มิ่งไม่สังฆกรรมลุงตู่ ประกาศคนละอุดมการณ์ร้อง32ว่าที่ส.ส.ถือหุ้น'สื่อ'


เพิ่มเพื่อน    

    "เฮียมิ่ง" นำแกนนำพรรคเศรษฐกิจใหม่ตั้งโต๊ะแจงนายทุน ส. ไม่ได้ชี้นำ ยันข้อตกลงกับเพื่อไทยไม่เปลี่ยนแปลง ไม่โกรธเคือง พปชร. แต่ไม่โหวตให้ “ประยุทธ์” เชื่อไม่มีใครแตกแถว-ไม่มีงูเห่า "ผู้กองปูเค็ม" รุกฆาตยื่น กกต.ถอดถอนผู้สมัคร ส.ส. 32 คนถือครองหุ้นสื่อขัด รธน. ทำให้ ส.ส.พึงมีหายไป 9 คน ส่งผลฝ่าย ปชต. 6 พรรคไม่ใช่เสียงข้างมาก "เสรีพิศุทธ์" เผยนายทหารยศพลเอกมาหาที่บ้านเจรจาร่วมรัฐบาล แต่ยืนยันอยู่ฝ่าย ปชต.เท่านั้น เขต 1 นครปฐมนับคะแนนใหม่ 28 เม.ย. ผู้สมัคร ส.ส.อนค.รับอาสาสมัคร 80 คนร่วมจับตา 
    เมื่อวันศุกร์ ที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรค, นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค, นายภาสกร เงินเจริญกุล เลขาธิการพรรค, นายประพันธ์ เอี่ยมศิริ โฆษกพรรค,  นายอภิวัฒน์ อากาศฤกษ์ นายทะเบียนพรรค และนายบุญเลิศ เหลียงกอบกิจ กรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงข่าวถึงกรณีผู้สมัคร ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรค ศม. เนื่องจากอ้างว่าพรรคถูกครอบงำจากบุคคลภายนอก สั่งการชี้นำ ไม่ให้พรรคสามารถดำเนินกิจกรรมได้โดยอิสระ
    โดยนายศุภดิชกล่าวว่า เรื่องที่สมาชิกไปร้องต่อกกต. ไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาพรรคได้จัดอบรมสมาชิกและผู้แทนของพรรคมาตลอด โดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อย นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ บุคคลที่ถูกอ้างชื่อว่าเป็นนายทุนมาครอบงำพรรค เป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจใหม่ ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.62 พี่ชายก็เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค เชื่อว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่มีความเป็นเอกภาพ ไม่มีใครแตกแถว ไม่มีงูเห่า ไปในทิศทางเดียวกัน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการพูดคุยกับผู้ไปยื่นยุบพรรค แต่เรากำลังดูข้อกฎหมาย เนื่องจากการยื่นยุบพรรคนั้นถือเป็นการทำผิดข้อบังคับพรรค จะต้องดูว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพราะพรรคเราไม่ได้ทำอะไรผิด และเรื่องนี้กระทบสมาชิกและคนหมู่มาก
    ด้านนายมิ่งขวัญกล่าวว่า บทบาทในฐานะหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ รับผิดชอบเรื่องการเขียนนโยบายและช่วยหาเสียงในภาพรวม ส่วนเรื่องกิจการภายใน ทั้งการรับสมัครสมาชิกพรรค การบริหารกิจการภายในต่างๆ มอบหมายให้นายศุภดิษฐ์ อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลร่วมกับกรรมการบริหารพรรค
    “ส่วนที่สมาชิกไปยื่นยุบพรรคตัวเอง เป็นเพราะอะไรไม่ทราบจริงๆ คงไม่สืบหาสาเหตุ เพราะไม่ใช่หน้าที่ อยู่ที่ กกต.จะมองว่าเป็นอย่างไร” นายมิ่งขวัญ กล่าว
    นายมิ่งขวัญกล่าวย้ำถึงจุดยืนทางการเมืองว่า ไม่ไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยตนได้ยืนยันเช่นนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2562 เพราะมีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกัน จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ และเมื่อไม่ร่วมงานด้วย ก็จะไม่ยกมือโหวตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ แม้ว่าจะเป็นสิทธิส่วนตัวของ ส.ส. แต่พรรคยืนยันว่าพรรคมีความเป็นเอกภาพ
    “ยินดีที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตย และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต หากเกิดปัญหาในภายหลัง ก็พร้อมที่จะออกจากรัฐบาลทันที ทั้งนี้ ข้อตกลงที่มีกับพรรคเพื่อไทยนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ที่ไม่ได้ไปร่วมลงสัตยาบัน เพราะติดนัดกับผู้ใหญ่ ยืนยันว่าผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางการเมือง และไม่ได้โกรธเคืองกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เพราะมีอุดมการณ์ต่างกัน ผมอยากให้เรื่องชัดเจน หากไม่มาแถลงข่าวอาจถูกกล่าวหาว่าหนีหน้า” นายมิ่งขวัญกล่าว
    นายมิ่งขวัญกล่าวด้วยว่า ช่วงนี้เป็นเวลาที่สำคัญจะมีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อยากให้คนไทยมีความสุข ไม่อยากให้มานั่งทะเลาะกัน
ยื่นถอด 32 ผู้สมัคร ส.ส.
