให้กับตำรวจนักท่องเที่ยว กรณีที่นักท่องเที่ยวถูกกระชากกระเป๋า ช่วยโทร.ประสานสถานทูตและโทร.อายัดบัตรเอทีเอ็มให้นักท่องเที่ยว ทำตั้งแต่ 09.00-16.00 น. ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์

      “สิ่งที่ได้จากการเป็นจิตอาสา มันทำให้เรามีความสุข และรู้สึกว่าดีกว่าการที่เรานอนอยู่กับบ้าน ทั้งนี้ การได้ช่วยคนอื่น โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว ก็ไม่เพียงทำให้รู้สึกภูมิใจกับการทำหน้าที่ แต่ยังทำให้ประเทศไทยเป็นที่ประทับใจของผู้มาเยี่ยมเยือนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการไม่ทอดทิ้งเมื่อเขาได้รับความเดือดร้อนจากการพักอยู่ในบ้านเรา แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม”

        พี่น้อย ปิดท้ายกับสิ่งที่อยากฝากไปถึงลูกหลาน แม้ว่าจะมีไม่มีทายาท แต่มีหลานๆ ที่อยู่ห่างไกลกัน ว่าการที่เราทำตัวให้เป็นคนดีและคิดดีกับคนอื่น มีความจริงใจกับคนรอบข้าง ที่สำคัญมีมารยาทในการดำเนินธุรกิจ หรือทำธุรกิจด้วยความมีคุณธรรมและจริยธรรม มีจิตสำนึกที่ดี ที่สำคัญเมื่อเราต้องการให้คนอื่นมานับถือเรา เราเองก็ต้องนับถือตัวเอง พูดง่ายๆ ว่าการที่เราทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างที่ดี แน่นอนว่าลูกหลานๆ ก็จะทำตามเราค่ะ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"