ทักษาเดิมเมืองภูมิอาทิตย์ ทักษาจรเมืองอายุย่าง 238 ปีตกภูมิอังคาร
สำหรับการศึกษาโหราศาสตร์ไทยแล้ว ไม่สามารถทิ้งเรื่องสำคัญอัน เป็นส่วนประกอบของดวงชะตา ทั้ง ดวงชะตาเดิม ที่จะบอกทางชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย และ ชะตาจร ที่จะบอกอนาคตแต่ละช่วงเวลาของชีวิตได้เลย ซึ่งส่วนประกอบนี้เรียก หลักทักษา
ความสำคัญของทักษานี้ ครูโหรผู้ล่วงลับ อ.เทอม เสตะกสิกร บอกไว้ในหนังสือ ทักษาวิเคราะห์ ว่า หากไม่ใช้ทักษาประกอบโหราศาสตร์ไทยแล้วก็จะคล้ายเกิดมาเป็นคน มีร่างกายไม่สมประกอบทุกส่วน เช่น หูหนวกแต่ตาดี หรือหูดีแต่ตาบอด ฯลฯ และหลักทักษาประกอบดวงชะตานี้ยืนยันตามที่ครูโหรผู้ล่วงลับ อ.จำรัส ศิริ สอนไว้คือ ทำให้โหรไทยทำนายได้แพรวพราวกว่าโหรฝรั่ง
แล้วทักษาคืออะไร - ทักษา คือการหมุนเวียนเปลี่ยนรอบส่วนประกอบของชีวิตจากซ้ายไปขวา เริ่มตั้งแต่เราถือกำเนิดมาในโลก มีทั้งหมดแปดเรื่องเรียงตามลำดับ คือ
บริวาร หมายถึงลูกน้อง ผู้ใต้ปกครอง ของรอบตัวพัดลม ตู้เย็น รถยนต์ ฯลฯ
อายุ หมายถึงสุขภาพ
เดช หมายถึงอำนาจ ตบะบารมี อิทธิพลเหนือผู้อื่น
ศรี หมายถึงโชคดี สิริมงคล ความสมบูรณ์พูนสุข ร่มเย็น ความเจริญและเงิน
มูละ หมายถึงหลักฐาน อาคาร บ้านเรือน ที่อยู่
อุตสาหะ หมายถึงความขยันหมั่นเพียร ความพยายาม จริงจัง
มนตรี หมายถึงที่พึ่ง ผู้สนับสนุน ผู้ใหญ่ ผู้มีอุปการคุณ
กาลกิณี หมายถึงโชคร้าย ความชั่ว อุปมงคล ทุกข์ ผิดหวัง อุปสรรค ศัตรู กรรมเก่า รายจ่าย
ตัดตอนมาที่ทักษาของเมืองรัตนโกสินทร์ เป็นดังนี้
1.ทักษาเดิม เมืองรัตนโกสินทร์ ถือ กำเนิดวันอาทิตย์ - พระอาทิตย์เลข ๑ เริ่มเป็นบริวาร - เลข ๒ วันจันทร์เป็นอายุ - พระอังคาร ๓ เป็นเดช - พระพุธ ๔เป็นศรี - พระเสาร์ ๗ เป็นมูละ - พฤหัสบดี ๕ เป็นอุตสาหะ - พระราหู ๘ เป็นมนตรี และเลข ๖ วันศุกร์ เป็นกาลกิณี (ดังรูปที่หนึ่ง)
2.เมื่อเมืองกำเนิดแล้ว ทักษาจร หรือ ทักษาอนาคตของเมืองรัตนโกสินทร์ก็เปลี่ยนไปในแต่ละปีที่ครบรอบวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน
3.โดยครั้นวันที่ 21 เมษายน 2562 เวลาตั้งแต่ 06.54 น. เป็นต้นไป อายุเมืองเต็ม 237 ย่างเข้า 238 ปี เมื่อไล่ส่วนประกอบที่หมุนเวียนแล้ว ทักษาจรของเมืองจะตกภูมิอังคาร ๓ เป็นบริวาร-พุธ ๔ เป็นอายุ-เสาร์ ๗ เป็นเดช-พฤหัสบดี ๕ เป็นศรี - ราหู ๘ เป็นมูละ - ศุกร์ ๖ เป็นอุตสาหะ - อาทิตย์ ๑ เป็นมนตรี และสุดท้ายพระจันทร์ ๒ เป็นกาลกิณี
ในบรรดาเหตุทั้งดี-ร้ายที่จะเกิดในเมืองตลอดเวลา แค่ทักษาจร เช่นนี้ ก็พอจะบอกเค้าโครงใหญ่ๆในเมือง ระหว่าง 21 เมษายน 2562-21 เมษายน 2563 บางส่วน ดังนี้
3.1 ทักษาจรตกภูมิอังคาร หากเป็นของคน มีคำทำนายจาก ตำราลิลิตทักษาพยากรณ์นิพนธ์โดยเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษมนตรี (จุ้ย) ต้นราชสกุล มนตรีกุล คือ..ในอาคเนย์ภุมมัง (ทักษาจรตกภูมิอังคาร) ติโรคังเคืองเข็ญ เป็นทั้งนอกในไซร้ ลุลาภได้ลูกเมีย ทรัพย์สูญเสียเงินทอง ศัตรูจองจัณฑ์ (ความหมายจากพจนานุกรม ดุร้าย, หยาบช้า, เกรี้ยวกราด, ฉุน, ฉุนเฉียว) โทษ ชายโสดสูงสองสี หญิงกาลีพิการ ทรัพย์สินท่านอย่าให้กู้ เป็นศัตรูสู่ภายหลัง…
