เฮลิคอปเตอร์ทหารนำคณะของรัฐมนตรีมหาดไทยเม็กซิโกออกตรวจพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในรัฐโออาซากาทางใต้ของเม็กซิโกเมื่อวันเสาร์ ตกกระแทกรถตู้ขณะพยายามลงจอด ส่งผลให้มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย

ภาพมุมสูง ที่เฮลิคอปเตอร์ตกใส่รถตู้เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 ภาพ AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก ยูเอช-60 ลำนี้ นำคณะของอัลฟองโซ นาวาร์เรเต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอาเลฮันโดร มูรัต ผู้ว่าการรัฐโออาซากา ออกตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมืองซันติอาโกฮามิลเตเปก รัฐโออาซากา ทั้งคู่ปลอดภัยเมื่อเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ตกกระแทกรถตู้ แต่ผู้คนที่อยู่ด้านล่างสังเวยชีวิต 13 คน
    สำนักงานอัยการรัฐนี้เปิดเผยว่า มีผู้หญิง 5 คน, ผู้ชาย 4 คน และเด็ก 3 คน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และอีก 1 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
    กระทรวงมหาดไทยของเม็กซิโกแถลงว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.2 เมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนราว 50 หลัง รวมถึงโบสถ์และศาลาประชาคมของเมืองซันติอาโกฮามิลเตเปก แต่ไม่มีใครเสียชีวิต
    นาวาร์เรเตเปิดเผยกับเครือข่ายเตเลวีซาทีวีว่า นักบินเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถควบคุมเครื่องได้ขณะกำลังลงจอด เจ้าหน้าที่คณะนี้กำลังเดินทางไปสำรวจความเสียหายใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองปิโนเตปาเดดอนลูอิส 37 กิโลเมตร
    ชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งขอปิดบังชื่อ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านหลายคนมีแผนจะค้างแรมกลางแจ้งตรงจุดที่เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ตก เพราะกลัวว่าหากเกิดอาฟเตอร์ช็อกอาจทำให้บ้านเรือนถล่ม
    ก่อนหน้าแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ถึง 6 เดือน เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งที่คร่าชีวิตผู้คนในเม็กซิโกหลายร้อยคน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 แผ่นดินไหวขนาด 8.2 สร้างความเสียหายในหลายรัฐ โดยเฉพาะรัฐโออาซากาและชีอาปัส มีคนเสียชีวิต 96 คน ต่อมาในวันที่ 19 กันยายน แผ่นดินไหวขนาด 7.1 ทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 369 คน.