10 เม.ย. 62 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 แถลงถึงประเด็นการทุจริตการเลือกตั้ง เขต 2 จังหวัดพัทลุง ว่า ยืนยันว่ามีการเตรียมการทำเป็นกระบวนการที่ใหญ่มาก ซึ่งตนได้พูดบอกกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไว้ก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)เลือกตั้งส.ส.ทั่วไป ที่ประกาศเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 ว่ามีการเตรียมทุจริตโดยยื่นเรื่องกับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพัทลุง และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
หลังจากนั้นมีการถ่ายบัตรประชาชนไว้เบื้องต้น 4 หมื่นและเพิ่มมาเป็น 6 หมื่นใบ โดยกรณีนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคดังกล่าวมีส่วนรู้เห็นเป็นใจการทุจริตด้วย มีโทษถึงการยุบตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่มีการต่อรองของพรรคการเมืองนั้นกับผู้มีอำนาจว่า อย่าให้โทษถึงยุบพรรค ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็พอ เพราะหากลงโทษตามกฎหมายถึงขั้นยุบจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลเพราะพรรคที่กระทำนี้เป็นพรรคหนึ่งที่จะร่วมรัฐบาล ขอย้ำว่ากรณีนี้มีหลักฐานที่สามารถโยงถึงกรรมการบริหารพรรคและมีพยานบุคคลรวมถึงคลิปข้อความสั่งทางไลน์ด้วย
“ผมทำเรื่องการยุบพรรคการเมืองมาแล้วสองครั้ง แต่ละครั้งพยานหลักฐานทั้งสองครั้งยังไม่ชัดเจนเท่านี้ ศาลท่านยังสั่งยุบพรรค แต่ครั้งนี้ทั้งพยานและหลักฐานหนาแน่นกว่าสองครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะพยานเอกสารที่ไม่สามารถหักล้างได้ ทั้งนี้ ผมเป็นคนร้องเรียนเป็นคนแรกของประเทศไทยในเรื่องนี้ ซึ่งคดีนี้พยานฝ่ายผมหลายคนต้องหลบหนีออกไปนอกพื้นที่จ.พัทลุง ไปอยู่ที่อื่น เพราะมีการส่งคนมาข่มขู่ในลักษณะต่างๆ รวมไปถึงญาติพี่น้องของเขา โดยวันนี้ผมจะไปยื่นเรื่องร้องต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้เร่งรัดการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ที่สำคัญต้องขอให้มีการคุ้มครองพยานบุคล เพราะพยานทุกคนที่ให้ถ้อยคำเป็นพลเมืองดี กกต.อย่าให้ล้มหายตายจาก หรือบาดเจ็บ" นายนิพิฏฐ์ ระบุ
นอกจากนี้จะร้องต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เข้มงวดเรื่องคุ้มครองพยาน หากพยานของผมเป็นอะไรไปก็มีเหตุผลเดียวคือ มาจากการเป็นพยานในคดีทุจริตเลือกตั้งที่พัทลุง เขต 2 ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงต้องคุ้มครองพยาน เพราะหากไม่ทำ ต่อไปคงไม่มีพลเมืองดีที่จะกล้ามาเป็นพยานในคดีการทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง ยิ่งกรณีนี้เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล จึงต้องเรียกร้องต่อหัวหน้า คสช. โดยตรงขอให้ดูแลคุ้มครองพยาน หากพยานทุกคนของตนเป็นอะไรไป คงต้องโทษหัวหน้าคสช. โดยจะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.กลางเพิ่มเร่งรัดการสืบสวน และคุ้มครองพยานในเวลา 13.00 น. วันที่ 10 เมษายนนี้
เมื่อถามว่า ทราบได้อย่างไรว่ามีการเจรจาต่อรองเพื่อไม่ให้ยุบพรรคดังกล่าว นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า รู้มาในทางลับว่า มีการเจรจาต่อรองกัน โดยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับผู้มีอำนาจปัจจุบันให้ตัดตอนโทษการยุบพรรคออกไป เพราะพรรคการเมืองที่ว่านี้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากมีการสั่งยุบพรรคจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล และอยากสื่อไปถึงนักกฎหมาย นักวิชาการ ขอให้ดูเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษา ว่าจะถึงยุบพรรคหรือไม่ เพราะพยานหลักฐานแน่นหนา
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า กกต.ชุ ดนี้สั่งได้ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้บอกว่าสั่งได้ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับใหญ่กับผู้มีอำนาจเจรจาต่อรองกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |