'คุณหญิงแจ่มใส'เปิดอนุสาวรีย์'บรรหาร'รำลึกเกียรติคุณสมฉายามังกรสุพรรณ


เพิ่มเพื่อน    

23 เม.ย.62- ตระกูลศิลปอาชา นำโดยคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา และนายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นประธานในพิธีเปิดอนุสาวรีย์ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ที่อุทยานสัจจะ-กตัญญู ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี โดยวันที่ 23 เม.ย. ถือเป็นวันครบรอบ 3 ปีของการถึงแก่อนิจกรรม พร้อมมีพิธีวางพวงมาลาและพานดอกไม้รำลึกเกียรติคุณ จากพรรคการเมือง และหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้น มีการอ่านบทกวีและเปิดวิดีทัศน์รำลึกถึงความดีของนายบรรหาร 

สำหรับบรรยากาศ มีคนการเมืองมาร่วมพิธีจำนวนมาก ทั้งสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มาร่วมพิธีเนืองแน่น รวมถึงสมาชิกที่ลาออกไปแล้ว อย่าง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายภราดร ปริศนานันทกุล นอกจากนี้ ยังมีแกนนำพรรคการเมืองอื่น อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคร่วมด้วย 

สำหรับอนุสาวรีย์ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 21 เป็นรูปหล่อทองสำริดเสมือนจริง สูง 2 เท่าของความสูงจริง ประมาณ 3 เมตร น้ำหนักประมาณ 930 กิโลกรัม สวมชุดซาฟารีกางเกงขาเต่อ ที่บนหน้าอกด้านซ้ายบรรจุอัฐิของนายบรรหารไว้ด้วย โดยตั้งใจบรรจุไว้ที่ตำแหน่งของหัวใจ พร้อมกันนี้ ยังสอดแทรกความเป็นเอกลักษณ์ของนายบรรหารที่จะเหน็บปากกา 1 ด้าม ดินสอ 1 แท่ง กระดาษพับ 3 ครั้ง 1 แผ่นไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย พร้อมข้อมือสวมนาฬิกายี่ห้อ Lazer ที่ใส่เป็นประจำราคาไม่กี่พันบาท สวมรองเท้าคู่ละ 400 บาท

ทั้งนี้ อนุสาวรีย์ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 เกิดจากความร่วมมือของคนสุพรรณบุรีทั้งจังหวัดที่ได้รวบรวมเงินบริจาค พร้อมด้วยครอบครัวศิลปอาชาร่วมสมทบจำนวนเงินอีกครึ่งหนึ่ง รวมทั้งหมดเกือบ 20 บ้านบาท

ทั้งนี้นายวราวุธ  กล่าวถึงพิธีเปิดอนุสาวรีย์ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ที่อุทยานสัจจะ-กตัญญู ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี   ด้วยว่าเป็นความภาคภูมิใจของประชาชน จังหวัดสุพรรณบุรี เพราะตลอดที่นายบรรหารมีชีวิต และนำการพัฒนามาสู่พื้นที่ทำให้มีผู้ศรัทธาและเคารพเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนมองว่านายบรรหารเป็นนักการเมืองเพียงไม่กี่คนที่ทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้นจึงได้รับความยกย่องและศรัทธาแม้จะถึงแก่อนิจกรรมไปแล้วครบ 3 ปี

"อนุสาวรีย์พ่อบรรหาร เป็นรูปหล่อทองสำริดเสมือนจริง สูง 2 เท่าของความสูงจริง ประมาณ 3 เมตร น้ำหนักประมาณ 930 กิโลกรัม สวมชุดซาฟารีกางเกงขาเต่อ ทั้งนี้บนกระเป๋าเสื้อหน้าอกด้านซ้ายบรรจุอัฐิของนายบรรหารไว้ด้วย โดยตั้งใจบรรจุไว้ที่ตำแหน่งของหัวใจ พร้อมกันนี้ ยังสอดแทรกความเป็นเอกลักษณ์ของนายบรรหารที่จะเหน็บปากกา 1 ด้าม ดินสอ 1 แท่ง กระดาษพับ 3 ครั้ง 1 แผ่นไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย พร้อมข้อมือสวมนาฬิกายี่ห้อ Lazer ที่ใส่เป็นประจำราคาไม่กี่พันบาท สวมรองเท้าคู่ละ 400 บาท ส่วนงบประมาณก่อสร้างประมาณ 20 ล้านบาท โดย 10 ล้านบาทมาจากครอบครัวศิลปอาชา ส่วนอีก 10 ล้านบาทมาจากเงินบริจาคของประชาชน" นายวราวุธ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.ส.กัญจนา และ นายวราวุธ ร่วมเขียนบทความเปิดใจเนื่องในวันเปิดอนุสาวรีย์นายบรรหาน โดยมีสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า วันที่ 23 เมษายน 2562 ครบรอบ 3 ปีที่พ่อจากไป อนุสาวรีย์พ่อคนสุพรรณอยากทำให้พ่อเขาร่วมกันบริจาคเงิน โดยครอบครัวเราสมทบเติมในส่วนที่ขาด

" เรา 3 คนแม่ลูก ขอบคุณคนสุพรรณไม่ลืมพ่อ ไม่ลืมสิ่งที่พ่อทำให้จังหวัดสุพรรณบุรี  ครอบครัวเราหวังว่า เรื่องราวชีวิตของพ่อจะเป็นแบบอย่าง และกำลังใจให้อนุชนรุ่นหลัง เพราะพ่อคือสามัญชน เกิดเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาที่ไม่ร่ำรวย ทว่ามีศีลธรรม การศึกษาก็ไม่สูง อาศัยความขยัน อดทน หนักเอาเบาสู้  ไม่ท้อถอยต่อปัญหาอุปสรรคใดๆ ชีวิตของพ่อ คือตัวอย่างคนธรรมดาที่เริ่มจากศูนย์ แต่สามารถก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ที่สำคัญ เมื่อได้ดีแล้วพ่อไม่ลืมบ้านเกิดเมืองนอน กลับมาทำความเจริญให้ถิ่นกำเนิด พ่อยึดมั่นในสัจจะ กตัญญู และทุกอย่างที่พ่อทำพ่อพูดเสมอว่า ทำเพื่อลูกเพื่อหลาน รักพ่อมาก" ความในใจจากลูกนา และลูกท็อป

ผู้สื่อข่าวถามว่า​ ถ้านายบรรหารอยู่คิดว่า การเมือง จะเป็นเช่นไรนั้น น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เชื่อว่า นายบรรหารต้องการให้การเมืองเกิดความปรองดอง ที่ผ่านมานายบรรหารไม่ถือว่า ใครเป็นศัตรู เนื่องจากต้องการสร้างความสามัคคีปรองดองเพื่อให้ประเทศไทยนำแนวทางและนโยบายไปแก้ไขปัญหาให้เกิดความสำเร็จ ดังนั้น ตนเชื่อว่า การเมืองที่ปรองดองจะเป็นสิ่งที่นายบรรหารต้องการเห็น ทั้งนี้ ตนเพียงแค่คาดเดา เพราะวันนี้นายบรรหารไม่อยู่ให้ถามแล้ว 

เมื่อถามถึง ชทพ.มีแนวทางสนับสนุนการปรองดองให้เกิดขึ้นอย่างไร น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ชทพ.เป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก ได้ส.ส.เพียง 10 คน ดังนั้น คงไม่มีบทบาทอะไรมาก ทั้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ชทพ.ชูจุดยืนไม่เป็นคู่ขัดแย้ง ไม่สร้างความขัดแย้ง และไม่ทำสิ่งที่ให้เกิดปัญหา แม้แต่ที่ผ่านมาหลายฝ่ายมองว่า ชทพ.จ้องแต่เป็นรัฐบาลแต่ตนยืนยันว่า ไม่ว่า เป็นฝ่ายค้านหรืออะไรก็สามารถทำงานได้เพื่อความสงบสุข ดังนั้น การเมืองหลังจากนี้ พรรคขนาดเล็กจึงต้องนิ่งและฟังอยู่ อย่างไรก็ตาม กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง จึงเชื่อว่า ทุกฝ่ายต้องรอฟังเช่นกัน ส่วนการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นก็ฟอร์มรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดาและปกติที่ฝ่ายการเมืองจะพูดคุยกัน 

เมื่อถามว่า ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งมองสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร น.ส. กล่าวว่า พรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมาก คือพรรคที่พยายามจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ทั้งนี้ ในช่วงของการเลือกตั้งทุกพรรคสู้กันเต็มที่ ดังนั้นภายหลังการเลือกตั้งเชื่อว่า จะไม่เสียเปล่า เพราะประชาชนรอให้รัฐบาลใหม่เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ  และมีฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่รวจสอบถ่วงดุล เพื่อไม่ให้การเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม เสียงของ ส่วนที่หลายฝ่ายปรเเมินว่าการเมืองอาจถึงเดดล็อคเพราะไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้นั้น ตนเชื่อว่าจะมีทางออกเมื่อสถานการณ์มาถึง

ขณะที่นายวราวุธ กล่าวต่อประเด็นการเมืองถึงการรวมขั้วจัดตั้งรัฐบาลว่า ต้องพิจารณาและคำนึงถึงเสถียรภาพของการเป็นรัฐบาล รวมถึงการนำนโยบายของพรรคที่หาเสียงไว้ไปปฏิบัติหรือไม่ อย่างไรก็ตามปัจจัยว่าด้วยเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากหากรวมเป็นรัฐบาล 2-3 เดือนแต่เกิดอุบัติทางการเมือง เช่น ยุบสภา หรือ เลือกตั้งใหม่ คงไม่อยากให้เกิดขึ้น

"รัฐบาลที่จะจัดตั้งต้องคำนึงถึงเสถียรภาพเป็นสำคัญ นอกจากนั้นทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ต้องมีความสามารถสูง เพื่อแก้ปัญหาสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อนในขณะนี้ อย่างไรก็ตามการพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองเพื่อร่วมมือตั้งรัฐบาล ยอมรับว่าได้คุยกันก่อนการเลือกตั้ง" นายวราวุธ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวราวุธ กล่าวตอนหนึ่งถึงการเปิดงานอนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯคนที่ 21 ด้วยว่า การสร้างอนุสาวรีย์นายบรรหาร เป็นสิ่งที่ต้องการสร้างเครื่องเตือนใจสำหรับทุกคนว่า ไม่ว่ายากดีมีจน ประสบความสำเร็จ หรือมีเงินจำนวนมากขนาดไหน เมื่อตายไปไม่สามารถนำทรัพย์สินดังกล่าวไปด้วยได้ แต่สิ่งที่ยังอยู่ในคนนึกถึง คือ ความดี ผลงานที่ฝากไว้บนแผ่นดินนี้ ซึ่งนายบรรหารไม่ได้ฝากผลงานไว้บนแผ่นดินไทย ไม่เฉพาะ จ.สุพรรณบุรี  

"ตายไปแล้ว เอาอะไรไปไม่ได้  จะเหลือไว้แค่ความดีและตำนานไว้ให้คนระลึกถึง ผมเชื่อว่าประวัติของพ่อบรรหารจะเป็นตัวอย่างให้หลายคนได้เป็นอย่างดี" นายวราวุธ กล่าว

ขณะที่​ น.ส.กัญจนา กล่าวตอบทันทีว่า อย่าโกรธอย่าเกลียดกันมาก ในที่สุด ก็ต้องตายเหมือนกัน ขอให้มาร่วมมือกัน ทำดี เพื่อให้ลูกหลานดีกว่า เพราะอีกไม่นานพวกเราก็ตายเหมือนกันหมด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"