ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดเต็มงานหัตถศิลป์ร่วมสมัย รวบรวมสุดยอดงานคราฟต์สร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ในงาน Crafts Bangkok 2019 ชูแนวคิด “Retell the Details : เล่าเรื่องของเรื่องเล่า” รวมเรื่องราวแห่งงานหัตถศิลป์ ที่มีการต่อยอดด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมปั้นผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์รุ่นใหม่สู่ตลาดยุคดิจิทัล หวังสร้างศักยภาพงานหัตถศิลป์ไทยสู่สากล

นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า SACICT มีความพร้อมอย่างยิ่ง กับการจัดงาน “Crafts Bangkok 2019” ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ด้วยแนวคิด “Retell the Details : เล่าเรื่องของเรื่องเล่า” บอกเล่าเรื่องราวงานศิลปหัตถกรรมที่นำมาต่อยอดด้วยนวัตกรรม ผสมผสานเทคนิคความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ในทุกมิติการใช้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบัน เนื่องจากเล็งเห็นว่า ผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทย เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Craft Economy) ของประเทศ โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ที่น่าจับตามอง 5 อันดับแรกประกอบด้วย 1.เครื่องประดับแท้ทำด้วยทอง 2.เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงิน 3.กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน 4.เสื้อผ้าสำเร็จรูปจากฝ้าย และ 5.เสื้อผ้าสำเร็จรูปจากวัตถุทออื่นๆ ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเลขมูลค่าการส่งออกจำแนกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ของประเทศ ช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ปี 2562 ประกอบด้วย 1.ผ้าทอมือ มูลค่า 11,425.79 ล้านบาท 2.เครื่องเงิน เครื่องทอง มูลค่า 24,261.79 ล้านบาท 3.หัตถกรรม มูลค่า 10,217.92 ล้านบาท และ 4.เซรามิก มูลค่า 1,063.16 ล้านบาท ดังจะเห็นได้ว่า สัดส่วนการจำหน่ายผลิคภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย สามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีตัวเลขการเติบโตต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสดีของนักธุรกิจและผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์ไทยในการสร้างโอกาสทางการตลาดผลิตภัณฑ์งานหัตถศิลป์ จากจุดแข็งในเรื่องความสวยงามประณีต รวมทั้งการออกแบบที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน สามารถใช้งานได้ง่ายและหลากหลายมากขึ้น จึงเป็นจุดดึงดูดใจให้กับตลาดทั้งไทยและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

สอดคล้องเชื่อมโยงกับความน่าสนใจในการจัดงาน Crafts Bangkok 2019 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4- 7 เมษายนที่ผ่านมา SACICT ได้จัดจำหน่ายงานผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ที่มีความร่วมสมัยที่ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี จะตอบโจทย์ตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ และยังเป็นเวทีแห่งการเจรจาธุรกิจด้านงานหัตถศิลป์ที่มีความหลากหลายมากที่สุดงานหนึ่งด้วย  เพราะได้รวบรวมทุกเรื่องของงานคราฟต์มาไว้ในงานเดียว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์งานฝีมือจากครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิกของ SACICT ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ และหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศมาแสดงและจัดจำหน่ายภายในงาน กว่า 350 คูหา สามารถสร้างรายได้จากการจัดงานกว่า 65 ล้านบาท