สภาอียิปต์ลงมติท่วมท้นเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็น 6 ปี ส่งผลให้ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี อดีตนายพลผู้นำก่อรัฐประหารเมื่อปี 2556 สามารถครองอำนาจต่อไปจนถึงปี 2573

ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี ขณะเข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 / AFP

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน 2562 ว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอียิปต์ลงมติเมื่อวันอังคาร ให้ความเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2557 หลายมาตรา นอกจากมาตราที่เพิ่มวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีจาก 4 ปี เป็น 6 ปี ไม่เกิน 2 สมัยแล้ว ยังรวมถึงเปิดช่องให้กองทัพมีบทบาทในทางการเมืองมากขึ้น และให้อำนาจประธานาธิบดีควบคุมระบบศาลยุติธรรมมากขึ้น

    รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้จะต้องส่งให้ประชาชนลงประชามติภายใน 30 วัน และหากชาวอียิปต์สนับสนุน จะส่งผลให้ประธานาธิบดีซิซี ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 เมื่อปี 2561 ได้ยืดเวลาการดำรงตำแหน่งในสมัยนี้ออกไปเป็น 6 ปี หรือถึงปี 2567 และยังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เขาครองอำนาจต่อไปจนถึงปี 2573

    เว็บไซต์ข่าวอัลอาห์ราม อ้างคำกล่าวของอาลี อับเดล อาล ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า มี ส.ส. 531 คน จากทั้งสิ้น 596 คนในสภา ลงมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ ส่วนฝ่ายคัดค้านมี 22 คน

    อดีตนายพลผู้นี้เป็นผู้นำการก่อรัฐประหารโค่นอำนาจโมหะเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีคนแรกของอียิปต์ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อปี 2556 ภายหลังชาวอียิปต์ชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่เพื่อต่อต้านผู้นำอิสลามนิยมรายนี้

    ซิซีชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีถัดมา และชนะอีกสมัยโดยแทบไร้คู่แข่งเมื่อเดือนมีนาคม 2561 โดยได้คะแนนสนับสนุนมากกว่า 97% หลังจากผู้ที่อาจเป็นคู่แข่งคนสำคัญถ้าไม่ถอนตัวและโดนจับกุม

    รัฐบาลของอดีตนายทหารผู้นี้โดนกลุ่มสิทธิมนุษยชนวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่ากดขี่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่โมหะเหม็ด อาบู ฮาเหม็ด ส.ส.ที่ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ซิซีครองอำนาจยาว ยืนกรานว่าจำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ซิซีได้ปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมืองจนเสร็จสมบูรณ์

    ด้านแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลกล่าวว่า จากการอนุมัติการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ส.ส.อียิปต์แสดงให้เห็นถึงการเพิกเฉยต่อสิทธิมนุษยชนอย่างสิ้นเชิง.