เปิดคำฟ้องอัยการร่ายพฤติกรรมโฉดยิบ22โจ๋บุกโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์


เพิ่มเพื่อน    

17 เม.ย.62 -  ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.เอกชัย-บางบอน ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พวกจำเลยร่วมงานบวชพระวัดสิงห์ได้บุกรุก-ทำร้ายร่างกายครูและนักเรียนในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ระหว่างการสอบ GAT-PAT เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 หมายเลขดำ อ.399/2562 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายมนตรี หรืออุ๊ พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี กับพวกกลุ่มชายฉกรรจ์ อายุตั้งแต่ 18 ปีเศษ - 41 ปี รวม 22 คน เป็นจำเลยที่ 1-22 

ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันบุกรุกเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้าย และโดยกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ และทรัพย์สินของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ต่อหน้าธารกำนัล, บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา 215, 278, 281, 295, 309, 358, 362, 365, พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 3, 31, 42 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 92 

อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 จำเลยทั้ง 22 คน กับนายพีรยุทธ หรือบอล เสริฐพูล ซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และเยาวชนอีก 4 คน ซึ่งได้แยกดำเนินคดีแล้ว ได้ดื่มสุราและเบียร์ ภายในบริเวณวัดสิงห์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง (ช่วงพิธีบวชพระ) ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา โดยพวกจำเลยได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปภายในบริเวณโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ผู้เสียหายที่ 1 โดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตระหว่างที่โรงเรียนได้สอบทางวิชาการ GAT/PAT ซึ่งจำเลยทั้ง 22 คนกับพวก ได้ร่วมกันใช้กำลังชกต่อยนายพนมราช บุญนิรันดร์ พนักงาน รปภ.ของโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ 3 ที่บริเวณใบหน้าจนเป็นแผลหลายแห่ง และยังชกต่อยนางละไมล์ ใจเที่ยง ผู้เสียหายที่ 4 ที่บริเวณหลัง อีกหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้จำเลยทั้ง 22 คนกับพวกยังได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปภายในห้องทำงานของนายบุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต ผอ.โรงเรียน ผู้เสียหายที่ 2 ชกที่บริเวณใบหน้าด้วยอีกหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บฟกช้ำ แล้วยังร่วมกันบุกรุกเข้าไปภายในห้องเรียนขณะที่นักเรียนกำลังสอบ ก่อนร่วมกันทำร้ายร่างกายนายฉัตราภัทร์ นามจันดี ครูที่คุมสอบ ผู้เสียหายที่ 5 ที่บริเวณใบหน้าและใช้เก้าอี้กับโต๊ะไม้ทุ่มใส่ด้วยทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำ กับชกต่อยตบที่ใบหน้า-เตะ นักเรียนชายอีก 7 คน ผู้เสียหายที่ 8, 10, 11, 12, 13, 14, 16 และดึงกระชากเสื้อนักเรียนบางคนจนขาดกับทำให้แว่นสายตาของนักเรียนเสียหายใช้การไม่ได้ รวมเป็นเงิน 1,260 บาท ดึงไหล่-ศอก นักเรียนชายอีกคน ผู้เสียหายที่ 15 และยังร่วมกันทำร้ายนักเรียนหญิงอีก 2 คน ผู้เสียหายที่ 6-7 โดยตบที่บริเวณใบหน้าหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพกช้ำที่แก้ม, ขากรรไกร และเปลือกตา กับผลักนักเรียนหญิง ผู้เสียหายที่ 9 จนได้รับบาดเจ็บ โดยระหว่างก่อเหตุ นายวัลลภ หรือเอกไฝ นุชแฟง จำเลยที่ 2 ยังได้กระทำอนาจาร ใช้แขนโอบกอดเอวนักเรียนหญิง ผู้เสียหายที่ 7 พร้อมคำพูดไม่เหมาะสมต่อหน้าบุคคลอื่นด้วย

นอกจากนี้ พวกจำเลยยังร่วมกันทำให้ทรัพย์สินของโรงเรียนเสียหายอีกหลายรายการ อาทิ โทรทัศน์สีขนาด 43 นิ้ว โถเซรามิคบ่อน้ำพุ เครื่องฉายภาพทึบแสง โต๊ะ-เก้าอี้นักเรียน พัดลม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,300 บาท ชั้นสอบสวนจำเลยมีทั้งรับสารภาพบางข้อหา และปฏิเสธบางข้อหา

ท้ายฟ้อง อัยการโจทก์ขอให้ศาลได้โปรดลงโทษจำเลยตามอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมาย เนื่องจากการกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย อาศัยที่มีพวกมากบุกรุกเข้าไปในโรงเรียน ทำร้ายเด็กนักเรียน ครูผู้คุมสอบ ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร ทั้งที่ไม่รู้จักและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน เป็นการข่มเหงรังแกผู้อื่นเพื่อความสะใจ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่น และเพื่อความสงบสุขของสังคมโดยรวม 

พร้อมกันนี้ อัยการก็ได้คัดค้านการให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 22 คนด้วย เนื่องจากจำเลยมีเป็นจำนวนมาก ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย จึงอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

และในส่วนของนายสมชาย หรือปี๊ด แก้วสิมมา อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด จำเลยที่ 7 กับนายธวัช หรือวัช สดำพงษ์ อายุ 33 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จำเลยที่ 9 ขอให้เพิ่ม 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ด้วย เนื่องจากนายสมชาย จำเลยที่ 7 เคยต้องโทษคดีเสพเมทแอมเฟตามีน ที่ศาลแขวงธนบุรีมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วจำคุก 4 เดือน 15 วัน โดยจำเลยที่ 7 พ้นโทษมาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2560 และนายธวัช จำเลยที่ 9 เคยต้องโทษคดีมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ที่ศาลอาญาธนบุรีมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วจำคุก 9 เดือน โดยจำเลยที่ 9 พ้นโทษมาเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2558 แล้วทั้งสองมากระทำผิดในคดีนี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงเวลา 5 ปีนับแต่วันพ้นโทษอีก

วันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้ง 22 มาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งจำเลยทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ในเรือนจำตั้งแต่ชั้นฝากขัง และเมื่อศาลสอบถามจำเลยทั้ง 22 คน ว่ามีทนายความแล้วหรือไม่ มีจำเลย 10 คน แถลงขอศาลตั้งทนายความให้ ส่วนจำเลย 12 คนแถลงยังไม่มีทนายความ แต่จะหาทนายความเอง ศาลจึงนัดพร้อมสอบคำให้การและตรวจหลักฐานคดี ในวันที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มที่เป็นเยาวชน อีก 4 คน ที่เป็นชายอายุ 16 ปี 2 คน และอายุ 17 ปี อีก 2 คน ซึ่งร่วมกับกลุ่มชายฉกรรจ์งานบวชพระวัดสิงห์นั้น ก็แยกดำเนินการตามขั้นตอน ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ในศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยอัยการกำหนดนัดจะยื่นฟ้องคดีต่อศาลเยาวชนฯ ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ซึ่งชั้นสอบบสวนของตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหาฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 

ส่วนจำเลยทั้ง 22 คน ประกอบด้วย นายมนตรี หรืออุ๊ พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี ชาว กทม.ย่านบางขุนเทียน จำเลยที่ 1 , นายวัลลภ หรือเอกไฝ นุชแฟง อายุ 32 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 2 , นายชาติสยาม จันทรวิภาค อายุ 24 ปี ชาว กทม. ย่านบางแค จำเลยที่  3 , นายณัฐพงศ์ หรือเต้ย นุชแฟง อายุ 18 ปีเศษ ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่  4 , นายศรายุทธ หรือเต๋า นุชแฟง อายุ 24 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 5 , นายจีรศักดิ์ หรือหนึ่ง นีละเสวี อายุ 41 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 6 , นายสมชาย หรือปี๊ด แก้วสิมมา อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด จำเลยที่ 7 , นายชัชศิริ หรือกล้วย แซ่โง้ว อายุ 39 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 8 ,  นายธวัช หรือวัช สดำพงษ์ อายุ 33 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จำเลยที่ 9 , นายวรภัทร หรือแอมพินิจปรีชา อายุ 28 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร จำเลยที่ 10 , นายอนุกูล หรือเอกหนัง สังข์ศรี อายุ 33 ปี ชาว กทม. ย่านจอมทอง จำเลยที่ 11 , นายจิรายุทธ หรือบอย อาจอาสา อายุ 25 ปี ชาว จ.สุรินทร์ จำเลยที่ 12 , นายธิติ หรือ ออฟ ไวยสุกรี อายุ 26 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 13 ,  นายเมืองแมน หรือนาจ นิลโพธิ์ทอง อายุ 18 ปีเศษ ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่  14 , นายวิโรจน์ หรือโอ คำชาย อายุ 28 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 15 , นายดลราม หรือฟลุค เก่งวิชา อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร จำเลยที่ 16 , นายขวัญชัย หรือขวัญ สุขเสมอ อายุ 29 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 17 , นายเอกลักษณ์ หรืออาร์ม พูลทรัพย์ อายุ 26 ปี ชาว กทม.ย่านบางขุนเทียน จำเลยที่ 18 , นายไน้ท หรือปอน จ้อยเจริญ อายุ 20 ปี ชาว กทม.ย่านจอมทอง จำเลยที่ 19 , นายชนะชัย หรือ กอล์ฟ ใจหล้า อายุ 25 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 20 , นายสิทธิชัย หรือต่าย จรสุข อายุ 37 ปี ชาว จ.อ่างทอง จำเลยที่ 21 , นายพีรพล หรือนะ เอมชาวนา อายุ 28 ปี ชาว จ.อ่างทอง จำเลยที่ 22 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"