23เม.ย.62-นางสาวดุริยา อมตวิวัฒน์  รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (รองปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เลขาธิการคุรุสภา และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. กล่าวว่า ตามที่มีการปิดรับสมัครผู้เข้ารับการสรรหาทั้ง 3 ตำแหน่งไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมานั้น ตนได้มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อที่จะซักซ้อมการดำเนินการต่างๆ โดยในวันที่ 26 เมษายน จะมีการประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเข้ารับการพิจารณาทั้ง 3 ตำแหน่ง และในวันที่ 2-3 พฤษภาคม จะดำเนินการสอบสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์  ต่อจากนั้นคณะกรรมการสรรหาจะดำเนินการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติให้เหลือตำแหน่งละ 2 ราย เพื่อเสนอให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พิจารณา เลือกผู้ที่เหมาะสมภายในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ตามกรอบที่มีการกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหา จำนวน 23 ราย คือ ตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา มีผู้สมัครเข้ารับการสรรหา จำนวน 13 ราย เลขาฯ สกสค. 4 ราย และ ผอ.องค์การค้าของ สกสค. 6 ราย

นางสาวดุริยา กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการคัดเลือกในครั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะยึดเรื่องธรรมาภิบาลเป็นลำดับแรก เพราะ รมว.ศธ.ก็เน้นย้ำในเรื่องนี้ อีกทั้งชื่อเสียงที่ผ่านมาของทั้ง 3 หน่วยงานนี้ ก็อาจจะทำให้สังคมจับตามองว่าหน่วยงานเหล่านี้มีภาพที่ไม่ดี ดังนั้นธรรมาภิบาลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และยังต้องมีประวัติดีทำงานได้ตรงกับตำแหน่งของงาน เช่น ผอ.องค์การค้าของ สกสค. จะต้องรู้งานด้านธุรกิจ ส่วนเลขาฯ คุรุสภาจะต้องรักครูรักเด็กมีความเข้าใจเนื้องานของความเป็นครู และเลขาฯ สกสค. จะต้องมีวิสัยทัศน์เรื่องสวัสดิการของครู และมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาดูแลครู เป็นต้น ทั้งนี้ส่วนตัวตนไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะเท่าที่ทราบรายชื่อผู้สมัคร ก็เป็นคนที่เคยทำงานร่วมกันรู้จักกัน 
"ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีใบสั่งมาให้เลือกคนนั้น คนนี้  ประเด็นนี้ยืนยันว่าไม่สามารถสั่งได้ แต่สั่งมาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และการที่ รมว.ศธ.เลือกดิฉันให้มาทำหน้าที่นี้ก็เพราะมีความเป็นกลางไม่เล่นไม่พรรคเล่นพวก อีกทั้งการดำเนินการในครั้งนี้ได้ยึดตามกรอบอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้คิดว่าเรื่องการสรรหาครั้งนี้อาจจะมีการร้องเรียนเกิดขึ้น ซึ่งก็คงจะมีเพราะถือเป็นอาชีพของผู้ร้อง แต่ขึ้นอยู่กับตนและคณะกรรมการที่จะพิจารณาว่าสิ่งที่มาร้องเรียนนั้นรับฟังได้หรือไม่"