เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังมั่นใจมากว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นฝ่ายกำชัยในศึก ออล อิงแลนด์ ของ รอบควอร์เตอร์ไฟนอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยันทีมจะพลิกผลที่ตามหลังท็อตแน่มอยู่ 1 ลูก กลับมาเข้ารอบได้ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมเลกสอง คืนวันพุธนี้
        เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บอสมือท็อปชาวสเปนิช ของทีมเรือใบสีฟ้า มั่นใจว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นฝ่ายได้ตบเท้าเข้าสู่รอบเซมิไฟนอล ด้วยการสอย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ พ้นเส้นทางในรอบก่อนรองฯ ของปีนี้
        แชมป์พรีเมียร์ลีก ในเลกแรก เสียท่าไปก่อน บุกแพ้ ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 0-1 เมื่ออังคารที่แล้ว ซอน เฮือง-มิน กองหน้าเกาหลีใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนทำสกอร์แรกที่ สนามใหม่แห่งนี้เมื่อก่อนหน้านั้น เป็นคนทำประตูตัดสินให้เจ้าบ้านชนะไปหวุดหวิด ด้วยลูกยิงในนาทีที่ 79
        ซิตี้ ไม่ว่าจะอย่างไร ยังคงได้รับการยกให้เป็นทีมเต็งที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ แม้แต่ตบเท้าเข้าไปคว้าแชมป์รายการนรี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรในนัดชิงชนะเลิศ ที่รออยู่ปลายเดือน พฤษภาคมนี้
        แต่ สเปอร์ส ชุดนี้ เล่นรวดเร็วและจบสกอร์อย่างมีประสิทธิภาพแบบมีตัวทดแทนกันได้ ซึ่ง ทีมของ กวาร์ดิโอล่า จะวางใจไม่ได้ เพื่อไม่ให้ต้องเสียฟอร์มตกรอบด้วยน้ำมือของทีมจากพรีเมียร์ลีกเป็นปีที่สองติดต่อกัน หลังเคยเสียท่าให้กับ ลิเวอร์พูล เมื่อปีที่แล้ว
        ก่อนเกมชี้ชะตาที่ เอติฮัด บอสทีมเรือใบสีฟ้า ยืนยันว่า จะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นซ้ำอีกแน่ในปีนี้
        "ถ้าคุณถามผมว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมตอบได้ว่า เราจะได้ผ่านเข้าสู่รอบเซมิไฟนอล นันคือสิ่งที่ผมรู้สึกได้ในตอนนี้"
        "มันเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกได้ทันทีตั้งแต่ตอนจบเกมที่แล้ว และเมื่อผมกลับมาทบทวนแมทช์นั้น บางทีผมอาจถูกหรือผิดก็ได้ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ในตอนนี้ คือเราจะผ่านเข้าสู่รอบเซมิไฟนอล"
    ศึกหนักสำหรับ ซิตี้ มากกว่าใครในตอนนี้ คือการที่พวกเขาต้องการคว้าแชมป์ถึง 4 รายการ  ทำให้มีโปรแกรมลงสนามถี่กว่าคู่แข่ง แต่ก็ประเดิมแชมป์ไปแล้วหนึ่งรายการคือ คาราบาว คัพ เมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา ตอนนนี้ เอฟเอ คัพ รอเตะนัดชิงชนะเลิศ ขณะที่พรีเมียร์ลีก เหลือเตะ 5 นัด ถ้าชนะหมดก็แชมป์ แต่หากสะดุดนสักนัด แชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ คงไปอยู่ที่แอนฟิลด์ ที่เก็บคะแนนไปมากกว่าแล้ว 2 นัด แต่แค่มากกว่าอยู่หนึ่งนัด
        ทางด้าน ลิเวอร์พูล โอกาสสดใสมากแล้วที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ รายการนี้ หลังจากที่อัด ปอร์โต้ ตุนไว้แล้ว 2-0 จากเลกแรก และถึง แม้เลกสองจะเตะที่ เอสตาดิโอ โด ดราเกา ก็ใช่ว่า เจ้าบ้านจะต้านไว้ได้
        ลิเวอร์พูล ช่วงนี้กำลังกลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องแล้ว หลังเคยสะดุดไปอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้บรรดาเดอะ ค็อปส์ ไมได้หวังเพียงแค่ถ้วยพรีเมียร์ลีก แต่มั่นใจว่าขุมกำลังที่มีบวกกับฟอร์มในตอนนี้ พวกเขาน่าจะดีพอสำหรับการฟาดแชมป์ยุโรปได้อีกรายการ ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ 4 นัดเท่านั้นในทั้ง 2 ถ้วย
        จากสถานการณ์ที่พอจะควบคุมได้แล้วในรอบควอร์เตอร์ไฟนอล คาดกันว่า เจอร์เกน คล็อปป์ จะมีการพักตัวนักตะบางคนออกไปบ้างที่สำคัญใครสำคัญแล้วสุ่มเสี่ยงจะเจ็บหนักได้ก็ต้องดร็อปก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะส่งชุดอ่อนสุดๆไปลุยในเกมนอกบ้านได้ เพราะอย่างน้อย ปอร์โต้ ก็เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถกลับมาได้ในรอบที่แล้วที่เจอกับโรม่า ดังนั้นถึง กุนซือชาวเยอรมันอยากจะพักตัวผู้เล่นแต่ก็คงทำไม่ได้เต็มที่