23 เม.ย.62 - เฟซบุ๊กแฟนเพจ ยูดีดีนิวส์ - UDD news  ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เผยแพร่คำกล่าว  นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานนปช.  กับมวลชนในกิจกรรมสรงน้ำพระและรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า  "พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยที่เคารพรักทั้งหลาย เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ซึ่งผ่านพ้นไปสองสามวัน แล้วก็ยังมีควันหลงคือพวกเราที่จะต้องรดน้ำดำหัว ผมก็มีเรื่องที่จะกราบเรียนรบกวน 2-3 เรื่อง

เรื่องแรกก็คือเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา การเดินทางไปเยี่ยมเยือนพี่น้องประชาชนในภาคใต้ซึ่งก็ไม่ครบทั่วทุกจังหวัด ผมได้พบว่ามีพี่น้องเสื้อแดงของเราแฝงตัวอยู่ในมวลชนเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย และในขณะเดียวกัน จากการที่คนอื่น ๆ ได้ไปในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ก็พบว่ามีเสื้อแดงอยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน บางรายก็ออกมาแสดงตัวชัดเจน บางรายก็ไม่ออกมาแสดงตัว เพียงแต่สะกิดให้รู้ว่าเราพวกเดียวกัน

การที่พี่น้องทั้งหลายในต่างจังหวัดยังมีความรู้สึกสำนึกว่าเป็นนปช. แสดงให้เห็นว่าความคิดประชาธิปไตยนั้นได้ฝังลึกเข้าไปในสายเลือดของท่านทั้งหลายแล้ว เพราะฉะนั้นผมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของนปช.ต้องขอขอบคุณและขอฝากไปถึงคนเหล่านั้นว่า ท่านทั้งหลายที่แทรกอยู่ทั่วประเทศที่มีความสำนึกต่อชาติบ้านเมืองขอให้มีความสำนึกเช่นนี้อยู่ตลอดไป เชื่อว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกในโอกาสข้างหน้า จะเป็นในโอกาสไหนก็สุดแล้วแต่ แต่ว่าเราจะไม่ทิ้งร้างจากกัน นี่เป็นข้อที่หนึ่ง

ข้อที่สองสิ่งที่สำคัญและผมจะลืมไม่ได้เลยก็คือ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ของเรา อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ นี่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการที่ทำให้พวกเราได้สืบสานต่อมาอย่างไม่ขาดสายนับตั้งแต่เราได้ออกท้องสนามหลวงครั้งแรก ต่อจากนั้นก็ได้มีบทบาทเรื่อยมาจนกระทั่งถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้ส่งมอบภารกิจอันหนักนี้แก่ใครเป็นการเฉพาะ

เพราะฉะนั้นผมขอความร่วมมือพวกเราทั้งหลายให้ความร่วมมือกับ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ซึ่งจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างพี่น้องทั้งหลายกับนปช.ที่ยังเหลืออยู่ ทำงานตลอดไปในวันข้างหน้าทั้งในอนาคตอันใกล้และในระยะทางอันไกล

ประการที่สาม สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งเป็นความพยายามส่วนหนึ่งของอ.ธิดาในการที่จะปลูกฝังรากลึกถึงแก่นแกนของชีวิตจิตใจของพี่น้อง และฝังรากลึกเป็นแก่นแกนของฝ่ายประชาธิปไตยของประเทศไทย สถานที่นี้ก็จะเป็นที่ใหม่ที่จะรวมศูนย์พวกเราให้มาพบปะกันเช่นที่ได้เคยกระทำกันมาเป็นเวลาหลายปี

นอกจากนั้นผมก็มีสิ่งที่ต้องกราบเรียนท่านทั้งหลายว่า สำหรับตัวผมและท่านเลขาธิการ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตลอดจนคุณหมอเหวง โตจิราการ ยังไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ไปเป็นอย่างอื่นแต่อย่างใด เรายังเป็นนปช.อยู่เช่นเคย และก็หวังว่าพี่น้องทั้งหลายจะมีสำนึกความรู้สึกเช่นเดียวกันนี้มาตอบสนองต่อแกนนำหรือพวกผมโดยพร้อมเพรียงกัน

กระผมเองนี้ ปีนี้ก็ 72 ไม่มากครับ ความเจ็บไข้มันมาเบียดเบียนเสีย 10 ปี ทำให้ร่างกายชราไปซึ่งก็เกิดจากความเป็นจริง แต่ผมมีหัวใจสดชื่นแจ่มใสเสมอสำหรับระบอบประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของประชาชน อันนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจของผมไม่เสื่อมคลาย ผมจึงขอปววรณาตัวว่า ถ้าแม้ว่าเรารักชาติบ้านเมือง รักประชาธิปไตย รักสิทธิเสรีภาพอย่างแท้จริงของประชาชนแล้วไซร็ ขอให้เราได้ติดต่อกัน จะติดต่อผม หรือติดต่อคุณหมอ หรือติดต่ออ.ธิดา หรือติดต่อท่านเลขาธิการ ก็จะมีสภาพอย่างเดียวกัน ว่าเราอยู่ในสายธารเส้นทางเดียวกัน

3-4 ประการนี้ฝากไว้ในหัวใจของพี่น้องที่มาร่วมในงานวันนี้ ขอความสุขความสวัสดีจงมีแด่ทุกท่านทุกคนครับ สวัสดีครับ"