สรุปคือเมื่อเป็นทักษาจรของเมือง ผู้เขียนตีความจากลิลิตนี้คือ ในระยะหนึ่งปีนี้ด้านร้ายให้ระวังโรค-เรื่องลำบากต่างๆ ที่เกิดจากทั้งในเมืองเองหรือมาจากที่อื่น (เป็นทั้งนอก-ใน) เสียเงินทอง เมืองมีศัตรูที่ดุร้าย, หยาบช้า, เกรี้ยวกราด, ประเภท ชายโสดตัวสูงผิวสองสี หรือ หญิงพิการ หรือ หญิงที่เข้าข่ายอัปมงคลของเมือง เงินทองของเมืองก็ต้องระวังในการปล่อยกู้หรือช่วยเหลือใคร เพราะจะกลับกลายเป็นศัตรูภายหลัง ส่วนเรื่องดีคือการแต่งงานที่น่าจะเป็นเรื่องโดดเด่นสำคัญ ไม่ใช่ระดับคนธรรมดาแต่งกัน
3.2 จับไปที่พระจันทร์ ๒ เป็นกาลกิณีจรในรอบปีนี้ ระวังเรื่องร้ายจะเกิดกับประชาชนทั่วไป (ที่พระจันทร์เป็นตัวแทนอยู่) โดย อันตรายคาดว่าเป็นจากน้ำมากผสมดิน เช่น น้ำท่วมโคลน-ดินถล่ม
หรือมีประเด็นให้ประชาชนทั่วไปไม่สบายใจในเรื่องที่พระจันทร์เป็นตัวแทนอยู่ เช่น ความเป็นอยู่ ประมง น้ำ ประปา โครงการเกี่ยวกับน้ำขนาดใหญ่ ส่วนพืชก็เช่น ข้าวโพด
3.3 พระจันทร์เป็นเรื่องเขตแดน-พื้นดินด้วย(ตัวแทนภพที่สี่ดวงเมือง) ขนาดแค่ใกล้ๆ พระจันทร์จะเป็นกาลิกณีจรเท่านั้น ผู้เขียนละอึ้งกับการ ที่หญิงกาลกิณีดวงเมือง (ตามข้อ 2.1 หญิงกาลีพิการ) พาสามีต่างชาติมาสร้างบ้านในทะเลจะสถาปนาเป็นรัฐอิสระ - หาความใส่เมืองบอกถูกไล่ล่า - จะขอลี้ภัย ทำให้ฝ่ายกิจการด้านทะเลของไทยคือทหารเรือ (พระจันทร์-กลาสี) ต้องแอคชั่น-คนไทยที่รักชาติฉุนขาดไปทั้งเมือง
กล่าวโดยสรุปข้อนี้คือ ให้ระวังชายโสดสูงสองสี-หญิงกาลีพิการ (บางคนก็กาย-บางคนก็ใจ) จะก่อกวนในเมืองต่อไปทั้งปี
3.3 ด้านดี คือสิ่งที่ผู้เขียนรอคอยมาตลอด และเรียกร้องคนไทยให้อดทนจากวันที่ 5 ตุลาคม 2561 มาถึงวันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2562 ให้ได้ และเราก็จะมาถึงนี้แล้วคือ วันที่พฤหัสบดีหัวหน้าเทวดาประจำเมืองพลิกทักษาจากมูละจร-ที่ดีเพียงกลางๆ กลับเป็นศรีจร เพิ่มความดีให้สุดขีด พอที่จะคานอำนาจดาวร้ายที่กำลังทั้งตรึง-ระรานดวงเมืองได้มากขึ้นกว่าเดิม (กว่าที่เป็นมาตั้งแต่ต้นตุลาคม 2561)
3.4 พฤหัสบดีศรีจร จับตาในเรื่องที่พฤหัสบดีเป็นตัวแทนอยู่ที่คงจะโดดเด่นด้านดีที่จะพัฒนาขึ้นเช่น กฎหมายกระบวนการยุติธรรม-การศึกษา-สาธารณสุข-ที่ตั้งของรัฐสภาใหม่-โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ต้องตัดสินใจลงทุนร่วมเอกชนกับรัฐบาล-การซื้อขายหุ้นที่มักจะราคาสูง-ยางพารา ฯลฯ
ตอนต่อไปผู้เขียนจะได้ ขับพฤหัสบดีทักษาจรและทักษาจรจากดาวอื่นๆ ที่สำคัญที่ทำมุมกับดวงชะตาเมืองเพื่อให้ทราบอนาคตของดวงเมืองเพิ่มเติม ให้ทราบต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |