ตัวเลขงอกทุกวัน เข้าวันที่สี่อุบัติเหตุสงกรานต์เสียชีวิตแล้ว 237 ศพ บาดเจ็บ 2,322 คน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมาขับยังคงเป็นสาเหตุหลัก สายแว้นก่ออุบัติเหตุสูงสุด ส่วนมาตรการดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ยึดไปแล้ว 3,695 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 15,616 ใบ และดำเนินคดีผู้กระทำผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 69,985 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 43,954 คน
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2562 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2562 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 567 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 59 ราย ผู้บาดเจ็บ 598 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 42.86 ขับรถเร็ว ร้อยละ 25.40 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.31 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 67.55 บนถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 37.74 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.39 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 29.10 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 22.22
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,039 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,337 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 1,072,767 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 238,111 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 65,349 ราย ไม่มีใบขับขี่ 58,950 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (21 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย และร้อยเอ็ด (20 คน)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน (11-14 เม.ย.62) เกิดอุบัติเหตุ 2,232 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 237 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,322 คน
จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง, ตราด, นครนายก, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, พังงา, แม่ฮ่องสอน, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สุโขทัย, อ่างทอง และอำนาจเจริญ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (81 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา และอุดรธานี (11 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (82 คน)
'สายแว้น' อุบัติเหตุสูงสุด
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวต่อไปว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงสี่วันที่ผ่านมา พบว่าถนนสายรองและเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง เนื่องจากหลายพื้นที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์และเฉลิมฉลองด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้อัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูง มีสาเหตุหลักจากการขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ
ประกอบกับหลายพื้นที่ยังคงเล่นน้ำสงกรานต์ ศปถ.จึงได้กำชับให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเน้นการเรียกตรวจของด่านชุมชน เพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะดื่มแล้วขับและขับรถเร็วในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ รวมถึงดูแลความปลอดภัยในบริเวณสถานที่เล่นน้ำสงกรานต์และบริเวณจัดงานรื่นเริง และดูแลการเปิดปิดสถานบริการ สถานบันเทิง โดยกวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า วันนี้ประชาชนบางส่วนยังคงท่องเที่ยวและเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ ในขณะที่บางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ จึงขอให้จังหวัดบูรณาการเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้เกิดความคล่องตัว รวมถึงจัดเตรียมจุดบริการ จุดพักรถ และระบบขนส่งสาธารณะให้เพียงพอในการรองรับการเดินทางกลับของประชาชน ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่เตรียมความพร้อมในการเดินทางผ่านทุกช่องทางสื่อ ทั้งการเตรียมร่างกาย ตรวจสอบสภาพรถ และวางแผนการใช้เส้นทางอย่างเหมาะสม เพื่อให้การเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงวันที่ 15-16 เมษายน 2562 พื้นที่ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนในลักษณะฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ทำให้สภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี จึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครเข้มข้นในการดูแลเส้นทางที่มีจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาวเพื่อป้องกันการหลับใน ท้ายนี้ขอฝากผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ขับรถเร็ว ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ เพื่อความปลอดภัยควรหยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
ยึดรถแล้ว 3,695 คัน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานความห่วงใยในการสูญเสียของประชาชนจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกส่วนงานของ คสช.และรัฐบาลพร้อมน้อมรับพระราชกระแสรับสั่งไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และจิตอาสายังคงร่วมกันอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุอย่างเต็มที่
สำหรับมาตรการ "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 14 เมษายน 2562 มีดังนี้
รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 36,448 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 1,056 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 25,960 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคลพบการกระทำความผิด 28,195 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 2,167 ใบ, ยึดรถยนต์ 345 คัน และส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 16,671 คน
โดยตลอด 4 วันที่ผ่านมา (11-14 เมษายน 2562) เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 3,695 คัน (แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 2,741 คัน และรถยนต์ 954 คัน) ยึดใบอนุญาตขับขี่ 15,616 ใบ และดำเนินคดีผู้กระทำผิด ในส่วนรถจักรยานยนต์ 69,985 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล 43,954 คน
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนที่กำลังทยอยเดินทางกลับหลังจากฉลองสงกรานต์ที่ภูมิลำเนา หรือเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยขอให้มีสติในการขับรถ ไม่ขับรถเร็วและเมาไม่ขับ เพราะความประมาทเพียงชั่วครู่อาจทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินอย่างไม่มีวันหวนกลับ รวมทั้งต้องรู้จักถ้อยทีถ้อยอาศัยและมีน้ำใจแก่เพื่อนร่วมทางด้วย
'บิ๊กตู่' ห่วงความปลอดภัย
สำหรับประชาชนที่ยังอยู่กับครอบครัวจนถึงช่วงสุดสัปดาห์หน้า ก็ขอให้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและมีความสุขอย่างเต็มที่ เพื่อเติมพลังชีวิตและกลับไปทำงานตามปกติ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหารทุกนายที่เสียสละเวลาช่วงวันหยุดเทศกาล มาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งให้กำลังใจในการทำงานสำหรับช่วงเวลาที่เหลือ เพื่อส่งประชาชนให้ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
"นายกฯ เน้นย้ำว่าหลังจากที่ประชาชนได้เฉลิมฉลองปีใหม่ไทยอย่างมีความสุขและสนุกสนานแล้ว จากนี้ไปคนไทยทุกคนจะหลอมรวมใจกันเป็นหนึ่งเพื่อเตรียมเข้าสู่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นโอกาสมหามงคลอีกวาระหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย"
บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหลายแห่งทั่วประเทศ ประชาชนเริ่มเดินทางเข้า กทม.แล้ว เช่นที่อำเภอหาดใหญ่ แห่งที่ 1 ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางในช่วงส่งท้ายของเทศกาลสงกรานต์ ทั้งเส้นทางในพื้นที่ภาคใต้และขาขึ้นกรุงเทพฯ ผู้โดยสารเริ่มหนาแน่นขึ้นทั้งรถบัสโดยสารและรถตู้
ในขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่ง จ.สงขลา ยังคงมีมาตรการเข้มงวดด้านความปลอดภัยในการเดินทาง โดยการตั้งจุดตรวจบริเวณสถานีขนส่งและตรวจวัดแอลกอฮอล์คนขับรถโดยสารก่อนออกเดินทางทุกคัน รวมทั้งตรวจสภาพความพร้อมของรถและอุปกรณ์ช่วยเหลือของรถทุกคัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและลดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 17 เมษายน
ในส่วนของสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ แห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่เผยว่า การเดินทางจะหนาแน่นที่สุดตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนี้และต่อเนื่องไปอีก 2 วัน โดยเฉพาะเส้นทางขากลับเข้ากรุงเทพฯ ผู้โดยสารใช้บริการมากที่สุด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |