ต้องบอกว่า “การเมือง” ยามนี้ร้อนระอุเหมือน “อากาศ” บ้านเราอย่างไรอย่างนั้น แม้เปลี่ยน “เป้า” จากการยื้อแย่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของ “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคพลังประชารัฐ” มาเป็นเรื่องของการเช็กบิลบรรดาว่าที่ ส.ส. ก็ตามที ...๐ โดยเฉพาะกรณี กกต.ชี้มูล “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) หรือ พ่อของฟ้า ในการถือหุ้น “บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด” และให้โอกาสจะมาชี้แจงหรือไม่ก็ได้ใน 7 วัน ซึ่งที่น่าสนใจคือ บรรดา “FC พ่อฟ้า” ทั้งหลาย ยามนี้เริ่มแปรเปลี่ยนจากการท่องคาถาว่าจบไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ตามที่ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรค อนค.พยายามสร้างและตอกย้ำ “ม็อตโต้” ดังกล่าวให้สังคมเข้าใจตามนั้น มาเป็นเรื่อง “วี-ลัค” ปิดไปแล้ว 2 ปีบ้าง เป็นสื่อบันเทิงบ้าง ไม่ใช่สื่อหนังสือพิมพ์หรือสื่อยักษ์ใหญ่แต่ประการใด ทำไมต้องหาเรื่องกัน ...๐ อ้าว! เล่นมุกใหม่อีกแล้ว เพราะคงรู้ว่ากรณี การโอนหุ้นในวันที่ 8 ม.ค.นั้น “พิรุธ” เริ่มกินตัวนั่นแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเจ้าตัว “ธนาธร” เองว่าตกลงอยู่ตรงไหนในวันนั้นกันแน่ หรือแม้กระทั่งบัตรอีซี่พาสที่ “ปิยบุตร” นำมาสร้างความใสสะอาดให้กับ “พ่อฟ้า” สุดท้ายเริ่มเกิดข้อสงสัยว่าใช่จริงหรือ และยังไม่นับรวมถึงข้อสังเกตเรื่อง “สเตทเมนต์” ที่ไม่มีซักใบในการซื้อขาย-โอนหุ้น รวมถึงการตีหนี้สูญ 11 ล้านบาท ก่อนยุบกิจการไป ...๐ เรียกว่ายิ่งแจงยิ่งพันตัว ยิ่งกว่า “ลิงแก้แห” เลยต้องมาเปลี่ยนมุกใหม่ว่าด้วยเป็นแค่สื่อบันเทิงเล็กๆ เพื่อให้ดูว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่กลับถูกกลั่นแกล้งเสียนี่ แล้วจำได้ไหมเอ่ยว่า ใครเล่ามักชอบอ้างหลักการเรื่อง “ผลของต้นไม้พิษ” อยู่เสมอๆ กรณี “ธนาธร” ก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อเล็กหรือใหญ่ ในเมื่อกฎหมายกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นก่อนเข้าสู่สนามการเลือกตั้งแล้ว หากยังแถยังดึงดันอย่างนี้ จะไม่ เรียกว่าเป็น “เมล็ดพันธุ์แห่งต้นไม้พิษ” เหรอ ที่สำคัญขนาดเพิ่งเข้าสู่ถนนการเมืองยังไม่ให้ความสำคัญกับ “กฎหมาย” แล้วหากได้เข้ามาบริหารประเทศชาติจะไม่ยิ่งกว่านี่เหรอ ดูตัวอย่างได้จากคนที่เคยบอกว่า “รวยแล้วไม่โกง” ได้ ที่ตอนนี้ก็พิสูจน์มาแล้วในหลายต่อหลายคดีว่าเป็นอย่างไร ...๐ กรณี “วี-ลัค” ของธนาธรนั้น หากเจ้าตัวยอมรับตั้งแต่ต้นว่า “ลืม” หรือไม่ตั้งใจ ยังเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจได้ เพราะ “ไพร่หมื่นล้าน” ก็ยังเคยหลงเคยลืมตัวตนของนิตยสาร “ฟ้าเดียวกัน” มาแล้ว งานนี้จะใช้เหตุผลดังกล่าวมาสร้างความชอบธรรมอีกครั้ง ยังดีกว่าการพยายามสร้างข้อมูลที่ยิ่งแจงยิ่งน่าสงสัย และพานจะทำให้เรื่อง “โกโซบิ๊ก” ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะการกล่าวอ้างว่าเป็นการทำลายกันทางการเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องของ “ตัวเอง” ที่ไม่ทำตามกฎหมาย แท้ๆ ...๐ เห็น “คารม พลพรกลาง” ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค อนค. ปลุกบรรดาสาวกให้ไปต้อนรับ “พ่อฟ้า” ในการบินกลับไทยในช่วงค่ำวันที่ 25 เม.ย.แล้ว ไพล่ให้นึกถึง “คนหน้าเหลี่ยม” ที่เคยกลับมาถึงไทยแล้วกราบสนามบินอย่างไรไม่รู้ งานนี้หากเห็น “ธนาธร” ก้มลงกราบบ้าง ก็เชื่อว่าได้ฮือฮากันแน่นอน  และที่สำคัญอาจทำให้บรรดาเอฟซีพ่อฟ้าถึงกับร่ำไห้ก็เป็นได้ ...๐ หันมาเรื่อง “ใบส้ม” ใบแรกจาก 7 อรหันต์ กกต.กันบ้าง ล่าสุดหวยก็ไปออกที่ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ “สุรพล  เกียรติไชยากร” ซึ่งผลพวงที่สำคัญนอกจากการเลือกตั้งในเขตดังกล่าวใหม่แล้ว  ยังมีโทษทางอาญา แต่ที่น่าสนใจคือ การตัดคะแนนจำนวน 52,126 ออกจากการคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ด้วย นี่ถ้ามองโลกในแง่ร้าย หาก “กกต.” เล่น แจกใบส้มตามข่าวที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ 66 ใบจริง ก็เชื่อว่าอาจทำให้โฉมหน้าแกนนำรัฐบาลเห็นหน้าค่าตาชัดแจ้งมากขึ้น และอาจทำให้ “กกต.” ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติตีตกในเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่หวังจะหา “หลังพิง” ต้องแห้วไป อาจมีช่องทางหายใจมากขึ้น เพราะแม้ กกต.จะประกาศว่า 9 พ.ค.จะประกาศรับรอง ส.ส. 500 คน แต่ อย่าลืม “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี กูรูกฎหมายเคยชี้ช่องไว้แล้วเส้นตายวันสุดท้ายคือ 23 พ.ค. ซึ่งหาก กกต.แจกใบส้มตามข่าวก่อนหน้านี้จริง ก็น่าจะใช้ช่องของ “เนติบริกร” ดิ้นในเรื่องดังกล่าวได้ ...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวค่ารถเมล์กันบ้าง  แม้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะบอกว่าการขึ้นค่าโดยสารเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบก ไม่ใช่รัฐบาลต้องการขึ้นแล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อนหลังเลือกตั้ง แหม! จะไม่ให้ชาวบ้านเขาคิดได้อย่างไรเล่า เพราะตอนยืดค่ารถเมล์ดังกล่าวก็เป็นช่วงก่อนเลือกตั้ง ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าขนส่งสาธารณะนั้นแม้ขาดทุนก็เป็นเรื่องการช่วยผู้มีรายได้น้อย แล้วยังเป็นการส่งเสริมให้หันมาใช้ขนส่งมวลชนด้วย ถ้าคิดแค่เรื่องขาดทุน-กำไรอย่างเดียว แล้วกรณี “ครม.”ไฟเขียวต่ออายุยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าออกไปอีก 6 เดือน หรือกรณีการออกมาตรา 44 อุ้มทีวีดิจิทัล-ค่ายมือถือนั้น จะให้หมายความอย่างไรกันเล่า หรือเพราะคนไม่เท่ากันจ๊ะ ...๐