พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล

สะพัด! ทักษิณเลือก “เสี่ยเพ้ง” กุมบังเหียนผู้นำพรรค แต่ไม่ขึ้นนั่งนายกฯ!!! เหตุ “คุณหญิงสุดารัตน์” เยอะเกิน หลายองคาพยพอึดอัดเวลาทำงานร่วม “เด็กหญิงหน่อย” เชื่อข่าวเลื่อยขาเก้าอี้ โอ่คุณหญิงสะสมบารมีด้านจิตมาเยอะ ไม่สะทกสะท้าน  เผยผู้นำพรรคช่วงนี้มีแต่ทุกขลาภ

เมื่อวันอาทิตย์ มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย  (พท.) แจ้งว่า หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังสาธารณรัฐประชาชนจีนและเขตปกครองพิเศษฮ่องกง  บรรดาคนใกล้ชิด แกนนำพรรค อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ต่างทยอยเดินทางไปพบปะเป็นจำนวนมากนั้น นอกจากนายทักษิณจะนำประสบการณ์เรื่องธุรกิจ เทคโนโลยีสมัยใหม่มาพูดคุยให้คณะที่เดินทางไปหาได้ฟังแล้ว ยังแลกเปลี่ยนสถานการณ์การบริหารงานรัฐบาลทหารในปัจจุบันและเรื่องราวในพรรคเพื่อไทยด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า นายทักษิณแสดงความเป็นห่วงต่อเรื่องราวภายในพรรค เพราะระยะหลังไม่ว่าใครจะเดินทางไปหา จะหยิบยกประเด็นการนำของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคมาหารือ ซึ่งนายทักษิณเองย้ำเสมอเช่นกันว่า เรื่องหน่อย (คุณหญิงสุดารัตน์) มีคนเอามาเล่าให้ฟังเยอะ นายทักษิณจึงห่วงถึงผลกระทบระยะยาว เพราะทั้งคนใกล้ชิด แกนนำพรรค และอดีต ส.ส.พรรคต่างลำบากใจและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลำบากในการทำงานร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์

รายงานข่าวเผยอีกว่า ครั้งหนึ่งแกนนำคนสำคัญของพรรคที่ทุกคนให้ความเกรงใจ ประสานไปยัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค ให้มาพูดคุยทำงานความเข้าใจกับคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งทั้ง 2 คนนี้เป็นที่รับรู้กันในวงกว้างถึงความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงมายาวนาน เพื่อให้เกิดความราบรื่นในพรรค มีผู้ใหญ่ในพรรคที่ทุกคนให้ความเกรงใจได้หารือร่วมกับทั้ง 2 คน ขอให้ยุติเรื่องราวบาดหมางในอดีต พร้อมร้องขอให้ ร.ต.อ.เฉลิมจับมือกับคุณหญิงสุดารัตน์ แต่มีเพียงฝ่ายเดียวที่ยื่นมือไปขอจับ ขณะที่อีกฝ่ายปฏิเสธ 

“เรื่องนี้นายทักษิณและแกนนำพรรคสายชินวัตรรับรู้ ต่างสะท้อนออกมาว่าใจแคบ จะทำงานใหญ่ใจต้องกว้าง เพียงเรื่องในพรรคยังไม่เป็นเอกภาพ ต่อไปจะให้นำพรรคคงจะเกิดความขัดแย้งทั้งระดับแกนนำพรรค อดีต ส.ส.ที่ต้องรับนโยบาย นับวันคงยิ่งจะลุกลามบานปลายอย่างแน่นอน” รายงานระบุ  

รายงานแจ้งอีกว่า หลังนายทักษิณได้รับเสียงสะท้อนความไม่สบายใจหลายฝ่ายที่หนาหูขึ้นเรื่อยๆ   จึงตัดสินใจผ่องถ่ายงานด้านต่างๆ มาให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล หรือเสี่ยเพ้ง อีกหนึ่งแกนนำของพรรคให้เข้ามามีบทบาทบริหารจัดการในพรรคมากขึ้น เนื่องจากมองว่านายพงษ์ศักดิ์เป็นผู้ใหญ่ คอยช่วยเหลืองานมาตลอดตั้งแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยจนมาถึงพรรคเพื่อไทย และในอดีต ส.ส.มีเรื่องกระทบกระทั่ง นายพงษ์ศักดิ์ได้รับการร้องขอจากนายทักษิณให้ไปเจรจา ขณะเดียวกันอดีต ส.ส.ทุกกลุ่มก็ให้ความเกรงใจ ให้ความเคารพนับถือ มีคอนเน็กชั่นจากสังคมภายนอก ที่สำคัญนายพงษ์ศักดิ์ถือเป็นสายตรง จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ 

“นายพงษ์ศักดิ์พร้อมเข้ามาทำหน้าที่เพียงชั่วขณะ แต่ออกตัวจะไม่ขอก้าวไปถึงตำแหน่งนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งล่าสุดนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาจีน นอกจากนายสมชายและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่เดินทางไปด้วยแล้ว มีเพียงนายพงษ์ศักดิ์เป็นเพียงแกนนำพรรคระดับสูงเพียงไม่กี่คน ที่ถูกเชิญไปหารือเรื่องราวต่างๆ ภายในพรรค” รายงานแจ้ง

ขณะที่นายวัฒนา เซ่งไพเราะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.กทม.สมัยพรรคไทยรักไทย หนึ่งในคนสนิทคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงกระแสข่าวอดีต ส.ส.ที่เดินทางไปพบนายทักษิณนำเรื่องราวเกี่ยวกับคุณหญิงสุดารัตน์ไปพูดให้ฟังว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเห็นต่างกัน แล้วไปพูดทำให้พรรคเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจว่าภายในพรรคมีปัญหา มีความขัดแย้งกัน เป็นการลดความน่าเชื่อถือของพรรค เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมีใครออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้อย่างชัดเจนว่าเป็นนาย ก. นาย ข. หรือชื่ออะไร เป็นเพียงความเห็นวิเคราะห์กันไป ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค กติกาใหม่ให้มีการเลือกเป็นการภายใน จะโหวตเลือกอย่างไร้คุณธรรม ไม่มีหลักเกณฑ์ไม่ได้ รวมทั้งอดีตนายกฯ เองท่านก็บอกปล่อยวางแล้ว

ถามว่าตั้งแต่มีกระแสข่าวคุณหญิงสุดารัตน์รู้สึกอย่างไร นายวัฒนากล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนักการเมืองมาตั้งแต่พรรคพลังธรรม ถูกกดดัน ถูกทำต่างๆ นานามาเยอะ สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมท่าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านนิ่งพอสมควร ไม่หวั่นไหว ท่านประสบการณ์เยอะ ยิ่งช่วงถูกพักทางการเมือง ไปสะสมบารมีด้านจิตมาเยอะ ไปทำบุญ ไปทำทาน เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบุคคลภายนอกหรือเปล่า คงอาจเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียงนิยมดี เลยอยากทำลายพรรค ทำลายความน่าเชื่อถือ

“ใครจะมาเป็นผู้นำพรรคช่วงนี้ต้องเสียสละมาก ไม่สนุกเลย คนที่มาต้องเสียสละ อดทนเป็นอย่างมาก เหมือนเป็นทุกขลาภมากกว่า ผมรู้จักคุณหญิงมานานกว่า 16 ปี ข่าวที่เกิดขึ้นชื่อว่าท่านเฉยๆ ปล่อยวางแล้ว ข่าวที่ออกมาก็คงเป็นเพียงแค่ข่าว อยากฝากถึงเพื่อนสมาชิกพรรคด้วย เราต่อสู้กันมายาวนาน เตรียมพร้อมลงพื้นที่ดีกว่า” นายวัฒนากล่าว   

ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรค และอดีตรองโฆษกพรรค กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่ได้เดินทางไปพบนายทักษิณ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น หากมองในแง่บวก ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าพรรคจะถูกทำลาย เตะตัดขาอย่างไร เราก็ยังเนื้อหอม เป็นความหวังให้ประชาชนได้ ยังมีคนพร้อมเป็นแคนดิเดตเป็นผู้นำพรรคมากมาย เวลาที่ผ่านมาสร้างความเข้มแข็งให้พรรค ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นใคร คนในพรรคพร้อมทำงานด้วย และให้การยอมรับทั้งนั้น กระแสข่าวที่ออกมาไม่ได้กังวล ไม่เป็นสร้างผลกระทบให้กับพรรค 

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้เดินทางไปยังฮ่องกง ในส่วนของเรื่องราวคุณหญิงสุดารัตน์นั้น ไม่ทราบว่าคนที่ไปแล้วไปพูดเรื่องอะไรกันบ้าง คุณหญิงเมื่อมีบทบาทเยอะเลยคิดว่าเป็นแกนนำ แต่ท่านก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่ง เป็นคนที่มีความหวังดีต่อพรรค ในพรรคมีคนที่มีความรู้ความสามารถมีศักยภาพเยอะ ส่วนใครจะมานำ คงต้องรอให้ คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรม ประมาณ 1 เม.ย. คงเรียกประชุมพรรค แต่เวลานี้พรรคมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรักษาการเลขาธิการพรรค

ถามว่า คนที่เดินทางไปพบนายทักษิณมักนำเรื่องต่างๆ ของคุณหญิงสุดารัตน์ไปเล่าให้ฟัง ตรงนี้จะส่งผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ นพ.เชิดชัยกล่าวว่า ไม่กระทบ พรรคยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยเป็นหลัก แต่บางคนอาจคิดเลยเถิดไป ทำให้เข้าใจผิด ทั้งนี้ต้องรอให้มีการปลดล็อกทางการเมือง มีการประชุมพรรคให้ได้ก่อน ส่วนใครจะมานำ ค่อยมาตกลงกัน ซึ่งใครนำพรรคก็พร้อมทำงานด้วย ในพรรคมีคนเยอะ ใครจะนำพรรคค่อยมาโหวตกันให้ได้ข้อยุติ เราเป็นประชาธิปไตยเดินไปข้างหน้าได้ เวลาทำงานไม่ได้มีเพียงเรื่องหัวหน้า ยังมีเรื่องนโยบายด้วย.