อธิบดีราชทัณฑ์ย้ายด่วน ผบ.เรือนจำศรีสะเกษ พร้อมตั้งกรรมการสอบ กรณีหนุ่มใหญ่ถูกกักขังแทนค่าปรับคดีเมาขับช่วงสงกรานต์ กลายเป็นศพในสถานกักขัง มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย รุดปลอบขวัญครอบครัว ยันนำคนมาผิดลงโทษให้ได้ พร้อมอบเงิน 1 แสนเยียวยา
    เมื่อวันที่ 22 เมษายนนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ผู้ต้องกักขังแทนค่าปรับคดี พ.ร.บ.จราจรทางบก เมาแล้วขับ เสียชีวิตภายในสถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้ทราบผลภายใน 7 วัน ระหว่างนี้ได้มีคำสั่งย้ายนายสมบูรณ์ พุทธชาติ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าสถานกักขังเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ไปประจำกรม เพื่อเป็นตัวอย่างให้เรือนจำอื่นๆ เพิ่มความระมัดระวัง ไม่ให้เกิดข้อบกพร่องและความเสียหายในลักษณะนี้ขึ้นอีก
    อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าห้องที่ใช้กักขังมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร แต่มีผู้ต้องกักขังล้นห้องอยู่ถึง 236 คน มีความแออัดมาก และตนไม่เชื่อว่านายพรหมปัญญาจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำ เชื่อว่าอาจจะถูกเพื่อนผู้ต้องกักขังในห้องเดียวกันทำร้ายมากกว่า ทั้งนี้ ได้ประสานงานกับพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งต้องปล่อยให้พนักงานสอบสวนทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ และรอผลการตรวจพิสูจน์ศพทางนิติเวชมาประกอบ จึงจะมีความชัดเจนว่าผู้ต้องกักขังเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด และผู้ใดทำให้เสียชีวิต ยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา
    มีรายงานว่า นายพรหมปัญญา เกษหอม ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตราย และถูกศาลสั่งปรับเป็นเงิน 6,000 บาท แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเสียค่าปรับ จึงถูกกักขังอยู่ในสถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ แทนค่าปรับ กระทั่งวันที่ 18 เม.ย.ก็เสียชีวิต โดยตามร่างกายมีแผลฟกช้ำทั้งตัว ปากเจ่อ ศีรษะบวม จากนั้นทางครอบครัวได้รับศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 9 บ้านนิคมหนองฉลอง ต.หนองฉลอง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
    เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ พุทธชาติ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางไปยังบ้านงานศพ แสดงความเสียใจต่อครอบครัว พร้อมเป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรม และมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือเยียวยาและค่าทำศพ จำนวน 100,000 บาท พร้อมยืนยันกับนางสุรินทร์ แม่ผู้ตาย ว่าจะสอบสวนเรื่องนี้เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง นำตัวคนทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ 
    นางเทวรรณ์ แสนสะอาด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านนิคมหนองฉลอง กล่าวว่า ตนและนางสุรินทร์ แม่ของนายพรหมปัญญา เป็นเครือญาติกัน จากการที่ตนและนางสุรินทร์ได้ไปตรวจสอบที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ  พบว่าภายในสถานกักขังมีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์อย่างชัดเจน แต่ทราบว่าทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้นำเอาภาพทั้งหมดไปแล้ว ตนได้ประกาศกับชาวบ้านนิคมหนองฉลองซึ่งส่วนมากเป็นเครือญาติกัน ว่าหากคดีนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พวกตนจะแห่ศพนายพรหมปัญญาไปร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ เนื่องจากนายพรหมปัญญาเป็นคนดี ช่วยเหลืองานการต่างๆ ของญาติพี่น้อง และช่วยเหลืองานในหมู่บ้านเป็นอย่างดีมาโดยตลอด.