ตามแผนการ แยกกันเดิน ร่วมกันตี ของพรรคพันธมิตรการเมืองที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นหัวหอก เป็นลูกพี่ใหญ่ ตามยุทธศาสตร์เดิม พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เน้นเก็บ ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ น้องรอง เน้นจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติเน้นฐานกลุ่มคนเสื้อแดง พรรคประชาชาติเน้นไปทางภาคใต้ กลุ่มพี่น้องมุสลิม อาศัยฐานกลุ่มวาดะห์ ทะลุทะลวงนำร่อง สุดท้ายนำมาประกอบร่าง ว่าด้วยสูตรคณิตศาสตร์ รวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล
แผนการเดิม บุคคลระดับคีย์แมน นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง วาดฝันเอาไว้ ทั้งพรรค 4 พันธมิตรหลัก บวกกับ 2พันธมิตรย่อย พรรคเสรีรวมไทย พรรคอนาคตใหม่ รวมเสียงกันแล้วถึงอย่างไรเกิน 250 แน่นอน
แต่จากหลายปัจจัย หลายเหตุผลก่อนวันเลือกตั้ง ทุกพรรคล้วนสะดุดขาตัวเองมากน้อยต่างกัน พรรคไทยรักษาชาติถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไปก่อนเพื่อน กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง ห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง 10 ปี สมาชิกพรรคในพรรค แตกฉานซ่านเซ็น
พรรคเพื่อชาติ เกิดปัญหาภายในรุมเร้า แกนนำพรรคผู้คุมอำนาจ แบ่งก๊ก แยกเหล่า แก่งแย่งทั้งในแง่การบริหาร ไปจนถึงข่าวลือเรื่องการจัดการบริหารกระสุนดินดำไม่ลงตัว ที่ในวันนี้ยังเป็นปัญหา ยังไม่รู้บทสรุปจะเป็นอย่างไร
พรรคเพื่อไทย ช่วงก่อนเลือกตั้ง แม้ไม่มีปัญหา แต่กลับมามีปัญหาหลังเลือกตั้ง เกิดข่าวแพร่สะพัดในพรรคมากมาย ทั้งการเริ่มลดบทบาทตัวเองของหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เรื่องราวน่าปวดหัว เกี่ยวกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไปจนถึงเรื่องใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง ที่ยังไม่รู้ว่าหวยจะออกที่เพื่อไทยกี่มากน้อยเท่าไหร่
พรรคประชาชาติ เหมือนจะปัญหาน้อยกว่า เพราะมีเป้าหมายเฉพาะในโซน 5 จังหวัดภาคใต้ แต่ต่อมาเกิดปัญหาส่วนตัวจากคนในพรรค ‘นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย’ รองหัวหน้าพรรค โพสต์ข้อความทำนอง กกต.จะแจกใบเหลือง ใบแดง บางพรรค จนต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุ่มเสี่ยงต่อความผิดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นับจากเกิดเรื่องราวต่างกันของพรรคแนวร่วมฝ่ายพันธมิตรประชาธิปไตย เลยมีคำถามในส่วนของพรรคแนวร่วม จากในวันนี้จะขับเคลื่อนทำอย่างไรต่อไป ในยุคเกมการเมือง การต่อสู้แย่งชิงอำนาจ ยังไม่จบ รอบนี้อาจยังทำไม่ได้ เพราะแก้เกม วางสูตรการเมืองผิดพลาด ขอวางหมากแก้ตัวการเมืองในรอบหน้า
ขุนพลพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากพรรคถูกยุบ กรรมการบริหารพรรค ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง 10 ปี แต่ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง ที่ไม่ได้โดนโทษตามกฎหมาย หลายคนกลับมาบ้านเก่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นที่เรียบร้อย บางคนก็กลับมาทำงาน เดิมก่อนที่ออกจากพรรคไป บางคนมุ่งหน้าไปลงสนามเล็ก ทำการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว แต่ยังมีอีกกลุ่มที่แว่วเสียง จะรื้อฟื้นพรรคขึ้นมาอีกครั้ง โดยปรับรูปแบบ เปลี่ยนโฉม หาหัว เซตระบบพรรคใหม่
ไม่เท่านั้น นับแต่พรรคก่อตัว จนถึงวันถูกคำพิพากษาได้เห็นคู่ซี้การเมืองคนใหม่ เสี่ยอ๋อย-จาตุรนต์ ฉายแสง เสี่ยเต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไปไหนไปกัน เอาไหนเอากัน แถมจุดยืนการเมืองยังตรงกัน ว่ากันอีกว่า หลายช่วงหลายจังหวะเวลา ถึงขั้นต่อสายไปหาคนแดนไกล ขอทราบถึง ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นที่กล่าวขานกันชั่วขณะหนึ่ง
ขณะที่พรรคเพื่อชาติมีทั้งในส่วนที่ยังเดินหน้าการเมืองต่อ กับพวกที่ขอวางมือการเมืองแน่นอน เพราะเจอบทเรียนแสนเจ็บปวด โดยเฉพาะเสี่ยสงคราม-สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่เปลืองตัวเสียทั้งเครดิต เสียทั้งกระสุนดินดำ ไม่น้อย แถมยังมาเจอคนกันเองมา หักกันเอง ยิ่งทำเจ้าตัว ส่ายหน้า รับไม่ได้ ส่อแววลาขาดการเมืองถาวร กลับไปทำธุรกิจอย่างเก่า
ในส่วนของ เสี่ย ยย.-ยงยุทธ ติยะไพรัช กองเชียร์คนสำคัญ ไม่มีโทษแบนการเมืองให้ต้องกังวล ในส่วนของสายสัมพันธ์คนแดนไกล ยังเป็นหนึ่งในคนที่ได้รับความไว้วางใจ ขณะที่ ตุ๊ดตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ แม้ในวันนี้จะลาออกจากผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติไปแล้ว กลับไปเป็น ประธาน นปช.ตามเดิม แต่สำหรับงานการเมืองที่ก่อร่าง วางรากฐานมาไกล คงไม่ใช่ที่สุดท้ายจะปักหมุด หากจังหวะช่องทางเปิด ตุ๊ดตู่กลับมาอีกแน่นอน
ด้วยความแหลมคมทางการเมืองเป้าใหญ่ที่ถูกเพ่งเล็งจัดการ หนีไม่พ้นเครือข่ายกลุ่มอำนาจเก่า และด้วยบริบทการเมือง รัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกบีบให้ต้องมีพรรคเล็ก พรรคน้อย ทุกคะแนนเสียง ทุกจำนวน ส.ส.ล้วนมีค่า
ดังนั้น ภายใต้แนวคิดแตกแบงก์พัน ที่ต้องอาศัยคีย์แมน คนการเมืองที่ไว้ใจได้ ให้แยกกันเดิน ร่วมกันตี ยังจำเป็นสำหรับการเมืองวันข้างหน้าอยู่เหมือนเดิม!!!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |