โล้นหื่นลวงลงนะ


เพิ่มเพื่อน    

    กาฝากศาสนา!สาวแจ้งตำรวจถูกพระชวนไปทำพิธีลงนะหน้าทองในโรงแรม มีข้อแม้ต้องร่วมหลับนอนด้วยพิธีจึงจะขลัง ตำรวจซ้อนกลทำให้แสร้งยินยอม ก่อนจู่โจมรวบตัวไว้ได้ พบกินยาไวอะกร้าปลุกกำหนัดไว้ล่วงหน้า ส่งให้เจ้าคณะจังหวัดจับสึกก่อนคุมตัวดำเนินคดี
    เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บุญสม ใบละมุด สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งจากหญิงสาวรายหนึ่งว่า ถูกพระรูปหนึ่งล่อลวงให้เข้าไปทำพิธีลงนะหน้าทองในโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองอ่างทอง อ้างว่าจะช่วยให้การค้าเจริญรุ่งเรือง หากไม่ทำก็จะมีอันเป็นไป ซึ่งในพิธีดังกล่าวจะต้องมีเพศสัมพันธ์กันด้วย ว่าเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการเป็นพระ อวดอุตริมนุสธรรม ไม่เป็นไปตามคำสอนทางศาสนา
    หญิงผู้นี้เล่ารายละเอียดว่า ได้พบกับพระรูปดังกล่าวที่ตลาดอ่างทอง หลอกล่อให้ตนทำพิธีลงนะหน้าทอง โดยอ้างว่าตนกำลังมีเคราะห์ถึงฆาต จากนั้นได้ขอเบอร์โทรศัพท์มือถือ แล้วพยายามโทร.ติดต่อตนเองหลายครั้ง โดยการไลน์หรือโทร.มาแต่ละครั้งจะใช้ถ้อยคำลามก เช่น ขอดูหน้าอก ของสงวน ทั้งบอกว่าการลงนะหน้าทองแบบเต็มพิธี ผู้เสียหายจะต้องมีเพศสัมพันธ์กับพระด้วย ทำให้ตนเองตกใจมาก จึงมาแจ้งความเพราะไม่ต้องการให้พระรูปนี้ไปหลอกใครอีก
    จากนั้นตำรวจได้วางแผนจับกุม โดยให้หญิงผู้เข้าแจ้งความทำทีตอบตกลงกับพระรูปดังกล่าวที่จะทำพิธี นัดหมายไปพบกัน ซึ่งพระรูปดังกล่าวได้นัดฝ่ายหญิงให้มารับที่บริเวณทางเข้าโรงแรม จากนั้นได้เปลี่ยนจีวรเอาใส่กระเป๋าที่เตรียมมา และซ้อนรถจักรยานยนต์หญิงสาวเข้าไปในโรงแรมเพื่อทำพิธี ซึ่งมีเจ้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเฝ้าดูอยู่ห่างๆ เมื่อเข้าไปได้ประมาณ 20 นาที ฝ่ายหญิงได้ส่งสัญญาณร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมกับเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปห้องของโรงแรม พบชายศีรษะโล้น สักยันต์ตามร่างกาย นุ่งผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว เมื่อตรวจค้นกระเป๋าพบจีวร เครื่องรางของขลัง บทคาถาสวดมนต์ อุปกรณ์ทำพิธีลงนะหน้าทอง ยาไวอะกร้าที่กินไปแล้ว 2 เม็ด เสื้อยืดสีดำ กางเกงขาวยาวสีดำ และหมวกที่เตรียมมาเปลี่ยนเพื่อตบตา ค้นใบสุทธิ ทราบชื่อพระอมตะวงษ์ แตงเกษม อายุ 52 ปี ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นพระอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี แต่ได้ธุดงค์มาขออาศัยวัดในจังหวัดอ่างทองเพื่อปฏิบัติธรรม  
    จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทองได้นำตัวพระอมตะวงษ์เดินทางไปที่วัดอ่างทองวรวิหาร เพื่อให้พระครูสุทธิกิจจาทร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง เจ้าอาวาสวัดอ่างทองวรวิหาร ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและสึกจากสมณเพศ พร้อมกับควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองอ่างทอง ส่งมอบให้ ร.ต.อ.มานิตย์ นาคไพบูลย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นตั้งข้อหากระทำอนาจาร
    สำหรับพระอมตะวงษ์ หรืออาจารย์อมตะวงษ์ ตั้งตนเป็นเกจิจอมขมังเวท บวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 10 พรรษา ก่อนเดินทางมาอาศัยวัดในจังหวัดอ่างทอง โดยตั้งตนเป็นหมอดู เกจิอาจารย์ ทำพิธีทางไสยศาสตร์หลายครั้งจนชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ก่อนที่จะมาถูกจับกุมในที่สุด
    ลำปาง มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่เมาะ ทหาร กกล.รส.มทบ.32 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่เมาะ พร้อมนิมนต์พระครูอุปถัมภ์ปุณยาคม เจ้าคณะอำเภอแม่เมาะ และพระปลัดวีระศักดิ์ถาวรจิตโต ตำแหน่งพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ร่วมเป็นพยานในการนำเข้าตรวจสอบที่วัดสบเติ๋น หมู่ 2 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย 
    เมื่อไปถึง พบพระครูประทีปปุณณทัศน์ (สมบูรณ์ ณ ลำพูน) กำลังขับรถยนต์เข้ามายังบริเวณวัด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและได้บอกถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าตรวจที่วัด โดยพระครูประทีปปุณณทัศน์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสบเติ๋น และเจ้าคณะตำบลแม่เมาะเขต 1 ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในวัด ปรากฏไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจปัสสาวะโดยใช้น้ำยาชุดทดสอบชนิดตลับ ซึ่งผลการตรวจเบื้องต้นเป็นบวก 
    อย่างไรก็ตาม พระครูประทีปปุณณทัศน์ให้การฏิเสธว่าไม่ได้เสพยาเสพติด (ยาบ้า) แต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันนำตัวพระครูประทีปปุณณทัศน์มาที่ สภ.แม่เมาะ เพื่อบันทึกส่งตัวอย่างปัสสาวะให้กับทางโรงพยาบาลแม่เมาะตรวจสอบอีกครั้ง ปรากฏว่าผลเป็นบวก พบสารเสพติดชนิดเมตแอมเฟตามีนในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพระครูประทีปปุณณทัศน์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และขับขี่ยวดยานพาหนะในขณะร่างกายมีสารเสพติดให้โทษ 
    จากนั้นได้นิมนต์พระครูอุปถัมภ์ปุณยาคม เจ้าคณะอำเภอแม่เมาะ เพื่อทำการสึก แต่พระครูประทีปปุณณทัศน์ไม่ยินยอมพร้อมทั้งเอะอะโวยวาย และขอให้นำไปพบเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปพบเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าคณะจังหวัดพิจารณาแล้ว ให้เจ้าคณะอำเภอนำตัวไปดำเนินการสึก แต่พระครูประทีปปุณณทัศน์ก็ยังไม่ยินยอม และได้เรียกญาติพี่น้องมาช่วย จนสุดท้ายต้องนำไปตัวไปที่วัดห้วยคิงและทำการสึกได้ในเวลาเที่ยงคืนเศษ ก่อนที่จะนำไปตัวไปฝากขังที่ สภ.แม่เมาะ และญาติได้มาประกันตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"