19 ก.พ.61-ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ชาวบ้านวังบง  ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ออกมารวมตัวกันคัดค้าน หลังจากทราบว่าบริษัท ไชน่า

หมิงต๋า โปแตซ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) เตรียมขนอุปกรณ์สำหรับการเจาะสำรวจแร่โปแตช  เข้ามาในพื้นที่ เพื่อเตรียมสำรวจแร่โปแตช หลุมที่ 3 โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ คอยติดตามคุ้มกัน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของชาวบ้าน โดยชาวบ้านได้ติดป้ายคัดค้าน และเขียนข้อความ ดิน น้ำ ป่า สิ่งแวดล้อม ในกระดาษวางไว้บนถนนที่ขบวนขับผ่าน

'รู้สึกหดหู่ใจที่เห็นเจ้าหน้าที่รัฐอำนวยความสะดวกให้กับบริษัทเอกชน แต่ไม่ฟังเสียงของชาวบ้าน ทั้งที่ชาวบ้านพยายามแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ต้องการเหมืองแร่ ซึ่งชาวบ้านก็แสดงออกด้วยความสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง'
 
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา เครือข่ายประชาชนวานรนิวาส ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 เกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่โพแทชในท้องที่อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร หลังจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนคร ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล เรื่อง แผนผังการสำรวจแร่โพแทช ตามอาชญาบัตรพิเศษของบริษัท ไชน่า หมิงต๋า โปแตช คอร์ปอเรชั่น(ประเทศไทย) จำกัด และเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ขณะที่ชาวบ้านเห็นว่า เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชาวบ้าน ที่จะได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการเหมืองแร่ในอนาคต ที่จะต้องได้รับข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง การปกปิดข้อมูลข่าวสารก็เป็นการละเมิดสิทธิชาวบ้านเช่นกัน

ทั้งนี้หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้อนุมัติอาชญาบัตรพิเศษ ให้สำรวจแร่โพแทช กับ บริษัท ไชน่าหมิงต๋า โปแตซ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 12 แปลงพื้นที่ 1.2 แสนไร่ อยู่ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อเดือน มกราคม 2558 ชาวบ้านอำเภอวานรนิวาส ได้ลุกขึ้นมาแสดงเจตนารมณ์คัดการสำรวจแร่ เพื่อนำไปสู่การทำเหมืองแร่ แหล่งชุมชน และพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ชาวอำเภอวานรนิวาสจาก 6 ตำบล กว่า 300 คน เดินทางมารวมตัวกันบริเวณโรงหนังเก่าใกล้กับตลาดสด อ.วานรนิวาส ก่อนจะเดินรณรงค์ในพื้นที่ตลาด และเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนกับนายอำเภอ หน้าที่ว่าการอำเภอวานรนิวาสอีกครั้ง เพื่อคัดค้านการสำรวจโพแทช ในพื้นที่อำเภอวานรนิวาส ชาวบ้านมองว่าเสียงคัดค้านของคนวานรนิวาส ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มีการสำรวจแร่โพแทชถูกเมินเฉยไม่ได้รับการตอบสนองจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยจะเห็นได้จาก กรณีที่ชาวบ้านไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับการสำรวจแร่ พบว่า ตลอด 3 ปี ที่ชาวบ้านยืนนหนังสือ ขอเอกสารแบบท้ายอาชญาบัตรพิเศษ แผนที่การสำรวจแร่ จากอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนคร ชาวบ้านไม่เคยได้รับเอกสาร ตามที่ได้ร้องขอไป.