23 เม.ย. 62 - ที่ห้องพิจารณา 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีความผิดต่อชีวิตหมายเลขดำ อย.4011/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายวิทวัส หรือกัส จิตธโนปจัย อายุ 23 ปี พ่อเลี้ยงโหดใช้หมอนทับลูกเลี้ยงจนสิ้นใจ ก่อนนำศพใส่ตะกร้าไปทิ้งปากซอยย่านห้วยขวาง เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 199, 288, 366/3 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 57, 91
กรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2561 เวลากลางคืน จำเลยจับเด็กทารกชายวัย 6 เดือนพลิกคว่ำหน้าลงกับพื้นเตียงแล้วนำผ้าห่มห่อคลุมร่างไว้ก่อนนำหมอนวางทับผ้านวมแล้วนอนหนุนกดทับร่างเด็กทารกที่อยู่ใต้ผ้าห่มนาน 30 นาทีโดยมีเจตนาฆ่าเด็กทารก จนถึงแก่ความตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจ จากนั้นจำเลยกับ น.ส.กาญจนา ทศสว่าง มารดาของเด็กทารก ซึ่งแยกดำเนินคดี ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายศพโดยนำศพใส่ตะกร้าเสื้อผ้ามีเสื้อผ้าวางปิดบังศพไว้แล้วนำไปทิ้งบริเวณที่ดินรกร้าง ริม ถ.ประชาอุทิศ ซ.รัชดานิเวศน์ แยก 5 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. เพื่อปิดบังการตาย นอกจากนี้ยังพบว่า จำเลยจำเลยได้เสพเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดประเภท 1 หรือยาบ้าโดยใช้ไฟลนแล้วสูดดมควันเข้าร่างกาย
จำเลยให้การรับสารภาพ และถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลเบิกตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยให้การรับสารภาพว่าวันเกิดเหตุจำเลยอยู่กับผู้ตายเพียง 2 คนในห้องเช่า โดยผู้ตายร้องไห้เสียงดัง จำเลยเกิดความรำคาญ จึงใช้ผ้าห่มกดทับร่างของผู้ตายจนเสียชีวิตแล้ว เมื่อมารดาของผู้ตายกลับมาจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ก่อนจะนำศพไปทิ้งที่ ที่ดินรกร้าง ริม ถ.ประชาอุทิศ ซ.รัชดานิเวศน์ แยก 5
โจทก์มี น.ส.กาญจนา เทศสว่าง มารดาของผู้ตายเบิกความเป็นพยานสอดคล้องกับคำรับสารภาพของจำเลย จึงเชื่อว่าคำให้การของเป็นความจริง ไม่ใช่เพื่อปัดความผิด ประกอบกับผลตรวจศพของแพทย์ระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ สอดคล้องกับคำรับสารภาพของจำเลย ซึ่งหากจำเลยไม่ได้กระทำผิด คงไม่ทราบถึงสาเหตุการตาย พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานซ่อนเร้นศพ จำคุก 2 ปี และเสพเมทแอมเฟตามีนจำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานฆ่าผู้อื่น จากจำคุกตลอดชีวิตเปลี่ยนเป็นโทษ จำคุก 50 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 25 ปี ,ฐานซ่อนเร้นศพ จำคุก 1 ปี และฐานเสพเมทแอมเฟตามีนจำคุก 3 เดือน รวมจำคุก จำเลยไว้ทั้งสิ้น 26 ปี 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.กาญจนา เทศสว่าง มารดาของผู้ตาย ถูกฟ้องแยกอีกสำนวนหนึ่ง เป็นคดีหมายเลขดำ อย.3635/2561 ในข้อหา ช่วยให้ผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นฯ, ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และโดยไม่มีเหตุอันสมควร, เสพเมทแอมเฟตามีนโดยผิดกฎหมาย โดยศาลได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีผิดฐานช่วยให้ผู้อื่นได้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ฯ จำคุก 4 ปี, ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุ บรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 3 เดือน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |