ปัดขึ้นค่ารถเมล์หลังเลือกตั้ง


เพิ่มเพื่อน    

25jo0102.pol
ปัดขึ้นค่ารถเมล์หลังเลือกตั้ง
    ศาลปกครองจ่ออ่านคำสั่งคุ้มครองเรื่องขึ้นค่ารถเมล์หรือไม่ศุกร์นี้ “ลุงตู่” โยนไม่ใช่ขึ้นราคาหลังเลือกตั้ง แต่เป็นมติขนส่งทางบกกลาง “อาคม” ปูดข่าวร้ายนี่แค่น้ำจิ้ม ครบปีปรับอีกระลอก
    เมื่อวันพุธที่ 24 เม.ย. ศาลปกครองได้นัดฟังคำสั่งคำขอคุ้มครองชั่วคราว ในคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกรณีอนุมัติให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางสาธารณะทั้งใหม่และเก่า ในหลายๆ หมวด ในอัตราตั้งแต่ 1- 7 บาทนั้น ล่าสุดศาลปกครองได้รับข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย และเรียกเอกสารเพิ่มจากบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อประกอบการพิจารณา โดยศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวช่วงเย็นวันที่ 26 เม.ย.นี้
    นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ซึ่งมาติดตามกรณีดังกล่าว กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ เพราะปัจจุบันการจัดการบริหารรถเมล์ไม่สามารถเก็บค่าโดยสารสะท้อนต้นทุน ขาดทุนอย่างหนัก โดย ขสมก.เองยังขาดทุนกว่า 100,000 ล้านบาท หากยังเป็นอย่างนี้ต่อ ท้ายที่สุดเมื่อผู้ประกอบการไม่สามารถอยู่ได้และเลิกกิจการ ก็จะกระทบประชาชนผู้ใช้บริการ
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีนี้ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ไม่ใช่รัฐบาลไปขึ้นราคาหลังการเลือกตั้ง แต่เป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราต้องติดตามผลกระทบที่ตามมา เพื่อหาทางลดปัญหาให้ได้มากที่สุด พัฒนาปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้น วันนี้มีทั้งรถใหม่และรถเก่าที่ปรับปรุงใหม่ ทุกอย่างเดินหน้ามา ถือเป็นความก้าวหน้าของรัฐบาลนี้ 
“สิ่งเหล่านี้ต้องมองในเรื่องต้นทุน และเรื่องขนส่งมวลชนด้วย ทุกคนทราบดีว่า ขสมก.มีหนี้สินจำนวนมากที่ติดค้างอยู่ และมีผลกระทบไปถึงผู้ประกอบการรถร่วมต่างๆ ทั้งหมด และเราก็ไม่ได้ขึ้นราคามาเป็นเวลานานแล้ว จึงขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ว่าจะพิจารณาอย่างไรต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมกล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางมีมติเมื่อเดือน ธ.ค.ในการปรับค่าโดยสาร เพราะการปรับราคาครั้งล่าสุดที่ปรับไปคือเมื่อปี 2558 เนื่องจากราคาซีเอ็นจีอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาท และมีการลอยตัวค่าก๊าซ  ซึ่งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ช่วยเรื่องราคาพลังงาน โดยรับภาระไว้ 3 บาท แต่หลังจากนี้ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ราคาพลังงานจะเพิ่ม โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะลอยตัวก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งปัจจุบันราคาอยู่ที่ 16 บาท แต่เดือน พ.ค.จะปรับเป็น 19 บาท ขสมก.ต้องจ่ายราคาเต็ม ส่วนรถร่วมฯ ขสมก.จะได้รับการอุดหนุนคันละ 3 หมื่นบาท
    “ก่อนหน้านี้ ขสมก.ได้ตรึงค่าโดยสารมาโดยตลอด จนมีการศึกษาต้นทุนการประกอบกิจการรถ ขสมก. และรถร่วมบริการจนมีมติให้ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่ในวันที่ 21 ม.ค.2562 แต่การประกาศปรับขึ้นราคาในครั้งนั้นกระชั้นชิดไป จึงได้ขยายเวลาไปอีก 3 เดือน โดยมีผลในวันที่ 22 เม.ย.” นายอาคมกล่าว
    นายอาคมกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ปี 2558-2559 ได้ว่าจ้างเอกชนให้ศึกษาต้นทุนเรื่องการประกอบกิจการของ ขสมก.และรถร่วม ซึ่งได้ศึกษาและรายงานมาที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ต่อมาได้มีมติการปรับอัตราค่าโดยสารใหม่ จากเดิมจะปรับใน ม.ค.2562 แต่ก็เลื่อนมา 3 เดือน ซึ่งการปรับขึ้นค่าโดยสารครั้งนี้ ได้ดูในเรื่องของเชื้อเพลิง และเรื่องของปัจจัยอื่นๆ ด้วย ยืนยันว่า ขสมก.ไม่ได้ปรับค่าโดยสารแพง เนื่องจากก่อนหน้านี้ในปี 2558 ที่มีมติให้รถร้อน ขสมก.เก็บอัตราค่าโดยสาร 8 บาท แต่ ขสมก.เก็บเพียง 6.50 บาท ซึ่งการเก็บค่าโดยสารเท่ากับอัตราในปี 2558 เพื่อเป็นค่าเชื้อเพลิง ค่าซ่อมบำรุง และค่าแรงขั้นต่ำ ดังนั้นหากไม่มีการปรับขึ้น ขสมก.ก็จะแบกรับภาระไว้
    “การปรับราคาครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับไม่เต็มเพดาน โดยอีกระยะจะปรับเมื่อครบปีไปแล้ว นอกจากนี้ การปรับค่าโดยสารยังปรับค่าโดยสารของรถตู้โดยสารสาธารณะ รถสองแถว เนื่องจากมาตรการบังคับให้รถตู้ลดจำนวนที่นั่งจาก 15 ที่นั่งเหลือ 13 ที่นั่ง และค่าซีเอ็นจีปรับให้ 1 บาท 20 กิโลเมตรแรกไปไม่เกิน 1.20 บาท โดยหากเจอปรับค่าโดยสารเกินกว่ากำหนด ก็สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปดูแลแล้ว”นายอาคมกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"