    ที่สำนักงาน กกต. ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อขอให้ถอดถอนสมาชิกพรรคการเมือง 6 พรรค เนื่องจากยังถือครองหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน แม้บางแห่งปัจจุบันเป็นบริษัทร้าง แต่ก็ยังเป็นความผิด เพราะยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ม.98 (3) ที่ระบุห้ามไม่ให้บุคคลที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือกิจการใดๆ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหมือนการหลอกลวงประชาชน แสดงถึงความเจตนาไม่บริสุทธิ์ จึงขอให้ กกต.ใช้อำนาจตรวจสอบกับกระทรวงพาณิชย์
    โดย ร.อ.ทรงกลดกล่าวว่า สำหรับผู้สมัครที่ตนยื่นถอดถอนเป็นผู้สมัครของ 6 พรรคการเมือง รวม 32 คน แบ่งเป็น 1.พรรคเพื่อไทย 10 คน นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยาของนายขวัญชัย สาราคำ แกนนำคนเสื้อแดง ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 4  ถือหุ้น หจก.ซี.เอ็ม.แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง และ หจก.อุดร เคเบิ้ล บอร์ดคาสติ้ง แอนด์ เทเลวิชั่น, นายนพดล ปัทมะ ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ บริษัท ยูนิเวอร์แซล เทเลวิชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 ถือหุ้น บริษัท ซินดิเคท แอ็คเวอร์ไทซิ่ง จำกัด เป็นต้น
    2.พรรคอนาคตใหม่ 7 คน ได้แก่ น.ส.นรีรัตน์ สุขวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 2 ถือหุ้น บริษัท บอส แอนด์ ธอส โปรเจคท์ จำกัด, นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ถือหุ้น บริษัท แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด และบริษัท เฮด อัพ โปรดักชั่น จำกัด เป็นต้น 3.พรรคเสรีรวมไทย 6 คน ได้แก่ นายคมกฤษณ์ จ่าทองคำ ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 1 ถือหุ้น หจก.สถานีวิทยุท้องถิ่นคลื่นมหาชนอุตรดิตถ์
    4.พรรคเพื่อชาติ 5 คน ได้แก่ นายดามพ์ เผด็จดัสกร นักแสดงดาวร้าย ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 ถือหุ้น บริษัท วิชั่นคาวบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, นายเบาหวิว มณีแจ่ม ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 5 ถือหุ้นบริษัท วิรัชนะ โทรคม จำกัด เป็นต้น 5.พรรคพลังปวงชนไทย 2 คน ได้แก่ นายนุกูล คงชุบ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 7 ถือหุ้น บริษัท เวล โปรเกรส จำกัด, นายอนุชา สิงหะดี ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 4 ถือหุ้น บริษัท ตะวันออกโมเดิร์น มีเดีย พลัส จำกัด และ 6.พรรคประชาชาติ 2 คน ได้แก่ นายธนวัฒน์ ศรีสุข ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 18 ถือหุ้น บริษัท ทาเลนท์ อันลิมิเต็ดเอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด, นายธนกฤษ อธิรชานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 6 ถือหุ้น หจก.อีสานเรดิโอ เป็นต้น
    “จากการตรวจสอบหลักฐานการถือครองหุ้นธุรกิจสื่อของผู้สมัครทั้ง 6 พรรคที่ร่วมกันลงปฏิญญาจัดตั้งรัฐบาล จะมีผลให้คะแนนของทั้ง 6 พรรคหายไป 286,805 คะแนน ซึ่งจะทำให้จำนวน ส.ส.พึงมีหายไป 9 คน และส่งผลให้คะแนนของทั้ง 6 พรรค ไม่ใช่เสียงข้างมากที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้” ร.อ.ทรงกลดกล่าว
    ขณะเดียวกัน สำนักงาน กกต.ออกคำชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าการดำเนินการตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อมวลชนของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นไปด้วยความล่าช้ากล่าวหาว่ามีการดองเรื่องนั้น ขอชี้แจงว่ามิได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวนหรือไต่สวน สอบหาข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง สำนักงานฯ ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำการชี้แจงแสดงพยานหลักฐานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในขณะนี้สำนักงานฯ ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อสั่งให้คณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนดำเนินการตามระเบียบอำนาจหน้าที่โดยจะตรวจสอบให้เสร็จสิ้นโดยเร็วจะแจ้งให้สาธารณชนทราบในโอกาสอันใกล้นี้
รอชัดเจนหลัง 9 พ.ค.
     นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการยื่น กกต.ให้ยุบพรรคการเมืองจำนวนมาก ว่า การจะยุบพรรคจริงๆ ไม่ได้ง่าย และกระบวนการยาวด้วย แม้แต่กรณีของพรรคไทยรักษาชาติก็ไม่ใช่ว่าง่าย เราอาจรู้สึกว่ากระบวนการมันเร็ว แต่การเข้าไปสู่ข้อหานั้นไม่ได้เข้าไปง่ายๆ ส่วนที่มีการยื่นยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่ว่ามีบุคคลภายนอกครอบงำพรรคนั้น ข้อหานี้ไม่ง่าย แต่ไม่ต้องถึงขนาดมีใบเสร็จ เพียงแค่มีพยานบุคคล แต่ขอให้มีความชัดเจนจนศาลเชื่อว่ามีการบงการจริง ซึ่งได้แก่ 1.ต้องเป็นคนนอก 2.ต้องบงการ และ 3.บงการเรื่องของกิจกรรมของพรรค ส่วนเรื่องอื่นที่ไม่ใช่กิจกรรมของพรรคไม่เป็นไร
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคถือเป็นการบงการหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่างนี้ไม่ได้ ถือว่าบงการในเรื่องกิจกรรมของพรรค ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรรมการบริหารหรือสมาชิกพรรคต้องตัดสินใจกัน แต่คนนอกเข้ามาเป็นมือที่สามไม่ได้ เมื่อถามว่าการสั่งให้ประชุมพรรคหรือไม่ประชุมพรรคถือว่าบงการหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า อย่างนี้เรียกบงการ แต่ต้องมีพยานที่มากพอจนศาลเชื่อว่ามาบงการจริง
    ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ ถึงขั้นต้องพูดถึงรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลปรองดองแล้วหรือ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น ต้องไปถามคนที่เขาพูด ไม่ค่อยจะเข้าใจว่าคืออะไร หรือทำอย่างไร และไม่ทราบว่าสถานการณ์วันนี้จะทำให้สิ่งที่เขาพูดเกิดขึ้นได้หรือไม่ โดยกลไกตามกฎหมายไม่ได้ระบุในเรื่องนี้ แต่มีกลไกที่จะทำให้การเมืองเดินไปได้ โดยให้โหวตเลือกนายกฯ กันในสภา ไม่ว่าจะกี่รอบแล้วยังไม่สามารถได้ข้อสรุป จึงจะอาศัยเสียงของ ส.ว.เพื่อโหวตเปิดทางให้เลือกคนนอกมาเป็นนายกฯ ได้
    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เปิดเผยในการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลังว่า มั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยังสามารถกลับมาทำหน้าที่นายกฯ ต่อไปได้ ดังนั้นในส่วนของการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจในมุมต่างๆ ของประเทศ ก็เชื่อว่าจะยังคงเดินหน้าได้ตามนโยบายเดิมที่มีในปัจจุบัน   
    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตั้งรัฐบาล ว่า วันนี้เรามีพันธมิตรที่ชัดเจน แต่ทุกอย่างต้องรอความชัดเจนในวันที่ 9 พ.ค. เพราะทุกคะแนนมีผลต่อการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค แต่เราเชื่อว่าด้วยเครือข่ายและแนวคิดในการเดินหน้าประเทศ พรรค พปชร.จะตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ยอมรับตัวเลข 251 เสียงในการตั้งรัฐบาล เป็นตัวเลขสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อการขับเคลื่อนประเทศในรัฐสภา แต่เชื่อว่ามีคนที่อยากให้ประเทศเดินต่อ เพราะหากคลุมเครือจะกระทบต่อความเชื่อมั่น จึงเชื่อว่าทุกพรรคเข้าใจและจะตัดสินใจโดยคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก
