ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net เปิดศาลทุจริตหลังสงกรานต์ประเดิมด้วยคดีเงินทอนวัดสำนวนแรก พิพากษาจำคุก 26 ปี อดีตพระครูกิตติ อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ที่ร่วมกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ยังหลบหนีอยู่ ในคดีฟอกเงินที่ได้จากการทุจริตเงินอุดหนุน 24 ล้านบาท ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้ 12 วัด ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, ตาก และชุมพร เพื่อบูรณะซ่อมแซมวัด หรือโครงการศึกษาพระปริยัติธรรม หรือโครงการเผยแผ่กิจกรรมทางศาสนา

๐ ส่วนคดีเงินทอนวัดที่เกรียวกราวจับอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่วัดดังหลายวัดใน กทม.นั้น ยังจ่อคิวอยู่ในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ไล่เรียงจากคดีหมายเลขดำ อท.196/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นโจทก์ฟ้อง นายเอื้อน กลิ่นสาลี “อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม)” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และนายสมทรง อรรถกฤษณ์ “อดีตพระอรรถกิจโสภณ” อดีตเลขาฯ เจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสามพระยา เป็นจำเลย, ตามด้วยคดีหมายเลขดำ อท.197/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นโจทก์ฟ้อง นายธงชัย สุขโข “อดีตพระพรหมสิทธิ หรือธงชัย สุขญาโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, นายบุญทวี คำมา “อดีตพระศรีคุณาภรณ์” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, นายสมจิตร จันทร์ศรี “อดีตพระครูสิริวิหารการ” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, นายเทอด วงศ์ชอุ่ม “อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์หรือเจ้าคุณเทอด” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, นายสังคม สังฆะพัฒน์ “อดีตพระเมธีสุทธิกรและอดีตพระราชอุปเสณาภรณ์” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านร่วมรับโอนเงิน 25 ล้านบาท, นายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ และ น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา (มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์) เป็นจำเลยที่ 1-8, คดีหมายเลขดำ อท.205/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสังคม สังฆะพัฒน์ “อดีตพระเมธีสุทธิกรและอดีตพระราชอุปเสณาภรณ์” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, นายเทอด วงศ์ชอุ่ม “อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์หรือเจ้าคุณเทอด” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และนายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศฯ เป็นจำเลยที่ 1-3 คดีโกงเงินทอนวัดสะท้านวงการสงฆ์ที่เกิดขึ้นได้เหล่านี้ ต้องยกเครดิตให้ "พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์" ผอ.พศ. ที่กล้าเปิดปฏิบัติการล้างบางอลัชชีตัวเบ้งๆ ในคราบผ้าเหลือง

๐ ช่วงนี้โทนการเมืองดูจะลดความร้อนแรงลง พรรคการเมืองต่างๆ เงียบๆ ไป ถึงจะมีแกนนำตัวจี๊ดของพรรคใหญ่ขยับเคลื่อนไหวแข่งจัดตั้งรัฐบาลก็เดินเกมในทางลับ ลงใต้ดินซะมากกว่า แต่พรรคที่มีแรงกระเพื่อมมากสุดนับตั้งแต่หลังเลือกตั้งจนถึงตอนนี้ หนีไม่พ้นพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม ทางเดินที่ว่าจะไปทิศทางไหน ระหว่างร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ หรือยอมเป็นฝ่ายค้านอิสระ ยังไม่จำเป็นที่ต้องเลือกในเวลานี้ เพราะยังไงก็ต้องรอหลัง กกต. ประกาศรับรองผล ส.ส.อย่างเป็นทางการก่อน ช่วงนี้เลยสาละวนกับการปฏิรูปพรรค โดยเฉพาะหาตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทน "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ที่ประกาศลาออกหลังแพ้เลือกตั้งยับเยินเมื่อวันพฤหัสฯ คณะกรรมการบริหารพรรคเพิ่งเคาะ คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ 7 คน มี "เทอดพงษ์ ไชยนันทน์" เป็นประธาน สรุปไม่เอาแล้ววิธีหยั่งเสียงที่ใช้ตอนชิงหัวหน้าระหว่างมาร์คกับหมอวรงค์ ที่เจอปัญหาเพียบ แต่ขอกลับไปใช้วิธีการเลือกระบบเดิมที่เคยทำกันมา รู้ผลในที่ประชุมใหญ่วันที่ 15 พ.ค.นี้

๐ เวลานี้แคนดิเดตหัวหน้าพรรคเปิดหน้ามาแค่ 2 คน "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" กับ "กรณ์ จาติกวณิช" งานนี้คงไม่มีคนนอกโผล่มาแน่ น่าจะเป็นคนในล้วนๆ และเป็นส.ส.ด้วย คราวนี้ต่างจากการเลือกหัวหน้าพรรคก่อนการเลือกตั้ง ที่จะต้องใช้เวลาเลือกเฟ้นหาแม่ทัพจะมาสู้ศึกเลือกตั้ง เพราะแพ้เรียบร้อยไปแล้ว แว่วมาว่ามีชื่อ "อภิรักษ์ โกษะโยธิน" อยู่ในความสนใจของระดับบิ๊กๆ ของพรรค มีจีบๆ ให้มาร่วมลงสังเวียนครั้งนี้ด้วย แต่ทางหล่อเล็กยังสงวนท่าทีอยู่ ขณะที่ฟากฝั่งกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์อย่าง "ถาวร เสนเนียม" ก็ยังอุบไต๋ว่าจะดันใครมาชิงอีกครั้งหรือเปล่า ส่วนหมอวรงค์ซึ่งสอบตกก็หมดสิทธิ์ไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีเวลาเกือบเดือน ก็อาจมีเซอร์ไพรส์ก็ได้ใครจะรู้.