หอการค้าปรับตัวเลขประมาณการจีดีพีขึ้นเป็น 4.4% จากเดิม 4.2% มองปัจจัยบวกจากการลงทุนภาครัฐ-ส่งออก-การท่องเที่ยว - การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ และบัตรคนจนเฟส 2 กระตุ้นให้ขยายตัว 
            

19 ก.พ. 60-  นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าได้ปรับประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2561 คาดจะมีการขยายตัวขึ้นเป็น 4.4% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 4.2% ซึ่งการปรับขึ้นดังกล่าวมีปัจจัยบวกด้วยกันหลายอย่าง เช่นการส่งออกจะเติบโต 6%  และเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 1.3% ภายใต้อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยเคลื่อนไหวคงที่ในระดับ 1.50% ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 60 ล้านเหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 38.6 ล้านคน

นอกจากนี้ยังมีผลมาจากการลงทุนของภาครัฐที่มีมากขึ้น ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และการที่รัฐมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนระดับราคาสินค้าเกษตรในปีนี้น่าจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 

 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยบวกแต่ก็มีปัจจัยลบที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2561 เช่นกัน ทั้งนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยของโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจจีนอาจโตไม่เกิน 7% นับว่าต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น ด้านเงินบาทแข็งค่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่ค้าสำคัญ หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง ทางสถาบันการเงินมีความระมัดระวังในการปล่อยกู้ และกำลังการผลิตส่วนเกินยังอยู่ระดับสูง หรือใช้กันอยู่ 60% ซึ่งตามทฤษฎีหากมีการใช้กำลังการผลิต 70% จะมีการลงทุนเพิ่ม แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงระดับดังกล่าว