    ส่วนตัวเลขในการจัดตั้งรัฐบาลมีพรรคเศรษฐกิจใหม่รวมอยู่ด้วยหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ขอรอความชัดเจนในวันที่ 9 พ.ค. เพราะขณะนี้สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่ชัดเจน และอยู่ในขั้นตอนการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูฐวินิจฉัย ยืนยันว่าการที่สมาชิกพรรคเศรษฐกิจใหม่ไปยื่นยุบพรรคไม่เกี่ยวข้องกับการถูกกดดันจาก พปชร. เป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่มีการตรวจสอบเฝ้าระวังของสมาชิกเช่นเดียวกับกรณีกระแสข่าวซื้อตัวงูเห่าในราคา 100 ล้าน ก็ไม่เป็นความจริง  เพราะยังไม่มีการรับรอง ส.ส.และตัวเลขยังไม่นิ่ง 
ส่งพล.อ.เจรจา"เสรีพิศุทธ์"
    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “อินไซด์ไทยแลนด์ เจาะลึกทั่วไทย” กรณีกระแสข่าวพรรค พปชร.มีการเจรจาพรรคเสรีรวมไทยให้เข้าร่วมรัฐบาล แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะมีการเรียกร้องการเข้าร่วมรัฐบาลในราคาที่แพงเกินไป ว่ามีด้วยหรือข่าวแบบนี้ คนอย่างตนเป็นคนจริง พูดคำไหนคำนั้น เพราะฉะนั้นไอ้พวกนี้อย่ามาพูดกับตนเลย เขาติดต่อมาหาเอง ตนก็ยืนยันชัดเจนแล้วตั้งแต่หาเสียงว่าตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จะไปร่วมกับเผด็จการ ก็เสียหมาสิ แต่ทหารก็ยังไม่เข้าใจ ก็เลยส่งพลเอกมาหาที่บ้าน ตนก็ตอบไปแบบสุภาพ เขาก็กลับไปก็เท่านั้นเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ตนไม่วอกแวกลอกแลก เขาว่ากันเลือกตั้งครั้งนี้โกงมากที่สุด ยิ่งกว่ายุคจอมพล ป.เสียอีก ตนจะไปจับมือคนโกงได้อย่างไร 
    "ผมรุ่นก่อนคุณประยุทธ์ตั้ง 4 ปี แล้วใครจะกล้ามาหาผม เขาจึงส่งเพื่อนผมมาหา ผมก็บอกไปว่า เพื่อนมึงกลับไปเถอะ ไม่มีประโยชน์หรอก จุดยืนผมเป็นแบบนี้ ตอนหลังก็มีข่าวว่าพยายามมาหาอีก ผมฟังคำพูดน่ะ อยากได้รัฐมนตรีกลาโหมก็ให้มันไป บิ๊กป้อมก็ให้เป็นรองนายกฯ ฝ่ายมั่นคงแล้วมาคุมกลาโหมอีกที คนอย่างผมลงเลือกตั้งก็เพื่อประชาธิปไตย ต้องอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น เบื้องต้นเอาฝ่ายประชาธิปไตยให้ชนะเผด็จการก่อนมาร่วมมือกันไล่มันไปเสียก่อนมาจับมือกัน เผลอๆ จะสามัคคีกันได้อีก” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว 
    นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับตัวแทนพรรคเล็กว่า มีตัวแทน 8 พรรคเล็กร่วมพูดคุยถึงแนวทางในการดำเนินการว่าจะทำอย่างไรหลังจากที่มีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความถึงแนวทางการคิดคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเห็นตรงกันว่าอยากให้ศาลวินิจฉัยเพื่อจะได้เป็นหลักในการดำเนินการ แต่หากศาลไม่รับ ก็เป็นเรื่องที่ กกต.จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดต้องรอติดตามในสัปดาห์หน้า หากมีข้อสรุปออกมาจะมีการหารือและแสดงจุดยืนท่าทีเป็นมติของพรรคการเมืองเล็กต่อไป คาดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยก่อนวันที่ 9 พ.ค.นี้
    นายมงคลกิตติ์กล่าวด้วยว่า ยังได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างตัวแทนพรรค และพบว่านอกจากจะมีศึกนอกที่เป็นปัญหาแล้วยังมีศึกในที่มีการร้องเรียนกันเองภายในพรรค เพื่อให้หัวหน้าพรรคขาดคุณสมบัติ และจะได้มีการขยับบัญชีรายชื่อ และบางพรรคยังมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย
     นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า สถาปนิกทางการเมืองผู้ไม่เคยรับผิดชอบต่อผลงานภาวะการเมืองที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ล้วนแต่เป็นผลการออกแบบที่อาศัยจินตนาการว่าทุกอย่างจะดีขึ้นหากได้ใช้กฎเกณฑ์กติกาที่คณะของตนทำการออกแบบ สถาปนิกชุดนี้เอาแต่ใจตัวเอง คิดว่าอายุมากแล้วรู้มาก บอกอะไรก็ไม่เคยฟัง วันนี้บ้านเมืองมีปัญหา คนกลับไปด่า กกต.ทั้งๆ ที่เขาเป็นปลายเหตุ อย่าลืมนึกถึงสถาปนิกและคนจ้างสถาปนิกด้วย
    นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เมื่อถอดรหัสความไม่ปกติทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 อาทิ การดูด ส.ส. การใช้อำนาจรัฐข่มขู่ คุกคาม ฝ่ายตรงข้าม การนับคะแนนที่เหมือนจงใจให้ผิดพลาด, การคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ การตั้งข้อหาหัวหน้าและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ล่าสุดกรณีสมาชิกพรรคเศรษฐกิจใหม่ยื่น กกต.ให้ยุบพรรคตัวเอง ฯลฯ สะท้อนถึงการขัดขวางพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยไม่ให้เข้าไปบริหารและพลิกฟื้นประเทศหลังอยู่ในระบอบเผด็จการเกือบ 5 ปี
จับตานับคะแนนใหม่
    นายสามารถ นาคสกุล ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุม กกต. มีมติให้มีการนับคะแนนใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม ทั้ง 236 หน่วยเลือกตั้ง และอีก 9 หน่วยเลือกตั้งนอกเขต รวมถึงนอกราชอาณาจักร หลังปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการนับคะแนนเลือกตั้ง และการรวมคะแนนอาจไม่ถูกต้องตามมาตรา 124  ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในเบื้องต้นได้กำหนดวันนับคะแนนใหม่ 245 หน่วยเลือกตั้ง ของเขตเลือกตั้งที่ 1 ในวันที่ 28 เม.ย.นี้  พร้อมเตรียมประกาศรับสมัครคณะกรรมการนับคะแนนจำนวน 80 ชุด ซึ่งมีชุดละ 5 คน รวมประมาณ 400 คน พร้อมเร่งหาสถานที่กลางในการนับคะแนนใหม่
    สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุดคือ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 35,762 คะแนน นำอันดับที่ 2 ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ที่ได้คะแนน 35,615 คะแนนเพียง  147  คะแนน
    ด้าน น.ส.สาวิกา ลิปะสุวัณณะ กล่าวว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการหาอาสาสมัครประมาณ 80 คน เพื่อร่วมสังเกตการณ์การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในวันนับคะแนนใหม่ทั้ง 245 หน่วยตามที่แบ่งเป็นกรรมการนับคะแนนทั้ง 80 ชุด รับผิดชอบชุดละ 3 หน่วย เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น หากไม่มีการแทรกแซง หรือกดดันข่มขู่ โดยผู้มีอิทธิพลตนเชื่อว่าจะชนะ ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่นับคะแนนใหม่ ก็คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เขตที่เคยก่อความผิดพลาดในช่วงนับคะแนนที่ผ่านมา ทำให้ตนมีความกังวล เพราะแม้ว่าหลายคนจะตั้งข้อสังเกตว่าเขตนี้อาจจะเกิดการพลิกล็อกขึ้นได้ แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีให้ตนสบายใจอยู่ดี
    นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 13 บางกะปิ-วังทองหลาง พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งซ่อมในหน่วยเลือกตั้งที่ 32 วันที่ 21 เมษายนนี้ว่า ถือเป็นเรื่องแปลกมากที่ กกต.สั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่เพียง 1 หน่วย ในเขตเลือกตั้งที่ 13 กทม. เพราะจากการตรวจสอบนั้น พบกรณีบัตรเขย่งและกรณีความไม่ชอบมาพากลอื่นๆ มากกว่า 30 หน่วย แต่ กกต.กลับสั่งให้จัดการเลือกตั้งเพียงหน่วยเดียว ซึ่งนอกจากจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงแล้ว ยังเสียเวลาและงบประมาณไปเปล่าๆ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าในหน่วยเลือกตั้งอื่นๆ จะไม่เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ต้องเปิดเผยคะแนนของแต่ละหน่วย หากพบความไม่ปกติ ควรจัดเลือกตั้งใหม่ทั้งเขต มิใช่หน่วยเดียว
    นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์ข้อความผ่านเพซบุ๊ก แสดงความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินคดีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เป็นการพยายามใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีแนวโน้มจะได้เสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล เท่ากับเป็นการพยายามบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนที่ร่วมกันแสดงออกในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาด้วย
"ธนาธร"ดูงานยุโรป
    นายปิยบุตรกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมว่าที่ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เข้าสภาว่า ภายในพรรคมีการพูดคุยกันบ่อยครั้ง มีการจัดสัมมนา ติวกัน ทำงานทางความคิดกันเองมาโดยตลอด จัดไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็จะจัดอีกครั้งหนึ่งปลายเดือนเม.ย.นี้ จะมีการบรรยายให้ความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ กฎหมาย ข้อบังคับการประชุม กระบวนการนิติบัญญัติ การตั้งกระทู้ กรรมาธิการเป็นอย่างไร นโยบายที่พรรคอยากจะแปลงให้เป็นกฎหมายทำอย่างไร พร้อมทั้งบรรยายประวัติศาสตร์การเมืองไทยด้วย ส่วนเรื่องงูเห่านั้น ยืนยันว่าที่เรามารวมตัวกันคือ เรื่องของอุดมการณ์แนวคิด ซึ่งทุกคนก็ได้ลงนามในคำประกาศสัตยาบันของพรรคแล้วว่าจะอยู่ร่วมกันจนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน เราจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ดังนั้นก็จะต้องไม่ทรยศต่อคะแนนที่พี่น้องประชาชนไว้วางใจ มั่นใจว่าจะไม่มีงูเห่า 
    ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค.ทวีตข้อความระบุถึงการเดินทางเยือนยุโรปว่า “ผมมาสวิตเซอร์แลนด์ เจอผู้แทนสำนักข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ (UNOHCHR) คุยกันเรื่องสถานการณ์การเมืองไทยที่แม้ผ่านเลือกตั้งไปแล้ว แต่ยังน่าเป็นห่วง ขากลับแวะห้องสมุดของ OHCHR ได้โปสเตอร์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและเข็มกลัดที่ระลึกติดมือกลับบ้านมาด้วยครับ” “มายุโรปทั้งที เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวเลยถือโอกาสมาดูงานด้วยหลายอย่าง เมื่อไหร่เป็นรัฐบาลจะได้บริหารประเทศอย่างเต็มที่ทันที รอชมคลิปเรื่องการจัดการเมืองของยุโรป และคลิปบุกเมืองหลวงคริปโตเคอเรนซีของสวิตเซอร์แลนด์เร็วๆ นี้ครับ”
    พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนกองคดีความมั่นคงได้รายงานว่า ในวันนี้ นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง แนวร่วมนักเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนฯ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เนื่องจากนายอนุรักษ์ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2562 ว่า คสช.จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อตัดสิทธิบุคคลสำคัญท่านหนึ่งมิให้เกี่ยวข้องทางการเมือง หรืออีกนัยหนึ่งต้องการผูกขาดอำนาจในการปกครองประเทศอยู่ในมือของกองทัพฝ่ายเผด็จการ ซึ่งกรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งดีเอสไอรับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษที่ 12/2562.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"