25 เม.ย. 62 - สำนักข่าวอิศรา รายงานว่าเป็นประเด็นที่รอผลตรวจสอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อันเนื่องมาจากการโอนหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ธุรกิจสื่อ ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา เกิดขึ้นในวันไหนกันแน่? ระหว่างวันที่ 21 มี.ค.2562 ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่บริษัทฯ (แบบ บอจ.5) นำส่งต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ระบุว่าคัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2562 และ ระบุวันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น วันที่ 21/03/2562) กับ วันที่ 8 ม.ค.2562 ตามคำชี้แจงของนายธนาธร ประกอบเอกสารตราสารการโอนหุ้นลงวันที่ 8 ม.ค.2562 ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 เม.ย.2562 กกต. มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธนาธร โดยให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน (อ่านประกอบ:หลักฐานมีมูล!กกต.แจ้งข้อกล่าวหา‘ธนาธร’ถือหุ้น บ.วี-ลัคฯ -เจ้าตัวยันกำลังใจดีกลับไทยเร็วขึ้น)
ประเด็นข้อสงสัยกรณีข้ออ้างการโอนหุ้นวันที่ 8 ม.ค.2562 ซึ่งตรงกับวันที่นายธนาธรเดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียงใน จ.บุรีรัมย์ โดยยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า นายธนาธรเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ กลับมาโอนหุ้นที่ กรุงเทพฯ ในช่วงเวลาใดกันแน่? ทำไมต้องรีบบึ่งรถมาโอนหุ้นในวันที่ 8 ม.ค.2562 (ตามคำกล่าวอ้าง) ทั้งที่ กกต.ยังไม่ได้ออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง (กกต.ออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง 24 ม.ค.2562)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมประเด็นข้อสงสัยตามคำชี้แจงของนายธนาธรก่อนหน้านี้ และ ข้อสงสัยใหม่ภายหลังจากคำชี้แจงของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ดังนี้
1.การโอนหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด เมื่อวันที่ 8 ม.ค 2562 (โอนหุ้นของนายธนาธรและของนางรวิพรรณภรรยา ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ) กับ โอนหุ้นวันที่ 14 ม.ค. 2562 (นางสมพรได้โอนหุ้นในส่วนของนายธนาธรและหุ้นในส่วนของนางรวิพรรณให้หลานชายสองคนคือ นาย เอ กับ นายบี (วันที่ 22 เม.ย.2562 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ชี้แจงแทนว่า หลานชื่อนายทวี กับนายปิติ) และ วันที่ 21 มี.ค. 2562 ที่อ้างว่าหลานชายโอนหุ้นกลับมาให้นางสมพร กรณีดังกล่าว ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพฯ มีเพียงการยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนฯ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย ชุดใหม่ จำนวน 5 คน วันที่ 21 มี.ค.2562 เท่านั้น ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการทำหนังสือโอนหุ้นกันเองหรือไม่ ถ้าเทียบบริษัทอื่นในเครือไทยซัมมิท เอง อาทิ บริษัท ไทยซัมมิท ระยอง โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ที่มีนายธนาธรถือหุ้นอยู่ด้วย ทางบริษัทฯนำส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนฯ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2 ครั้ง ในรอบปี ในปี 2558 บริษัทฯสามารถจดทะเบียนส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นได้มากกว่า 1 ครั้งในรอบ 1 ปี
2. เหตุใดจึงไม่เปิดเผยชื่อพยานผู้ลงนามในตราสารการโอนหุ้นของตน ชื่อพยานผู้ลงนามโอนหุ้นของภรรยาและของคนอื่นๆ
3. เหตุใดการชี้แจงของนายธนาธรก่อนหน้านี้ ไม่เปิดเผยชื่อ หลานชายผู้รับการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จากนางสมพร เพิ่งมาเปิดเผยในการแถลงข่าวของนายปิยบุตร เมื่อวันที่ 22 เม.ย.
4. บริษัทในเครือซัมมิทที่มีปัญหาและหรือต้องปิดกิจการ นางสมพรใช้วิธีบริหารจัดการโดยการโอนหุ้นให้หลานชาย 2 คนเข้าไปศึกษาธุรกิจและติดตามหนี้สิน แนวทางเดียวกับ บริษัท วี-ลัค มีเดียหรือไม่
5. เมื่อนายธนาธรต้องการตัดขาดจากธุรกิจ จึงโอนหุ้นของตนเองกับนางรวิพรรณ ภรรยา ให้นางสมพร วันที่ 8 ม.ค.2562 (ตามคำกล่าวอ้าง) ทำไม นางรวิพรรณจึงไม่ลาออกจากกรรมการ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ตั้งแต่วันที่ วันที่ 8 ม.ค.2562 (ตามคำกล่าวอ้าง) ไฉนจึงมาลาออกจากกรรมการวันที่ 19 มี.ค.2562 โดยนางสมพรยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในวันที่ 22 มี.ค.2562 ทิ้งช่วงเวลาถึง 3 เดือน
6. มีการเปิดเผยเช็คค่าโอนหุ้นของนายธนาธรที่ได้รับจากนางสมพร ฉบับลงวันที่ 8 ม.ค.2562 จำนวน 6,750,000 บาท แต่ไม่มีการเปิดเผย เช็คค่าโอนหุ้นของนางรวิพรรณ และไม่เปิดเผยข้อมูลว่า การโอนหุ้นให้หลานชาย วันที่ 14 ม.ค.62 และการโอนหุ้นวันที่ 21 มี.ค. เป็นการให้หรือซื้อขาย
7. ไม่มีการเปิดเผย statement ของธนาคารในการซื้อขายหุ้นของนายธนาธรและภรรยา ข้อมูลการนำเช็คไปเข้าบัญชีเมื่อไหร่ (เช็คที่มีจำนวนเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคารจะต้องรายงานให้สำนักงาน ปปง. ทราบในวันทำการถัดไป)
สำนักข่าวอิศรารายงานไปก่อนหน้านี้แล้วว่า วันที่นางสมพร ส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทฯ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,วันคัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ,วันที่ระบุในเลขหมายใบหุ้น,วันลงทะเบียนผู้ถือบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด 21 มี.ค.2562 ตรงกันกับวันที่ 21 มี.ค.2562 ที่สื่อรายงานข่าว นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร เขต 2 ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษาเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 สั่งให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถอนชื่อออกจากผู้สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากถือหุ้นธุรกิจสื่อ โดยกรณีการยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนฯส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นชุดใหม่ของนางสมพรนั้น เกิดในช่วงเวลา 16.12 น. ไม่กี่นาทีก่อนเวลาราชการ
และเกิดขึ้นภายหลังจากศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาคดีของนายภูเบศวร์ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 ประมาณ 2 วัน
รวมทั้ง การยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนฯ แจ้งการลาออกของ นางรวิพรรณ จากกรรมการบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด วันที่ 22 มี.ค.2562 เกิดขึ้นหลังจากคำตัดสินคดีนายภูเบศวร์ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดเป็นประเด็นปริศนา ต่อกรณีการโอนหุ้นธุรกิจสื่อของนายธนาธร ถ้าเทียบกับการโอนหุ้นของนักการเมืองอื่นๆแล้ว ดูจะมีความสลับซับซ้อนมากกว่า ในช่วง 3 เดือน โอนกัน 3-4 ครั้ง ฉะนั้นต้องรอความกระจ่าง จากผู้เกี่ยวข้อง อ่านต้นฉบับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |