“พล.อ.เปรม” เปิดบ้านสี่เสาฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์นำคณะเข้ารดน้ำขอพร “ประวิตร” ยังถอดสายน้ำเกลือมาร่วมด้วย นายกฯ ย้ำธำรง 3 สถาบันหลัก และทำตามที่สั่งสอนกันมา คือทำเพื่อคนอื่น นึกถึงตัวเองเป็นอันดับสอง “ป๋าเปรม” ให้พรรัฐบาลนี้ไม่โกง ยืดอกพูดได้เลย พร้อมบอกบิ๊กแดงไม่ต้องสนเสียงวิจารณ์ ทำงานต่อไป ระบุ “วิษณุ” ยิ่งกว่าอับดุลตอบได้ทุกเรื่อง  
     เมื่อวันพุธที่ 10 เม.ย. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านพักรับรองให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรีและผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้ารดน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2562 เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตและการทำงานต่อไป ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ได้ลาป่วยท้องเสียในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ก็มาร่วมงานด้วย
    ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสอันเป็นมงคลอีกครั้งหนึ่ง ที่พวกเรามาร่วมกันในวันสำคัญคือวันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทยที่ใกล้มาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทุกครั้งที่ได้มาที่นี่พวกเรารู้สึกอบอุ่นใจ มีความสุข มีความยินดีที่ได้พบประธานองคมนตรีที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง และสามารถพูดคุยให้คำปรึกษากับพวกเราได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งสำคัญที่เรามีความผูกพันระหว่างกันอย่างยาวนาน ด้วยการศึกษาในโรงเรียนทหารมาด้วยกัน โดยได้รับการสั่งสอนอบรมในเรื่องของระเบียบวินัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความศรัทธาต่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงความจงรักภักดี ได้ปลูกฝังในตัวพวกเราจนถึงทุกวันนี้ไม่มีวันเสื่อมคลายไป
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ท่านประธานองคมนตรีได้สั่งสอนเพิ่มเติมกำหนดรูปแบบในการดำเนินการดำรงชีวิตในระหว่างการรับราชการทหารจนถึงปัจจุบัน แม้เป็นนายกฯ แล้วก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้หลายคนไม่เข้าใจ ความผูกพันเหล่านี้ ความที่เราเป็นทหารหรือข้าราชการ เราได้รับการสอนสั่งมาว่าต้องทำเพื่อคนอื่นเสมอมา ให้นึกถึงตัวเองเป็นอันดับ 2 เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือเราต้องดำรงรักษาสิ่งเหล่านี้ได้ คือเราเกิดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน และทำงานเพื่อคนอื่นตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ เราควรจะต้องทำอะไรให้เกิดประโยชน์ให้แผ่นดินผืนนี้ที่เราเจริญเติบโตขึ้นมา 
     “สิ่งเหล่านี้ท่านประธานองคมนตรีได้สั่งสอนพวกเราเสมอมา และเน้นย้ำถึงความสำคัญสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้อยู่กับพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นเราก็ยังยึดมั่นในแบบเรียนทหารวัฒนธรรม การบริหารงานของเรา ปรับให้สอดคล้องกับการทำงานในแต่ละมิติ ซึ่งวันนี้ผมพยายามปรับทุกๆ อย่างให้สอดคล้อง โดยนำสิ่งที่เราทำในอดีตมาประยุกต์มาทำให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนของเรา”นายกฯ กล่าว
ยืดอกรัฐบาลไม่โกง
     นายกฯ กล่าวอีกว่า ในโอกาสอันเป็นมงคลครั้งนี้ ในนามของทุกคนที่มาและไม่ได้มาร่วมในวันนี้ขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย เดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขอให้โปรดดลบันดาลประทานพรประธานองคมนตรีจงมีความสุข สุขภาพแข็งแรง มีกำลังกายกำลังใจเข้มแข็งเช่นเดิมตลอดไปและขอกราบขอพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์วันปีใหม่ไทย
     ต่อมา พล.อ.เปรมกล่าวให้พรว่า ขอขอบคุณนายกฯ เพื่อนรักของตนเอง พวกเรามีความยินดีที่ได้เห็นนายกฯ กองทัพกับข้าราชการหน่วยต่างๆ ช่วยดูแลชาติบ้านเมืองจนกระทั่งมาจนถึงทุกวันนี้ พูดได้เต็มปากว่า รัฐบาลของนายกฯ ไม่โกง เพราะเป็นคนที่เห็นแก่ส่วนรวมจริงๆ คนที่จะซื่อสัตย์สุจริต ต้องเป็นคนที่มีความคิดกว้างไกล ทำเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง หรือปกป้องพี่น้องที่อยู่ใกล้ชิด เพราะฉะนั้นที่พูดเสมอว่ารัฐบาลนี้เก่ง-ไม่เก่งก็ดูเอาเองก็แล้วกัน บอกได้เลยว่ารัฐบาลนี้ไม่โกง ยืดอกพูดได้เลยว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่โกง แต่ถ้าพูดผิดนายกฯ ก็ต้องไปจัดการ
     พล.อ.เปรมกล่าวต่อว่า ขอขอบคุณที่ยังระลึกถึงกันโดยตลอด เคยบอกกับพวกเราว่าการรักษาประเพณีวัฒนธรรมของชาติบ้านเมืองของเรา คือ การรักษาชาติ ขอฝากนายกฯ ไปอีกครั้งว่า การรักษาวัฒนธรรมประเพณีคือการรักษาชาติ พวกเราก็อายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะให้พรหรือร่วมกันอธิษฐานขอให้นายกฯ และเพื่อนๆ ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จงมีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพใจที่มุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อคนอื่นให้สำเร็จผล เป็นที่ชมเชยหรืออย่างน้อยถูกตำหนิให้น้อย ขอให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแก่นายกฯ และรัฐบาลนี้ คนไทยที่นายกฯ ดูแลอยู่ 
     “ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองนายกฯ และพวกเราทุกคน ขอให้พระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเกราะกำบังให้เราได้ทำแต่ความดีเพื่อชาติบ้านเมืองของเรา ขอให้ทุกคนมีแต่ความดีในตัว และนำความดีในตัวของเรามาสร้างเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 70 ล้านคน และดูแลชาติบ้านเมืองด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ชาติบ้านเมืองของเราก้าวไปข้างหน้าโดยฝีมือของพวกเรา ช่วยกันคนละไม้ละมือ ขอขอบคุณนายกฯ อีกครั้ง ผมจะจำความเป็นเพื่อนไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ขอบคุณมาก” พล.อ.เปรมกล่าว
     ทั้งนี้ พล.อ.เปรมยังได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรว่า ได้ข่าวว่าวันนี้ป้อมจะไม่มา เห็นว่าไม่สบาย มือเป็นอะไร โดย พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยกมือที่พันผ้ากอซสีขาวให้ดู
     ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ถึงอาการ พล.อ.ประวิตร โดย พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า พล.อ.ประวิตรไม่สบาย ให้น้ำเกลือมา ไม่เคยเห็นหรืออย่างไร 
     หลังจากนั้น พล.อ.เปรมได้เดินทักทาย ครม.และ ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งในระหว่างทางนายกฯ ได้กล่าวถึงอาการเจ็บตาว่ายังปวดอยู่ 
ป๋าให้กำลังใจบิ๊กแดง
    ในขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.เปรมได้เดินเข้ามาพูดคุยว่า "คนนี้ชื่อเสียงดี"  และในระหว่าง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก รดน้ำขอพร พล.อ.เปรมได้พูดคุยกับ พล.อ.อภิรัชต์ว่า "เรื่องเสียงวิจารณ์ ไม่ต้องไปสนใจ ให้ทำงานไป" นอกจากนี้ พล.อ.เปรมได้ทักทายนายวิษณุว่า “เป็นคนที่สามารถตอบได้ทุกเรื่อง ถามอะไรตอบได้เลยใช่หรือไม่” 
สำหรับบรรยากาศรดน้ำเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดย พล.อ.ประวิตรอาการดีขึ้นจากการท้องเสีย มีสีหน้าแจ่ม หัวเราะอย่างอารมณ์ดี แต่ไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามถึงอาการเจ็บป่วย
    ต่อมาคณะนายทหารม้า นำโดย พล.อ.สาธร สุวรรณาภา อดีตฝ่ายนายทหารฝ่ายเสนาธิการ พล.อ.เปรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ เข้ารับพร โดย พล.อ.เปรมกล่าวว่า ขอให้ทุกคนอายุยืนมากๆ และในช่วงชีวิตของเราเหล่าทหารม้า ขอให้มุ่งมั่นในการแสดงความจงรักภักดี ปกป้องชาติบ้านเมือง ดำรงการรักษาวัฒนธรรม และชาติ รวมถึงการรักษาเหล่าทหารม้าของเราจากรุ่นสู่รุ่น รักษาคุณสมบัติความเป็นทหารม้า ต่อยอดยาวไกล ถึงรุ่นน้องลูกหลาน ส่งต่อกันของหมู่ทหารม้า
ทั้งนี้ พล.อ.เปรมยังเปิดให้สื่อมวลชนขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ โดยสื่อได้อวยพรให้ป๋าเปรมอายุยืน 120 ปี ซึ่ง พล.อ.เปรมบอกว่า เราต้องอายุยืนสิ ในเมื่อเราอวยพรให้คนอื่นอายุยืน เราก็ต้องอายุยืนด้วย  
    ทั้งนี้ เมื่อสอบถามว่าต้องอยู่ให้บ้านเมืองสงบก่อน พล.อ.เปรมสวนว่า ขณะนี้ยังไม่สงบหรืออย่างไร ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจด้านการเมืองเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง บางทีก็ฟังบ้าง-ไม่ฟังบ้าง ก็ขอให้พวกเราช่วยกันรักษาชาติบ้านเมือง สื่อมวลชนสำคัญที่สุด ตนเองก็ยังรู้สึกเป็นห่วงชาติบ้านเมือง 
    เมื่อถามว่า ป๋าเปรมเคยบอกว่าจะอยู่ให้อายุยืนถึง 120 ปี พล.อ.เปรมกล่าวติดตลกว่า ถ้าอายุ 120 ปีก็คงต้องคลานแล้ว แต่อย่างไรก็จะอยู่เคียงข้างประเทศชาติบ้านเมือง
    หลังจากนั้น พล.อ.เปรมใช้กระบอกฉีดน้ำผสมน้ำอบไทยฉีดให้สื่อมวลชน ก่อนถามว่าเย็นไหม และเดิน กลับเข้าไปภายในบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี
นำประวัติศาสตร์มาประยุกต์
    วันเดียวกัน ในเวลา 13.30 น. ที่บ้านพักคนชรา บางแค พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะได้เดินทางไปยังศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ เพื่อพบปะเยี่ยมผู้สูงอายุ และได้รดน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งโรงเรียนผู้สูงอายุได้จัดการแสดงชุดรำวงดาวพระศุกร์ โดยนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุบ้านบางแครุ่นที่ 3 และการแสดงประกอบเพลงคนดีไม่มีวันตายให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
    จากนั้นนายกฯ และคณะได้ร่วมรำวงเพลงระบำสาวกันตรึมอย่างครึ้นเครง ก่อนรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ จำนวน 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้มีคุณยายเนียร พงศ์พิชัย อายุ 102 ปี ที่มีอายุมากที่สุดในศูนย์ และได้อาศัยอยู่บ้านพักบางแค 5 ปี 10 เดือน โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมงคลที่ได้มาพบผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งคนไทยนับถือเรื่องผู้ที่มีวัยสูงกว่า เคารพผู้หลักผู้ใหญ่สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม เช่น งานสงกรานต์ วันปีใหม่ ซึ่งมีความเป็นมา และพัฒนาตามลำดับ นี่คือประเทศไทยของเราที่ต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจะมุ่งเน้นติติงกันทุกเรื่องก็ทำไม่ได้ วันนี้รัฐบาลพยายามดูแลผู้สูงอายุให้มากยิ่งขึ้น เพราะสังคมสูงวัยเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกมีมากขึ้น
    นายกฯ กล่าวว่า หากเราไม่รู้ว่าประเทศไทยของเราเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง เราก็จะไม่เกิดแรงบันดาลใจ ดังนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้ จะได้ไม่เป็นคนโง่ อะไรที่ดีให้สืบสานต่อ ต้องนำประวัติศาสตร์มาประยุกต์ในปัจจุบัน สิ่งไหนดีก็ทำต่อไป สิ่งไหนไม่ดีอย่าทำ ประวัติศาสตร์ชาติประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสุข เป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม และมีทรัพยากรธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งวันนี้เราต้องรักษาสิ่งเหล่านั้นให้ได้
    “การเป็นประชาธิปไตยก็เป็นเรื่องที่จำเป็น แต่จะทำอย่างไรให้เป็นประชาธิปไตยในแบบที่บ้านเมืองสงบ นั่นคือการปฏิรูป ซึ่งผมทำคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกัน วันนี้มาร่วมอวยพรและขอพรจากพวกท่าน เมื่อเช้าได้ไปขอพรจากท่าน พล.อ.เปรม ซึ่งอายุ 99 เกือบ 100 แล้วยังเดินเหินได้ พูดคุยเก่ง ให้โอวาทได้เหมือนเดิม นั่นแหละทุกคนต้องรักษาสุขภาพให้ได้แบบนั้น”นายกฯ กล่าว 
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ร้องเพลงตามคำขอของผู้สูงอายุด้วยเพลงจงรัก และเพลงคนดีไม่มีวันตาย พร้อมกับกล่าวว่า เราต้องทำวันนี้เพื่อคนรุ่นใหม่ ในวันข้างหน้าเราเป็นผู้กำหนดประวัติศาสตร์ของตัวเองว่าจะโตไปทิศทางใด เราต้องพ้นจากประเทศกับดักปานกลางมีรายได้มากขึ้น  อะไรก็ตามที่จะทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข ขอให้เตือนลูกหลานให้ได้ เราต้องอยู่แบบสังคมสงบสุข เราจะทะเลาะกันอีกไม่ได้แล้ว ยิ่งทะเลาะกันเท่าไหร่ จะทำให้ประเทศเสียหาย อะไรเป็นเรื่องกฎหมายก็แก้กันไป โดยคนที่มีหน้าที่ หากไม่พอใจก็ร้องอุทธรณ์ ซึ่งเขามีกติกาทั้งหมด 
“วันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ ซึ่งผมก็ไม่อาจจะไปแก้ตัวให้กับใครได้ เพราะแต่ละคนหน้าที่ไม่เหมือนกัน ถ้ายุ่งทุกเรื่องก็จะกลายเป็นรัฐบาลที่ถูกเขาว่าอีก ถ้ามีอำนาจจริงๆ จะชี้ให้คนนั่งตรงหน้าสาวขึ้นกว่าเดิม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.