ถ้าหากเป็นเลือกตั้งอิสราเอล เลือกตั้งอินโดฯ หรืออินตะระเดีย...อันนั้น อาจจะง่ายหน่อย คือเลือกเสร็จปั๊บก็รู้ปุ๊บ แค่ไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ใครจะมาเป็นผู้นำคนใหม่ แต่ของบ้านเรานั้น...มันอาจหนักไปทางเลือกตั้งเบลเยียม เลือกตั้งเยอรมัน หรืออิตาลี อะไรทำนองนั้น เช่นที่ กูรู อย่างอาจารย์ ไชยันต์ ไชยพร ท่านยกตัวอย่างเปรียบเทียบไว้ใน แทบลอยด์-ไทยโพสต์ เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อะไรต่อมิอะไรมันเลยต้องยืดเยื้อ เยิ่นเย้อ ยืดๆ ยานๆ อย่างเท่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้...

                                                              ------------------------------------------------------

      คือเลือกเสร็จไปตั้งแต่ 24 มีนาคมโน่น...แต่มาถึง ณ ขณะนี้ ใกล้จะหมดเมษาฯ อยู่มะรอมมะร่อ ก็ยังคงเถียงกันไม่เสร็จ นึกภาพกันไม่ออก ว่าหน้าตารัฐบาลใหม่ หน้าตาผู้นำคนใหม่ จะออกไปในแนวไหนกันแน่ แถมด้วยความ มือใหม่-หัดขับ หรือด้วยอะไรก็แล้วแต่ของ กกต. แม้จะต้องชักสะพานแหงนถ่อรอไปถึงช่วงวันที่ 9 พฤษภาฯ แต่ก็ยังไม่อาจแน่ใจได้ว่า จำนวนเสียง จำนวน ส.ส.ไม่ว่าเขต หรือสัดส่วน ที่ กกต. ท่านแก้สูตร แก้สมการ ถอดรูทแล้วเทียบบัญญัติไตรยางศ์ออกมา จะเป็นที่ รับได้ หรือ รับไม่ได้ กับใครเค้ามั่ง...

                                                              --------------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้บรรยากาศช่วงเมษาฯ หน้าร้อน เลยออกไปทาง อึมครึม ไปเป็นช่วง เป็นระยะ ยิ่งเมื่อต้องเจอกับ พายุฤดูร้อน ส่งสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงบนกลางกระหม่อมของ บิ๊กโจ๊ก ที่ถือเป็นมือวาง มือทำงาน ของรัฐบาลปัจจุบันมาโดยตลอด ความอึมครึมที่ว่า...มันเลยก่อให้เกิดเสียงร่ำลือ เสียงซุบซิบ นินทา ชนิดแทบจับต้นชนปลายไม่ได้ และแม้ว่าระหว่างช่วงอึมครึมกันในลักษณะนี้ รัฐบาลท่านไม่เพียงแต่สามารถอยู่ยาวว์ว์ว์ไปได้เรื่อยๆ แต่ยังมีอำนาจเต็ม มีอำนาจล้นเหลือ มี มาตราฉี่ฉิบฉี่ อยู่ในมือแบบเต็มเม็ด เต็มสูบ แต่ดูเหมือนว่าท่านก็ไม่ได้คิดจะใช้ สากกะเบือ เอาไว้ทิ่ม เอาไว้ตำ อะไรต่อมิอะไรให้มันหายอึมๆ ครึมๆ ลงไปได้มั่ง แต่หนักไปทางเอาไว้ อม จนเกิดอาการอึ้มๆ อั้มๆ หนักยิ่งขึ้นไปอีก...

                                                              ------------------------------------------------------------

      คืออะไรที่ผู้คนเขาอยากให้ ทิ่ม แต่รัฐบาลท่านกลับไม่คิดจะทิ่ม กลับเอามา อม ไว้ซะเฉยเลย ส่วนอะไรที่ผู้คนเขาอยากให้ อม ไว้ก่อน รัฐบาลท่านกลับคว้า สาก ออกมาทิ่ม จนกลายเป็นตัวก่อให้เกิดข้อครหา นินทา ขึ้นมาอีกจนได้ เรียกว่า...แทนที่จะใช้ไปทิ่มกัญชง กัญชา อย่างที่คุณน้อง เนวิน มูรอโง่ ที่ถือเป็นแกนหลัก ของ พรรคตัวแปร รายสำคัญ อย่างพรรคภูมิใจไทยเป็นต้น ออกมาชี้แนะ ชี้นำ ท่านกลับเอามาทิ่มค่าสัญญาสัมปทานมือถือ โทรทัศน์ เตลิดเปิดเปิงไปถึงเรื่อง 4-G, 5-G โน่นเลย สากมันก็เลยออกจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเข้ากับ ครก แต่กลับไปเข้ากับ ปาก ซะมากกว่า...

                                                                -----------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ความอึมครึมมันเลยยิ่งกลายเป็นตัวที่ทำให้เสียงร่ำลือต่างๆ ยิ่งมีแต่ขยายวง กลายเป็นการมโน เป็นจินตนาการ ก่อให้เกิด สูตร ในการจัดตั้งรัฐบาล แบบชนิดสูตรโน้น สูตรนี้ ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่ สูตรเตี๋ยว ไปด้วยกันทั้งสิ้น หรือไม่ค่อยสอดคล้องกับบรรยากาศการเฉลิมฉลอง มหกรรม พิธีกรรม อันเป็นสิ่งสำคัญระดับสุดยอดของบ้านเมือง ที่ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย ราบเรียบ และราบรื่นกันพอสมควร และที่สำคัญเอามากๆ...ก็คือ ความเป็นไปตามครรลอง คลองธรรมแบบไม่ต้องเสียเวลาซิกแซ็ก อะไรกันมากมาย...

                                                                  ----------------------------------------------------------

      แต่ทำไงได้...ในเมื่อตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยรูปมวย โดยสไตล์ ของผู้นำรัฐบาลปัจจุบันอย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่  ท่านก็มักออกมาในแนวนี้นั่นแหละ คือถนัดในการ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ ถึงจังหวะถูกต้อนเข้ามุมขึ้นมาเมื่อไหร่ ถึงค่อยๆ เด้งเชือก แฉลบออกข้าง ตัดเวทีออกมาเต้นฟุตเวิร์กยอกๆ แยกๆ มาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้...ก็คงต้องรอดูต่อไปว่านายกรัฐมนตรีที่สามารถรวบรวมเสียงในรัฐสภาได้เกินกว่า 375 เสียง จะสามารถหาทางออก ทางไป กับการบริหาร จัดการ เสียงในสภาผู้แทนที่อาจไม่ครบ 250 เสียง หรือเกินไปกว่านั้นแค่ไม่กี่เสียง ได้ด้วยวิธีไหน อย่างไร???

                                                                    --------------------------------------------------------

      แต่ก็คงไม่ถึงกับต้องวิตก ทุกข์ร้อน กังวล กระวนกระวาย อะไรมากมายนัก...เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า แม้ว่าเลือกตั้งเมืองไทยจะออกไปทางเบลเยียม เยอรมัน อิตาลี อย่างที่อาจารย์ ไชยันต์ ไชยพร ท่านว่าไว้ ไม่ได้ออกไปทางอิสราเอล อินโดฯ อินตะระเดีย แต่ภายใต้ระบอบปกครองแบบไทยๆ หรือ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นั้น อย่างน้อย...ก็ยังพอเหลือทางออก ทางไป อยู่อีกเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ แถมน่าจะเป็นทางออก ทางไป ในแบบเป็นไปตามครรลอง คลองธรรม ซะอีกด้วยต่างหาก...

                                                                    ---------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก บทละครเรื่องพระเจ้าเฮนรีที่ 8... When law can do no right, let it be lawful that law bar not wrong.- เมื่อกฎหมายทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ได้แล้ว ก็จงปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีทางของกฎหมายที่ว่า กฎหมายย่อมไม่มีวันผิด...

                                                                    -------------------------------------------------------------