คลังรับบาทไทยตั้งแต่ต้นปีแข็งค่าไม่หยุด พร้อมหารือ ธปท. คลอดมาตรการดูแลหากจำเป็น ฟุ้งปีนี้เศรษฐกิจไทยแกร่ง โตเกินเป้าหมายที่ 4.2% แน่นอน
18 ก.พ. 61-นายศรพล ตุลยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าเงินบาท ตั้งแต่ต้นปีนี้แข็งค่าขึ้นแล้ว 3.53% และเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง 1.59% มีประเทศเดียวที่ค่าเงินแข็งค่ากว่าไทยคือ ญี่ปุ่น ส่วนประเทศคู่แข่ง เช่น มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ค่าเงินอ่อนกว่าไทยมาก สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการไทยมีความแข็งแกร่งแม้จะเจอกับสถานการณ์ค่าเงินที่กดดัน แต่การส่งออกก็ยังขยายตัวได้เป็นอย่างดี โดยยอมรับว่าภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเอเอ็มอี ซึ่งกระทรวงการคลังได้ใช้เครื่องมือทั้งหมดในการดูแลเรื่องค่าเงินไปอย่างเต็มที่แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังได้เร่งคืนหนี้สกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งแม้จะมีสัดส่วนไม่มาก แต่ก็มีบางส่วนที่เร่งส่งคืนได้ จำนวน 1 พันล้านดอลล่าร์ เพื่อลดแรงกดดันจากค่าเงิน ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้เร่งให้รัฐวิสาหกิจที่มีแผนลงทุนเร่งนำเข้าชิ้นส่วน เครื่องจักร อุปกรณ์จากต่างประเทศ โดยปีนี้คาดว่าจะมีการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์จากต่างประเทศ ประมาณ 3.3 พันล้านดอลล่าร์
สำหรับเศรษฐกิจไทยขณะนี้โตได้เต็มศักยภาพแล้ว คาดในปี 2561 จะเติบโตได้ดีกว่าปี 2560 จากเดิมคาดจะขยายตัวได้ 4.2% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ทำได้อย่างแน่นอน และหากรวมปัจจัยเรื่องการลงทุนในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากแผนของอีอีซี ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้สูงกว่า 4.2%
“กระทรวงการคลังได้ติดตามปัจจัยเศรษฐกิจจากต่างประเทศ เพื่อไม่ให้ไม่มีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย เช่นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยกระทรวงการคลังติดตามมาตลอดเพื่อไม่ให้กระทบกับภาคเศรษฐกิจจริง” นายศรพล กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |