ทักษา
ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์และดาวจรสำคัญที่มีผลต่อพรรคอ้างอิงจากครูโหรพลูหลวง-เกิดศุกร์ที่ 5 เมษายน 2489 - ตกลงตั้งพรรคได้ใกล้ค่ำ (ประมาณ 17.00 น.) ณ คฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ ระหว่าง 6มีนาคม 2559-8 กรกฎาคม 2565
พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีธนู ระหว่าง 1ธันวาคม 2560-1 มีนาคม 2563
พระราหูจร (8) เดินอยู่ในราศีมิถุน ระหว่าง 22กุมภาพันธ์ 2562-10 กันยายน 2563
พฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในราศีพิจิก ระหว่าง 25พฤษภาคม-30 ตุลาคม 2562
พระพุธศรีจรเดินอยู่ในราศีเมษระหว่าง 27เมษายน-13 พฤษภาคม 2562-ย้ายเข้าเดินในราศีพฤษภ ระหว่าง 13 พฤษภาคม-30 พฤษภาคม 2562
ผู้เขียนขอคารวะต่อดวงวิญญาณของ ครูโหรพลูหลวง ที่ท่านได้ผูกดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์ไว้ในหนังสือชื่อ โหราศาสตร์พิชัยสงครามดวงเมือง พิมพ์โดยสำนักพิมพ์เกษมบรรณกิจตั้งแต่ปี 2518 ที่ผู้เขียนจะได้ใช้เป็น ดวงครู ศึกษา พื้นฐาน-อนาคตของพรรค ส่วนท่านใดจะใช้วันจดทะเบียนตั้งพรรคเป็นฤกษ์กำเนิดดวงชะตาพรรคก็ไม่ว่ากัน
ด้วยข้อมูลของครูโหรพลูหลวงดังกล่าวเมื่อผูกดวงชะตาแล้วพรรคประชาธิปัตย์ ลัคนาสถิตราศีกันย์ ธาตุดิน เฉลิมรูปดวงชะตาแบบใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สะดวกกว่าสมัยครูผูกดวงชะตามาก โดยผู้เขียนขออ่านพื้นดวงชะตาเดิมเรื่องที่สำคัญดังนี้
1.ลัคนาสถิตราศีกันย์ เป็น ราศีของนางงาม จึงตั้งข้อสังเกตว่าในบรรดาหัวหน้าพรรคหลายคนที่ประสบความสำเร็จได้เป็นถึงนายกรัฐมนตรี แม้จะเป็นผู้ชายก็เข้าข่ายอ้อนแอ้น ดูภาพลักษณ์ภายนอกแล้วสบายตา ฉะนั้นถ้าจะให้ถูกโฉลกต่อไปพรรคก็น่าจะลองพิจารณาหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้หญิงบ้างก็น่าจะเข้าท่า
ประกอบกับพระจันทร์ (๒-ตัวแทนแม่-เพศหญิง)ในดวงชะตาเด่น (อุจจ์-ที่ราศีพฤษภ) ยิ่งเพิ่มน้ำหนักผู้นำ (ที่จะประสบความสำเร็จสูง)-รวมทั้งแม่ยกคนสนับสนุนคนสำคัญ (ราศีพฤษภ-ศุภะ) คล้ายหญิงหรือเป็นผู้หญิงมากหน้าหลายตา
2.ราศีกันย์เรียนรู้อะไรได้เร็ว ละเอียดรอบคอบ แต่มีจุดอ่อนคือมักจะชอบมองเรื่องเล็ก ไม่ค่อยมองภาพรวม ตำราครูโหรเทพย์ สาริกบุตร บอกเข้าข่าย ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดมาเล็น ส่งผลให้คนรำคาญได้
3.ลีลาของชีวิตพรรคดูจาก พระพุธ (๔) ดาวประจำชีพ บ่งบอกว่าเกิดมาเพื่อเป็นผู้แทนฯ หรือ ส.ส.โดยแท้ เพราะโดยตัวพระพุธเองก็คือ ส.ส.อยู่แล้ว แถมพระพุธยังไปสถิตเรือนที่หก-อริอีก ส่งผลให้ต้องอยู่กับปัญหา-แก้ปัญหาทั้งของคนอื่นและตัวเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออาชีพ ส.ส.
แต่ดาวประจำตัวเรือนอรินี้ก็สร้างปัญหาให้กับตัวเอง เช่น มีปีญหาไม่ค่อยเป็นเอกภาพ หรือสร้างความเกลียดชังให้กับตัวเองด้วยนี่เป็นด้านร้าย
พระพุธเป็นตัวแทน คำพูด-เจรจา คนพรรคนี้จึงพูดเก่ง-จนชวนเคลิ้ม ถนัดวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นหรือปมด้อยของสังคม เพราะไปสถิตอยู่ในบ้านของพระราหูคู่ศัตรูเป็นกาลกิณีวันเกิดด้วย เลยยิ่งเก่งเข้าไปใหญ่ จึงใครโดนคนพรรคนี้วิจารณ์เป็นได้แสบๆ ร้อนๆ
4.พฤหัสบดี (๕) ตัวแทนกฎหมายนำหน้าลัคนาหรือทางโหรเรียกเป็นศูนย์พาหะ พรรคนี้จึงเก่งและใช้กฎหมายน้ำหน้าชีวิต เก่งกฎหมาย-ตีตวาม-มีนักกฎหมายหลายคน ฯลฯ แล้วการเน้นกฎหมายก็มากด้วย เพราะขณะเกิดพฤหัสบดีเดินผิดปกติ (พักร) ฯลฯ
ทีนี้ว่ามากันที่ชะตาจรของพรรคในระยะที่ผ่านมาและกำลังจะเป็นไปคือ
1.มฤตยูจร (0) ดวงเบ้อเร่อ ซึ่งเป็นเจ้าของ การปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลง-ภัยอาเพศ-เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิด-การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด-ความเศร้าโศกเสียใจ ฯลฯ เริ่มมาเป็นลางบ่งบอกถึง การปฏิรูป-ปฏิวัติพื้นฐานของพรรค (เล็งพฤหัสบดี ๕ ตัวแทนภพพันธุ) และปฏิวัติ วิถีชีวิต-ความเชื่อ (ทับพระศุกร์ ๖ ตัวแทนภพศุภะ) ของพรรคมาตั้งแต่กลางกรกฎาคม 2558 และเริ่มเป็นจริงเป็นจังมาตั้งแต่มีนาคม 2559 เพื่อรอวันระเบิด
ความจริงที่เกิดขึ้นตามอาการของมฤตยูคือ ที่ผ่านมาพรรคสะสมพลังการเปลี่ยนแปลงอย่างเชี่ยวกราก ที่เห็นเร็วๆ นี้คือการท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ต่อคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ก็น่าเห็นใจที่คนในพรรคเองคงจะต่างคนต่างสาละวนรักษาสถานภาพส่วนตัว เลยไม่ตระหนักว่าโลกรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกินแล้ว แม้คุณอภิสิทธิ์จะชนะได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อไปตามเดิมแต่
2.หลังพระราหูจร (8) เจ้าของการเปลี่ยนแปลง ยกเข้าราศีมิถุนซึ่งเป็นขอบเขตของงาน-เจ้านาย-ผู้นำองค์กรเพียงไม่กี่วัน (เริ่ม 22 กุมภาพันธ์ 2562) ซ้ำมฤตยูจรเข้ามาอีก ในที่สุดผลก็ระเบิดโครมออกมาจากการเลือกตั้งอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 ในระดับล็อกถล่มทั่วกรุงเทพฯ และทุกภาค จนคุณอภิสิทธิ์แสดงความรับผิดชอบประกาศลาออกจากตำแหน่ง
3.ผู้เขียนพอก็ยังเสนอเหมือนเดิมว่าการรับมือมฤตยูจรที่จะมีผลต่อการปฏิรูปพื้นฐาน-แนวทางความเชื่อ-วิถีของพรรคคือกล้าเปลี่ยนแปลงไปทำสิ่งใหม่ๆ-ทันหรือล้ำสมัย ไม่เช่นนั้นจะถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงเหมือนวันที่ 24 มีนาคม 2562 หรือหากจะฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด
ตามดวงชะตาเน้นการเปลี่ยนแปลงไปที่คนเก่า-คนแก่ที่เคยเป็นฐานมั่นคงในพรรค (พฤหัสบดี ๕ ตัวแทนภพพันธุถูกมฤตยูเล็ง) คือเป้าหมายใหญ่ที่มฤตยูเร่งให้เปลี่ยน ถ้าคนเหล่านี้ยอมเพราะแต่ละคนประสบการณ์เพียบน่าจะช่วยพรรคต่อยอดไปได้ดีในระดับที่ พอถึงกรกฎาคม 2565 สมาชิกพรรคยืนอยู่หน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผมจะถามตัวเองว่าพรรคมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
4.แม้จะเจอมฤตยูถล่มแค่ไหน ชะตาจรของพรรคยังมีด้านดีคือ
4.1 แม้กรรมเก่าจะแรงแค่ไหน แต่ ระหว่าง 22กุมภาพันธ์ 2562-1 มีนาคม 2561 พรรคอยู่ในเกณฑ์ ได้โชคใหญ่ หรือ เทวดาให้โชค ข้อใหญ่ที่สุดในบรรดาที่มีอยู่หกข้อ นี่เป็นตัวตั้ง
4.2 แคบเข้ามาระหว่าง 27 เมษายน-13พฤษภาคม 2562 พรรคที่เหมือนป่วยใกล้ตายกลับฟื้นกระดี๊กระด๊าลุกขึ้นมามีเรี่ยวมีแรง (พระพุธศรีจรดาวประจำชีพเดินเข้าภพมรณะ) แถมหากเป็นชะตาคนจะได้มรดกหรือของเก่าๆ
4.3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นไปที่ระหว่างกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มจัดตั้งรัฐบาล 14 เมษายน-15พฤษภาคม 2562 ซ้อนเข้ามาที่พรรคได้เกณฑ์ครบสูตรโชคหากเป็นชะตาคนจะได้ตำแหน่งใหญ่ในชีวิต ก็ต้องลุ้นกันว่าพรรคจะได้อะไร โดยอาการคืออาจเกิดเรื่องตกใจก่อนแล้วก็ลาภล้นเหลือหรือได้มิตร (พุธจรเล็งพฤหัสบดีดวงเดิม..ตกใจถนัด บัดก็ลุลาภล้นเหลือ)
5.ด้านร้าย พรรคจะมีทุกข์จากกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มคนที่คิดว่าเป็นหัวก้าวหน้า ทันสมัย (พระเสาร์จร 7 ตัวแทนวัยรุ่นของพรรคเดินอยู่ในราศีธนู-เป็นสี่จะมีทุกข์) พวกเขาอาจจะคล้ายคนอกหัก-ทบทวนท่าทีและลาไปหาบ้านหรือสร้างอาณาจักรใหม่ -เกณฑ์นี้ยาวไปถึง 1 มีนาคม 2563
โดยแคบเข้า มาระหว่าง 30 พฤษภาคม-3สิงหาคม 2562 จะเกิดปราฏการณ์ตรึง-ประลองกำลังกันในพรรคหลายยก เปรียบนิทานได้กับช้างสารสองตัวโกรธชนกันจนตายหรือเสียหายทั้งคู่
หลังจากนั้นสถานการณ์จะค่อยๆ สงบลง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |