จุดลงตัวของการเมืองแบบไทยๆ


เพิ่มเพื่อน    

      น่าจะเบาๆ คลายๆ ลงไปเยอะแล้ว...สำหรับเรื่อง กัญชา ที่เล่นเอาใครต่อใคร มึนซ์ซ์ซ์ๆ เมาๆ กันไปแทบทั้งบาง หลังจากที่เจ้าที่ของรัฐ อย่างหน่วยงาน ป.ป.ส. บุกเข้าไปกวาดจับ เล่นงาน ปราชญ์ชาวบ้าน จนก่อให้เกิดคำถาม เกิดการลุกฮือของบรรดา นักประชาธิปไตยทางตรง ที่ดาหน้าออกมา เซฟเดชา ชนิดสนั่นลั่นโลกเสมือนจริง หรือโลกโซเชียลมีเดีย จนโลกแห่งความจริง ที่ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตยเพียงไหนก็แล้วแต่ ต้องหันมาปรับตัว ปรับท่าที และปรับสภาพ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

                                                                        -----------------------------------------------

      อีกทั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น เผด็จการ มุ่งที่จะสืบทอดอำนาจ อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ นั้น เอาเข้าจริงๆ แล้ว...ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็น สืบทอด-ไม่สืบทอด อย่างมากท่านก็คงไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า เผด็จการแบบไทยๆ นั่นแหละ คือออกไปทาง ละมุนภัณฑ์ ไม่ใช่ กระด้างภัณฑ์ อะไรที่พอจะถอยๆ พอที่จะยอมๆ กันได้ โดยปกติท่านก็มักเอนหลังพิงเชือก แล้วเด้งเชือกแฉลบออกข้าง ออกมาเต้นฟุตเวิร์กยอกๆ แยกๆ กลางเวทีได้โดยตลอด คือไม่ได้เป็นประเภทไม่คิดจะฟังใคร ไม่ได้สนใจพี่-ป้า-น้า-อา-ลุงๆ-หลานๆ พ่อๆ-แม่ๆ เหมือนอย่าง สหายคนรุ่นใหม่ หรือ สหายอนาคตใหม่ ที่ออกไปทาง ประชาธิปไตยฮาร์ดแวร์ หรือประชาธิปไตยที่มาพร้อมๆกับ เครื่องกิโยตีน ของฝรั่งเศส อะไรทำนองนั้น...

                                                                       ---------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...เมื่อเจอกับ ประชาธิปไตยทางตรง หรือประชาธิปไตยที่ไม่จำเป็นต้องอาศัย ตัวแทน ใดๆ ในสภา ไม่ว่าจะเป็นประเภท ส.ส.เขต หรือ ส.ส.สัดส่วน อาศัยแค่คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หรือโน้ตบุ๊ก ก็แล้วแต่ แล้วจิ้มๆ ทิ่มๆ ให้หนักๆ เข้าไว้ แวบเดียวก็สามารถพัฒนาระบอบประชาธิปไตยทางตรง โดยไม่ต้องอาศัยวิถีทางรัฐสภา หรือวิธีต้องลงไปเดินในท้องถนน ส่งผลให้ไม่ใช่แต่เฉพาะเรื่องกัญชง กัญชา เท่านั้น แต่อีกไม่รู้กี่ต่อกี่เรื่องเท่าที่ผ่านมา สามารถพลิกซ้ายเป็นขวา พลิกหลังเป็นหน้า มาได้โดยตลอด โดยเฉพาะตราบใดที่สังคมไทย ยังคงความเป็น สังคมละมุนภัณฑ์ ตามแบบฉบับไทยๆ ที่พร้อมจะถอย พร้อมจะยอมๆ กันได้ หรือพร้อมที่จะหา จุดลงตัว ระหว่างกันและกันไปตามสภาพ...

                                                                        -----------------------------------------------

      ดังนั้น...สำหรับเรื่องการ ปริ่มน้ำ-ไม่ปริ่มน้ำ ของสูตรคณิตศาสตร์การเมืองนับจากนี้ หรือนับจากหลังการเลือกตั้งเป็นต้นไป เอาเข้าจริงๆ แล้ว...คงไม่ถึงกับต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่ต้องวิตก กังวล อะไรประมาก เพราะยังมีทางออก ทางไป อีกเยอะแยะมากมาย หรือเป็นแค่เรื่อง ทางเทคนิค แต่เพียงเท่านั้น ยังไม่ถึงกับต้องลุกขึ้นมาเสนอ สูตร ประเภทรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเฉพาะกิจ เฉพาะกาล อะไรให้ต้องปวดเศียร เวียนเกล้า โดยใช่เหตุ เพราะตราบใดที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านยังสามารถเด้งเชือก ฉากหลบ ตัดเวที ออกมาเต้นฟุตเวิร์ก ได้อย่างสง่างาม อย่างสดชื่น รื่นเริง แถมยังได้รับการประกัน การันตี จาก ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ในบ้านเมือง ระดับ ป๋าเปรม มาเอง ว่าเก่ง-ไม่เก่งก็แล้วแต่ แต่รับรองว่า ไม่โกง เป็นเด็ดขาด อันนี้...ก็เลยอย่าต้องไปออกเรี่ยว ออกแรง ให้ต้องเมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว ต้องเสียเหงื่อ เสียแรงอก เอาง่ายๆ...

                                                                       ----------------------------------------------------

      แต่ควรจะหันมามองกันใน ภาพรวม หรือมองถึงแนวโน้มการเมืองในอนาคต ที่มันได้ก่อให้เกิด จุดลงตัว ที่น่าสนใจเอามากๆ ระหว่าง...กระแสความต้องการของปวงชน กับการตอบสนองทางการเมือง ด้วยพลังอำนาจใดๆ ก็แล้วแต่ ที่เป็นไปในทางที่จะนำมาซึ่ง ความถูกต้อง-เป็นธรรม โดยผ่านระบอบการเมือง-การปกครอง ที่เรียกๆ กันว่า ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั่นเอง อะไรก็ตาม...ที่เป็นไปในแบบมีเหตุ มีผล เป็นไปตามครรลอง คลองธรรม โดยมีกระแสความต้องการของปวงชน ที่อาศัย ประชาธิปไตยทางตรง เป็นตัวแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจ ได้อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน ไม่ใช่เป็นแค่การ เล่นการเมือง โดยมีผลประโยชน์ของใครคนใด-คนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นที่ตั้ง ไม่ว่ารัฐบาลใหม่ หรือนายกฯ คนใหม่ จะเป็นใครก็เถอะ ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัย จุดลงตัว ที่ว่านี้ เป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนรัฐบาลของตัวเองไปด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                                        ---------------------------------------------------------

      การหันมาช่วยกันฟื้นฟู ประคับประคอง สร้างความแข็งแกร่ง ให้กับระบอบการเมือง-การปกครองที่ว่านี้ ย่อมดีกว่าการไปเสียเวลาคิดสูตร คิดสมการ ไปบวก-ลบ-คูณ-หารคณิตศาสตร์ทางการเมือง ไม่ว่าสูตรไหน ต่อสูตรไหน ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า คือปล่อยให้บรรดาเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เป็นแค่เรื่อง ทางเทคนิค ที่บรรดา นักการเมือง ทั้งหลาย เขาคงต้องไปคิดสูตร ไปบวก-ลบ-คูณ-หารกันเอาเอง ตามบทบาทและหน้าที่ และตามการดิ้นรน กระวนกระวาย ของเขาไปตามสภาพ เพราะไม่ว่าสูตรแต่ละสูตรมันจะออกมาในรูปไหน อย่างไร แต่ถ้าหากมันดันไปขัดแย้ง แปลกแยก จากกระแสความต้องการของปวงชนที่เป็นไปโดยบริสุทธิ์ใจและเป็นไปตามครรลอง คลองธรรม แล้วล่ะก็ ล้วนแต่ต้องตกอยู่ในสภาพ สูตรเตี๋ยว ไปด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                                     ----------------------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่ควรจะมองเอาไว้ให้ชัดๆ มองอย่าง เข้าถึง และ เข้าใจ อันจะช่วยส่งผลให้สามารถคลายความวิตก กังวล จากเรื่องหีดๆ หุ้ยๆ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องขี้หมูรา-ขี้หมาแห้ง อันมักจะเป็นเรื่องของพวก นักการเมือง เขา ลงไปได้มิใช่น้อย อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความสบายอก สบายใจ พอที่จะสดชื่น รื่นเริง เย็นฉ่ำ ดับร้อน ผ่อนกระหาย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามแบบไทยๆ ได้เป็นอย่างดี...

                                                                        ------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Abraham Lincoln (อีกครั้ง)... Let us have faith that right makes might, and in that faith let us do our duty as we understand it.- ขอให้เรามีความเชื่อมั่นว่า ความถูกต้อง (ธรรมะ) คืออำนาจ และด้วยความเชื่อเช่นนี้ ขอให้เราจงปฏิบัติหน้าที่ไปตามที่เราเข้าใจ...


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"