อภินิหารของการลอก กติกาเลือกตั้งมาไม่ครบถ้วน


เพิ่มเพื่อน    

    หนึ่งในนักวิชาการที่เกาะติดวิธีการคำนวณเพื่อจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำลังเป็นประเด็นถกแถลงกันอยู่ในสังคมไทยวันนี้คือ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย อดีตอธิการบดี Asian Institute of  Technology (AIT)
    ท่านนำเสนอสูตรการคำนวณที่น่าสนใจหลายประการ และวันก่อนได้เขียนแนวทางวิเคราะห์ไว้ในเฟซบุ๊กหลังจากผมได้เชิญมาออกรายการ "ตอบโจทย์" ทาง ThaiPBS ไว้ดังนี้
    ท่านบอกว่าท่านเสนอแนวความคิดในฐานะเป็น "นักวิชาการผู้ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากลคนหนึ่ง"  
    (1) ระบบการเลือกตั้งที่ใช้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นระบบ Mixed Member Apportionment  System (MMA) เข้าใจว่าเกิดจากประเทศเยอรมนี และปัจจุบันมีประเทศที่ใช้อยู่ คือ เยอรมนี  นิวซีแลนด์ สกอตแลนด์ โบลิเวีย และเลโซโท 
    (2) หลักการ MMA คือ ส.ส.พึงมีในระดับประเทศ ที่ได้จากสัดส่วนของคะแนนทั้งประเทศจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งมาจากตัวแทนระดับเขต (ส.ส.เขต) ซึ่งเลือกโดยประชากรในเขต และส่วนที่เหลือ  (ส.ส.บัญชีรายชื่อ) มาจากการจัดสรรจากคะแนนเสียงของพรรคทั่วประเทศ
    (3) ในระบบ MMA ดั้งเดิม ประเทศเยอรมนีใช้บัตรใบเดียวในการเลือกทั้งผู้แทนเขตและพรรค  (บังคับให้เลือกผู้แทนคนไหน ก็ต้องเลือกพรรคเขาด้วย) แต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นใช้บัตร 2 ใบ ใบหนึ่งเลือกผู้แทนเขตและใบหนึ่งเลือกพรรค ประเทศอื่นๆ ที่ใช้ MMA เท่าที่อ่านพบจะใช้บัตร 2 ใบทั้งนั้น
    (4) ปกติในระบบ MMA ที่นั่ง ส.ส.เขต (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่ง ส.ส.พึงมี) ควรมีจำนวนน้อยกว่า  ส.ส.พึงมี แต่ในประเทศที่มีพรรคเป็นจำนวนมาก ผู้ชนะ ส.ส.เขตมักชนะด้วยคะแนนไม่สูงนัก ดังนั้น คะแนนรวมทั้งประเทศจึงไม่สูงด้วยสัดส่วนเดียวกับจำนวน ส.ส.เขต ผลที่ได้ในเชิงคณิตศาสตร์คือ  จำนวน "ส.ส.บัญชีรายชื่อ = จำนวนที่นั่ง ส.ส.พึงมี-จำนวน ส.ส.เขต" มีค่าติดลบ กรณีนี้ก็เกิดขึ้นทั้งที่เยอรมนีและนิวซีแลนด์ เรียกกันว่าเกิด Overhanging Seats
    (5) ในกรณีเกิด Overhang Seats ที่เยอรมนีและนิวซีแลนด์ ตามกติกาประเทศทั้งสองยอมเพิ่มจำนวนที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อตาม เรียกว่า Balance Seats เพื่อจะไม่ไปลดสัดส่วนจำนวนที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคอื่นๆ ดังนั้นถ้ากติกานี้มีในประเทศไทย จำนวน ส.ส.ทั้งหมดก็สามารถมีมากกว่า  500 ได้ตาม Overhang Seat
    (6) ประเทศอื่นๆ ที่ใช้ระบบ MMA ทุกประเทศ ได้ออกแบบให้มี "จุดตัดทิ้ง (Threshold)" เพื่อป้องกันพรรคเล็กพรรคน้อยจำนวนมากมาย เช่น นิวซีแลนด์กำหนดให้พรรคที่ไม่ได้ ส.ส.เขตเลย ถ้าจะมาแบ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 5% ที่เยอรมนีก็ใช้ 5% โบลิเวียใช้ 3% (ไม่พบประเทศใดที่ไม่มีการกำหนด Threshold เหมือนกติกาเรา ซึ่งทำให้พรรคที่ตกน้ำฟื้นขึ้นมาใหม่ถึง 13 พรรค)
    (7) มี 2 ปรากฏการณ์ที่คนส่วนใหญ่ยังสับสน ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร และมักเอามารวมปนกัน
    (7.1) ทำไมมี 13 พรรค ที่คะแนนดิบต่ำกว่า Quota (คะแนน 71,065 ต่อ 1 ส.ส.พึงมี) จึงสามารถฟื้นกลับมาได้ 1 ส.ส. ถ้าดูจากตารางที่ผมจำลองสำหรับประเทศสารขัน การเกลี่ยเศษเพื่อแปลงเลขทศนิยมให้เป็นเลขเต็มโดยวิธี Largest Remainder Method หรือมาตรา 128(4) คือสาเหตุที่แท้จริงของปรากฏการณ์นี้ วิธีแก้ไขในอนาคตคือ การกำหนดให้มี Threshold เหมือนประเทศที่ใช้ MMA อื่นๆ  (แปลกใจว่า ผู้ออกแบบกติกาเลือกตั้งของประเทศไทย ลืมประเด็นนี้ไปได้อย่างไร)
    (7.2) ทำไมพรรคที่เคยได้ ส.ส.พึงมีจำนวนหนึ่ง แต่สุดท้ายจำนวน ส.ส.ที่ได้กลับหายไป (เช่น พรรค อคม. จาก 88.17 เหลือ 80) สาเหตุที่แท้จริงคือ การปรับ Overhang Seats จำนวน 25.47 ที่นั่ง (ซึ่งเกินจาก 150 ที่นั่ง) ดังนั้น พรรคไหนได้จำนวน ส.ส.รายชื่อจำนวนมากกว่า ก็จะถูกปรับลดมามากตามสัดส่วน
    (ตามวิธีคำนวณของอาจารย์กนกศักดิ์ จะมีพรรคได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 27 พรรค ในจำนวนนี้จะมีพรรคที่มีที่นั่งหนึ่งที่นั่ง 13 พรรค)
    พรุ่งนี้: อีกสูตรหนึ่งที่จะมีพรรคการเมืองที่มีที่นั่งหนึ่งที่นั่งเพียง 3 พรรค.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"