16 เม.ย.62- ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเนติบัณฑิตยสภา และอุปนายกสภาทนายความ กล่าวว่า ขณะนี้มีกฎหมายฉบับใหม่ออกมาเป็นที่น่าจับตามองคือ พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับในวันที่ 15 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เพื่อให้การทะเบียนราษฎรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความเป็นธรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย และการคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของประชาชน
โดยในมาตรา 13 ของกฎหมายใหม่นี้ระบุว่า เมื่อศาลได้ออกหมายจับผู้ใด ไม่ว่าจะออกโดยพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจร้องขอ หรือศาลออกเองก็ตาม ถ้ายังจับไม่ได้ภายใน 180 วันนับแต่วันที่ศาลออกหมายจับ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ มีหน้าที่แจ้งให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางทราบ และให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางแจ้งให้นายทะเบียนย้ายคนที่ถูกออกหมายจับนั้นออกจากทะเบียนบ้าน และเพิ่มชื่อและรายการของผู้นั้นไว้ในทะเบียนบ้านกลาง และให้หมายเหตุไว้ในรายการของบุคคลนั้นว่าอยู่ในระหว่างการติดตามตัวตามหมายจับด้วย หากผู้ที่ถูกโอนย้ายชื่อไปอยู่ทะเบียนบ้านกลางนั้น ต้องการย้ายกลับเข้าทะเบียนบ้านของตน ก็ต้องมาแสดงตัวต่อนายทะเบียนนั้น พร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่าหมายจับนั้นได้ถูกเพิกถอนหรือตนเองถูกจับตามหมายจับนั้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าทะเบียนบ้านกลางคืออะไร ว่าที่ พ.ต.สมบัติ จแงว่า ทะเบียนบ้านกลาง คือทะเบียนบ้านสำหรับลงรายการบุคคลที่ไม่อาจมีชื่อในทะเบียนบ้าน บุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางไม่สามารถใช้อ้างอิงหรือยืนยันที่อยู่ของตนตามทะเบียนบ้านได้ เพราะบ้านเลขที่ตามทะเบียนบ้านกลางที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือที่ตั้งของสำนักงานเขต หรือที่ตั้งของสำนักทะเบียนราษฎรในแต่ละท้องที่ หากนำไปใช้ส่งจดหมายหรือส่งหมายศาล ก็จะไม่สามารถส่งได้ เพราะไม่มีตัวผู้รับตามจ่าหน้าหรือที่ระบุในหมายศาล เพราะเป็นที่ทำงานของทางราชการ ไม่มีคนพักอาศัย
กรณีที่ชื่อจะไปปรากฏอยู่ในทะเบียนบ้านกลางได้ โดยทั่วไปจะเกิดจากการที่เจ้าบ้านแจ้งว่า ผู้มีชื่อในทะเบียนบ้านของตน ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของตน ได้ย้ายออกไปนานแล้ว ไม่รู้จักว่าเป็นใคร ไม่ทราบว่าปรากฏชื่อได้อย่างไร หรือตัวบุคคลนั้นแจ้งย้ายออกจากที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งย้ายเข้าไปในทะเบียนบ้านอื่น คนกลุ่มนี้ก็จะถูกจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านเดิม และเมื่อไม่มีที่อยู่ใหม่ ชื่อจึงต้องไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง
กฎหมายใหม่นี้ทำให้คนที่หนีหมายจับ หรือตำรวจไม่ได้ตัวมาภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ศาลออกหมายจับ จึงต้องถูกย้ายชื่อไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ไม่ว่าคนนั้นจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม และนอกเหนือไปกว่านั้นกฎหมายหมายยังให้หมายเหตุไว้ในทะเบียนบ้านด้วยว่า เขากำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวตามหมายจับ พูดแบบชาวบ้านก็คือ ทะเบียนบ้านจะถูกระบุว่าท่านหนีหมายจับอยู่
เมื่อถามว่ากฎหมายใหม่นี้จะกระทบกับคนที่หนีหมายจับ เป็นการละเมิดสิทธิของบุคคล ขัดหลักความเสมอภาคหรือไม่ ว่าที่ พ.ต.สมบัติ กล่าวว่า อาจมองได้ว่าการกระทำนี้เป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลแน่นอน เพราะเป็นการจำหน่ายชื่อของเขาออกไปโดยเขาไม่ยินยอม การระบุไว้ในทะเบียนบ้าน เท่ากับเป็นการประจานตัวบุคลไปด้วย ทั้งๆ ที่ รัฐธรรมนูญให้สันนิษฐานไว้ว่า บุคคลเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนเป็นส่วนรวม ซึ่งเป็นสิทธิของคนหมู่มากก็จะเห็นได้ว่า เจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่ระบุไว้ชัดว่าสามารถทำได้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติมาเรียบร้อยแล้ว เป็นการใช้ระบบทะเบียนราษฎรให้มีประโยชน์ต่อการอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน และวันนี้กฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว
แปลว่าฝ่ายนิติบัญญัติได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การออกกฎหมายฉบับนี้แม้จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ ประโยชน์สาธารณะย่อมอยู่เหนือประโยชน์ส่วนตน ดังนั้นหากมีหมายจับ กฎหมายต้องการให้ท่านแสดงตนเพื่อเข้าต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม กฎหมายต้องการให้สู้ไม่ใช่หนี และในวันนี้ หากท่านหนี ท่านจะมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านใหม่ แม้จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม และเหนือสิ่งอื่นใด ในทะเบียนบ้านใหม่ของท่านจะมีข้อความระบุให้คนทั่วไปเข้าใจได้ว่า ท่านกำลังหนีหมายจับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |