ร้อนระดับ หมา ยังช็อกตายไปแล้วนะทั่น...ไม่เชื่อลองไปพลิกดูข่าว เอ็กซ์ไซท์-ไทยโพสต์ ฉบับเมื่อวาน หมาฝรั่งพันธุ์อะไรก็จำไม่ได้ซะแล้ว เจอกับอุณหภูมิอากาศเมืองไทย เล่นเอาลิ้นหอบ ลิ้นห้อย ขาหลังไม่มีแรง เลือดออกทางปาก ทางจมูก ก่อนเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปตามคำวินิจฉัยของสัตวแทพย์ ว่าตายเพราะ โรคลมแดด  หรือเพราะอาการ ฮีตสโตรก ทั้งๆ ที่เป็นหมา เป็นสุนัข สามารถแลบลิ้นระบายอากาศ ระบายความร้อน ได้เป็นอย่างดี...

                                                              ---------------------------------------------------

      แล้วยังงี้มนุษย์ มนา อย่างเราๆ จะไปเหลืออะไร!!!...มีแต่ต้องพึ่งแอร์ พึ่งเครื่องปรับอากาศ พอช่วยให้ลดๆอุณหภูมิความร้อนลงไปได้มั่ง แต่ถ้าดันต้องไปเจอกับ แอร์กี่ อย่างเท่าที่ ท่านขุนน้อย กำลังเจอๆ อยู่ในทุกวันนี้ เลยแทบหนีไม่พ้นต้อง แก้ผ้าปั่นต้นฉบับ หรือแทบต้องเปลือยร่าง เปลือยอารมณ์ จิ้มๆ ทิ่มๆ คีย์บ่ง คีย์บอร์ด ไปตามสภาพ ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อคิด ข้อเขียน มันออกไปทางน่าเกลียด น่าทุเรศ หรือไม่ ประการใด ไปบ้างนั้น ก็อย่าได้ถือสา หาความ อะไรเลย คิดซะว่าเป็นเพราะอากาศร้อนก็แล้วกัน ยิ่งโดยเฉพาะถ้าเป็นการขีดๆ เขียนๆ จิ้มๆ ทิ่มๆ ในเรื่อง การเมือง ด้วยแล้ว ย่อมมีสิทธิ์ร้อน...กับ...ร้อนหนักขึ้นไปใหญ่

                                                               ----------------------------------------------------

      ดูแค่เฉพาะ โจ นูโว กับ จอห์น วิญญู ที่คงไม่ได้เป็นนักขง นักเขียน อะไรกับใครมากมายซักเท่าไหร่ หนักไปทางโพสต์โน่น โพสต์นี่ อะไรประมาณนั้น ยังถึงขั้น หัวร้อน ระดับต้องไปลากเอาพ่อ-เอาแม่ มาท้ากันไปท้ากันมาเอาเลยถึงขั้นนั้น โชคดีที่ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่าย ยังคงหลงเหลือความเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่เอาไว้ไม่น้อย มันถึงพอได้เย็นน์น์น์ๆ ลงไปได้มั่ง แต่ก็อย่างว่า ในโลกโซเชียลมีเดีย อันสุดแสนจะกว้างขวาง ใหญ่โต แทบหาขอบเขต หาปริมาณพื้นที่แทบไม่ได้ มันคงไม่ได้มีแต่เฉพาะคู่ โจ นูโว กับ จอห์น วิญญู เท่านั้น มันยังมีอีกหลายต่อหลายคู่ หรือถึงขั้นจับกลุ่ม รุมสกรัม ประดาบก็เลือดเดือด ชนิดพวกนักเลงคีย์บอร์ดจำนวนไม่น้อย น่าจะ ฮีตสโตรก ไปตามๆ กัน...

                                                                -----------------------------------------------------

      ส่วนใน โลกแห่งความจริง ก็คงไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจาก โลกเสมือนจริง หรือโลกโซเชียลมีเดีย มากมายซักเท่าไหร่นักเพราะภายใต้ ความอึมครึม ทางการเมืองในทุกวันนี้ น่าจะส่งผลให้เกิดการไล่ฟัด ไล่งับ ไล่บด ไล่บี้ กันเป็นการภายใน ไปในแทบทุกกลุ่ม ทุกหมู่ ทุกเหล่าเอาเลยก็ว่าได้ กระแสเสียงเรื่องงูเห่า งูเขียว งูบองหลา มันจึงโชยไป-โชยมาเป็นพักๆ และถ้าหากมันเป็นจริง เป็นจัง ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็คงส่งผลให้เกิดอาการตับแลบ ม้ามแลบ ฮีตสโตรกไปทั้งหมาพันธุ์ไทย พันธุ์ฝรั่ง อีกนั่นแหละหรือทำให้เรื่อง การเมือง ที่มันเป็นอะไรที่ร้อนๆ อยู่แล้ว ยิ่งมีโอกาสที่จะร้อนหนักยิ่งขึ้นไปใหญ่...

                                                                ----------------------------------------------------------

      เพราะ การเมือง บ้านเรานั้น...คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันตกอยู่ในห้วงความร้อน อันเนื่องมาจากความขัดแย้ง แตกแยก ที่ต่อเนื่องกันมายาวนาน แสนนาน ชนิดอาจนับเป็นทศวรรษๆ เอาเลยก็ยังได้ และคงต้องยอมรับอีกเช่นกันว่า ภายในช่วงระยะ 4 ปี 5 ปี ของ คสช.ทั่น ความร้อน หรือความขัดแย้งที่ว่า มันก็ไม่ถึงกับ เบาลง อย่างเท่าที่ควรจะเป็น แถมยังเพิ่มความสลับซับซ้อน พิสดาร ยิ่งๆ ขึ้นไปอีกต่างหาก การอาศัย การเมือง เข้าไป แก้ปัญหาทางการเมือง ผลลัพธ์มันก็ดันออกไปทาง ปริ่มน้ำ-ไม่ปริ่มน้ำ อีกจนได้ หรือเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่ามันแทบแก้อะไรแทบไม่ได้ ความร้อนอันเนื่องมาจากความขัดแย้ง แตกแยก มันก็ยังคงเป็นไปในรูปแบบ แบบเดิม ของมันอยู่นั่นเอง...

                                                                   --------------------------------------------------------

      สิ่งที่อาจพอช่วยลดความขัดแย้ง แตกแยก หรือความร้อนๆ ทางการเมือง เท่าที่ยังพอหลงเหลืออยู่...เลยหนีไม่พ้นไปจากสิ่งที่เรียกว่า วัฒนธรรม ประเพณี หรือ ค่านิยม หรืออารมณ์ความรู้สึกแบบไทยๆ หรือ ความเป็นไทย นั่นแหละ ที่อาจพอช่วยลดๆ อะไรลงไปได้มั่ง คือความมีมิตรจิต มิตรใจ ความผูกพันกันในฐานะญาติ พี่น้อง พรรคพวกเพื่อนฝูง ที่ถึงจะมีมุมมอง มีทัศนคติทางการเมือง ชนิดต้องแยกเป็น ฝ่ายมึง-ฝ่ายกู กันในระดับไหนก็ตาม แต่ถ้ายังถือเป็นเพื่อนฝูง เป็นญาติสนิทมิตรสหายที่ตัดไม่ได้-ขายไม่ขาดซึ่งกันและกัน อย่างน้อย...ก็น่าจะยังพอคบหาสมาคม หรือน่าจะพอ อยู่ร่วมกันโดยสันติ ได้บ้าง...

                                                                     --------------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...เมื่อดันต้องมาเจอกับพวกที่ไม่คิดจะนับญาติ นับมิตร ไม่คิดจะนับถือลุง-ป้า-น้า-อา แถมจะ ยิ้ม  ก็ยังยิ้มไม่ได้ซะอีกต่างหาก กลายเป็นยิ้มเพราะโง่ หรือยิ้มเพราะไม่มีกึ๋น มีม้าม ติดตัวเอาไว้เลย อันนี้...ก็เลยเล่นเอาใครต่อใคร โดยเฉพาะบรรดาพวก ไดโนเสาร์ ทั้งหลาย ออกอาการมึนซ์ซ์ซ์ๆ งงง์ง์ง์ๆ กันไปมิใช่น้อย เมื่อเจอเข้ากับ กะปอม ซึ่งออกจะมาแรง แซงโค้งซะเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...ก็ใช่ว่าจะทำให้สิ่งที่เรียกว่า วัฒนธรรม-ประเพณี จะต้องหมดค่า ด้อยค่าลงไปในแบบฉับพลัน-ทันที เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า ด้วยเหตุเพราะสิ่งเหล่านี้ ย่อมต้องประกอบไปด้วย ธรรมะ ขั้นพื้นฐาน หรือไม่ก็อาจเรียกว่า ศีลธรรม ในระดับอ่อนๆ รองรับเอาไว้ไม่มาก-ก็น้อย ถึงได้ทำให้สิ่งที่ว่าสามารถเชื่อมโยง ยึดโยง สังคมไทยมาได้นับเป็นร้อยๆ พันๆ ปี ด้วยเหตุนี้...แม้ว่า การเมือง มันจะร้อน หรือเป็นตัวเพิ่มความร้อนไปในลักษณะไหนหรือระดับไหนก็ตาม ถ้าหากเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ยังเพียรพยายามยึดมั่นอยู่ใน วัฒนธรรม-ประเพณี อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย โอกาสที่จะชุ่มฉ่ำ เย็นฉ่ำ ไปกับฤดูฝน ฤดูหนาว ที่จะต้องย่างกรายเข้ามาในอีกไม่นาน-ไม่ช้า ย่อมเป็นอะไรที่คง ไม่นานเกินรอ มากมายซักเท่าไหร่นัก...

                                                                       ------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Hal Borland (อีกครั้ง)... Summer ends and autumn comes, and he who would have it otherwise would have high tides always and full moon every night.- ฤดูร้อนผ่านไป ฤดูใบไม้ร่วงจึงจะตามมา ผู้ที่อยากให้เป็นอย่างอื่น ก็เป็นเช่นเดียวกับผู้ที่อยากให้กระแสน้ำขึ้นเสมอ และอยากให้พระจันทร์เต็มดวงทุกคืน...

                                                                         ------------------------------------------------------