22 เม.ย.62-ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หลังจากพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พบปะกับชาวสระแก้วที่มาให้การต้อนรับ โดยประชาชนส่งเสียงให้กำลังใจ “สู้ๆ” ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกๆคน วันนี้เราจะต้องมีการปรับตัวเอง ที่ให้นายกฯสู้ๆ นั้น เราต้องสู้กับความเดือดร้อนต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น ความรักความสามัคคีจะต้องเป็นอย่างวันนี้ อย่าง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้บ้านเมืองสงบแบบนี้ แต่จะสงบหรือไม่ก็อยู่ที่พวกเรา อย่าให้คนไม่ดีมาเคลื่อนไหว ทำให้ความสงบในวันนี้หายไป ทั้งนี้ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาในการเดินหน้าประเทศไทย วันนี้มีความเป็นห่วง 2 เรื่องคือการค้าขายปลีก เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้คนไทยต้องรักกัน ต้องเคารพกัน เคารพปู่ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา เพราะนั่นคือสังคมไทย อย่าให้ใครมาเปลี่ยนแปลง นายกฯรักทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยกันพัฒนาตัวเอง ข้าราชการทุกคนต้องคิดว่าจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ระยะยาว ประเทศไทยจะต้องขับเคลื่อนไปด้วยคนทุกเพศทุกวัย สิ่งสำคัญที่สุดต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วันนี้ต้องช่วยนายกฯ คนเดียวก็ลำบาก อะไรดีๆมันก็จะเกิดขึ้น จาก 5 ปีที่ผ่านมามันเกิดขึ้นมาเยอะในประเทศไทย บางอย่างก็เกิดที่อื่น แต่มันจะเชื่อมโยงกัน สะพานที่เปิดใหม่ในวันนี้ อนาคตจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ตนได้คุยกับสมเด็จฮุนเซนแล้วว่า จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นให้ช่วยกันดูเรื่องยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ แรงงานผิดกฎหมายด้วย เราต้องเคารพกฎหมาย

“วันนี้เราต้องช่วยกันทำเพื่อคนรุ่นใหม่ อย่าหวังให้ใครมาช่วยเรา ซึ่งทุกอย่างมีแผนแม่บท พื้นที่สระแก้วผมรู้จักทั้งนั้น เคยทำงานบูรพามาก่อน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย ต้องขับเคลื่อนด้วยคนทุกช่วงวัย ภายใต้สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทุกคนต้องช่วยกันสู้ จะให้นายกรัฐมนตรีสู้คนเดียวได้อย่างไร ฝากประชาชนช่วยกันดูแลเรื่องสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดและแรงงานข้ามชาติ ต้องไม่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครมาลงทุนในประเทศไทย ขณะเดียวกันทุกคนต้องเคารพกฎหมาย อย่าไปคิดเอง โดยไม่เคารพกฎหมายไม่ได้” 

จากนั้นเวลา 10.15 น. นายกฯเดินทางถึงสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก โดยกดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้ายสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก พร้อมกล่าวกับประชาชนบริเวณสถานีรถไฟฯ โดยกล่าวสวัสดีเป็นภาษากัมพูชาว่า “ซัวสะเดย” เราคนไทยด้วยกัน ต้องรักกัน สู้ๆ ทุกคนเรารักกันอยู่แล้ว ตนรักทุกคน วันนี้มาเพื่อพี่น้องทุกคน และไม่ได้จบแค่นี้ มันจะเกิดต่อยอดอีก ตนเป็นคนสระแก้วเหมือนกัน เคยอยู่ที่นี่หลายปี คนเราต้องมีความหวังที่ถูกต้อง เป็นไปได้ ทุกอย่างต้องทำด้วยแผนงานและโครงการ และในพื้นที่สระแก้ว รัฐบาลได้ให้งบประมาณลงมาทางผู้ว่าราชการจังหวัด

นายกฯ กล่าวว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งไปแล้ว ก็ต้องเกิดความสงบ ให้เลือกตั้งแล้วยังไม่สงบก็ไม่ได้ ปีนี้เป็นปีมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษกกำลังใกล้เข้ามา ขอให้ช่วยกันทำบ้านเมืองให้สุขสงบ พัฒนาร่วมกัน ความหวังความฝันของทุกคนต้องใช้เวลาสักนิด วันนี้กำลังคุยกับสมเด็จฮุนเซ็น เพื่อวันหน้าจะทำเส้นทางต่อไป เราเป็นประเทศเพื่อนบ้านต้องรักกัน ข้อสำคัญคนไทยต้องรักกัน จะรักใครชอบใคร เป็นเรื่องส่วนตัว อย่าเอาเรื่องของคนอื่นมาทะเลาะกัน เพราะจะกลายเป็นเครื่องมือ

“ขอให้ฟังผมไว้ รัฐบาลนี้ยืนยันสิ่งต่างๆที่วางไว้ จะเดินหน้าต่อไป ทีละ 5 ปีจนถึง 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ หากทุกคนเคารพกฎหมายกติกา ทุกอย่างมันไปได้หมด เพลงที่เปิดนี้เป็นเพลงมิตรภาพที่ผมแต่งขึ้นมา สมเด็จฮุนเซนแต่งมา 4 เพลง วันนี้ผู้ใหญ่-เด็ก ถ้าทะเลาะกัน วันหน้าก็อยู่กันไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ สังคมไทยไม่มีแบบนั้น เราจะต้องดูแลกัน ทำอย่างไรให้บ้านเมืองเจริญขึ้น รัฐบาลกำลังทำตรงนี้ สิ่งสำคัญเราต้องเคารพกฎหมาย ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พลเรือน ตำรวจ ทหาร ประชาชน เป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น อย่าให้ใครมาสร้างความแตกแยก ทุกคนมีพ่อแม่ พี่ป้าน้าอา ใช่หรือไม่ แต่บางคนบอกว่าไม่ต้องมี มันใช่หรือไม่ มันไม่ได้ ความผูกพันมันสูง ผมเอาหัวใจลงไป ขอความรักความสามัคคีคืนมาให้กับประเทศไทย สร้างความสุขหลังเลือกตั้ง พระราชพิธีบรมราชาภิเษกกำลังจะเกิดขึ้นต้นเดือนหน้า ทำให้สงบ รัชกาลนี้จะต้องเกิดความสงบสุข ใครทำผิดจะต้องถูกลงโทษ ซึ่งผมไม่อยากให้ใครถูกลงโทษ ถ้าทำความดีไม่มีถูกลงโทษ สังคมประเทศไทยต้องอยู่ด้วยคนทุกช่วงวัย เราต้องเลิกในสิ่งที่ไม่ดี สังคมเรามีปัญหาพอสมควรแล้ว”