19 ก.พ.61 - ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.ศรีวราห์   รังสิพราหมณกุลรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางรับตัว นายกฤษชาภณ หรือสุกิจ พูลศิลป์ เจ้าของห้องพักเลขที่ 2/28 อาคารที 10 คอนโดเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กรณีพบวัตถุระเบิดจำนวนหลายรายการในห้องพัก เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทหาร ได้เชิญตัวไปควบคุมเพื่อซักถามปากคำ 

นายกฤษชาภณ ให้การยอมรับสารภาพ ว่าได้ ร่วมกับนายกฤศ หรือธีรชัย อุตรวิเชียร, นายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ กชธรรมคุณ, นายอุดมชัย นพสวัสดิ์, นายนิคม ไชยต้นเทือก และนายธีระพัฒน์ หรือธวัชชัยบุญมาก ก่อเหตุขว้างระเบิดเข้าไปในบ้านของ นายสำราญ รอดเพชร (แกนนำ กปปส.) ที่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่บ้านชวนชื่น ซอยคู้บอนซอย 6 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ม.ค.2557 เวลาประมาณ 03.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่รับตัว มีแพทย์เวรจาก รพ.ตำรวจ ทำการตรวจร่างกาย และแสดงหมายจับโดยมีทนายจากสภาทนายความร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย 

จากการสอบสวนนายกฤษชาภณ ยังได้ให้การรับสารภาพว่า นอกจากร่วมกันขว้างระเบิดใส่บ้านนายสำราญแล้ว  ยังมีแผนสังหาร นายอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ด้วย โดยวันเกิดเหตุชุดฏิบัติการ 5-6 คนโดยส่วนใหญ่อยู่ในชุดปฏิบัติการปาระเบิดบ้านนายสำราญ ขับรถ จยย.2  คันได้ไปดูลาดราว ที่ทำการพรรคของนายแทนคุณ ย่านหลักสี่ แต่ไม่พบตัว เนื่องจากนายแทนคุณอยู่เวทีของ กปปส.ตลอดเวลา 

"แผนสังหารครั้งนี้ มีนายโกตี๋เป็นคนสั่งการ แต่วันไปดูที่ทำการพรรคผมไม่ได้ไปด้วย ชุดปฏิบัติการดังกล่าวมีอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก ตระเวนดูลาดลาว 2 ครั้ง ถ้าเจอก็ยิงเลย" คำให้การของ นายกฤษชาภณ 

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่ววว่า ถ้าคุณแทนคุณร้องทุกข์ดำเนินคดีก็จะมอบให้ทางกองปราบดำเนินการสืบสวนสืบสวนต่อไป แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายแทนคุณว่าจะร้องทุกข์หรือเปล่า ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 57 ระหว่างการชุมนุมทางการเมือง นอกเหนือจากกรณีของนายแทนคุณแล้ว ยังมีอีกหลายเคส แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เป็นเรื่องลับ มีอยู่ประมาณ 3-4 เคส ย้ำว่าเป็นเรื่องลับ ทางฝ่ายความมั่นคงของกองทัพอยู่ระหว่างการสืบสวน ยืนยันว่ามีอีกหลายเคส ที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง ส่วนคนที่อยู่เหนือนายโกตี๋ ในการสั่งการนั้นอยู่ระหว่างสืบสวน แต่เบื้องต้นนายโกตี๋เป็นผู้สั่งการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ นายแทนคุณและนายสำราญ รอดเพชร ได้เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย และหลังจากสอบปากคำเสร็จนายแทนคุณ ได้เข้าแจ้งความดำเนินการร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี พร้อมกับเปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ถึงขนาดถือปืน M16 ไปตามล่าสังหาร มันก็เกินไป การชุมนุมทางการเมืองทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมาย ไม่ควรใช้ความรุนแรง  บทเรียนครั้งนี้จะช่วยเตือนสติทุกฝ่ายต้องเคารพกติกาบ้านเมือง ถ้าทุกคนต่างใช้อารมณ์ใช้อาวุธ ใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่นกัน ก็จะเกิดกาสูญเสียกันมากกว่านี้ 

"ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ยังไม่ถึงฆาต อยากฝากไปถึงผู้ที่กระทำ บางทีต้องคิดถึงว่าถ้าถูกกระทำบ้าง ครอบครัวลูกเมียก็ต้องลำบากไปด้วย ควรสู้กันในเชิงอุดมการณ์ อยากให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง ที่แน่ๆเราไม่เคยรู้จักเขาเลยไม่เคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำ แต่มันเกิดอะไรขึ้น ถึงเกิดความเคียดแค้นชิงชัง ถึงจะฆ่ากันให้ตาย"

นายแทนคุณ กล่าวว่าหวังว่าตนจะเป็นเหยื่อรายสุดท้ายที่ถูกล่าสังหาร จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ถ้าพูดกันแบบตรงไปตรงมาวันที่ 10 ธันวาคม 2554 ทีมงานผมถูกยิงเสียชีวิตที่ตลาดโกสุมดอนเมือง ก่อนเสียชีวิตเขายังระบุว่าตนก็เป็นหนึ่งในเป้าสังหาร เพราะไปขัดผลประโยชน์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ถูกต้อง แต่ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า มีขบวนการบางอย่างหรือไม่ ที่ไม่สามารถจับคนร้ายได้ รู้สึกละอายใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ด้านนายสำราญ กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนั้นเป็นการชุมนุมด้วยความสันติ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในการจับกุมครั้งนี้ กฎแห่งกรรมมีจริง 4 ปีที่ผ่านมาทำใจไว้แล้ว ว่าจะไม่สามารถจับคนร้ายได้แต่แผ่เมตตา ถือว่าเป็นกฎแห่งกรรมที่ไปพบระเบิดที่เมืองทอง และเชื่อมโยงมาถึงคดีการขว้างระเบิดใส่บ้านของตน ต้องขอขอบคุณ คสช.รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ช่วยทำคดีได้อย่างถูกต้องตรงไปตรงมา.