พอนั่งลงพูดคุยกับท่านหลู่ เจี้ยน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ก็ย่อมต้องถามท่านเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ไทย-จีนก่อน จากนั้นหัวข้อสำคัญอีกประเด็นหนึ่งคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน, เรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และกรณี หัวเว่ย
ผมคัดอีกบางตอนของบทสนทนาวันนั้นมาให้ได้อ่านกันครับ
สุทธิชัย: สถานการณ์ล่าสุดเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไปถึงไหนแล้วครับ
ท่านทูต: เรากำลังอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกจึงมีความเกี่ยวพันกับเราทุกคนรวมทั้งประเทศไทยด้วย
ประการที่หนึ่ง ในเดือนเมษายนนี้การประชุมสุดยอด "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งที่สองจะจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นประธานในการประชุม ซึ่งท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยเข้าร่วมการประชุมด้วย
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 2 ซึ่งจะสรุปผลงานที่ได้รับจากการประชุมครั้งที่ 1 เพื่อทำพิมพ์เขียวและวางแผนสำหรับความร่วมมือ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้นในอนาคต
อีกประเด็นที่สำคัญคือ เรื่องปัญหาการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งทั่วโลกกำลังจับตามองกันอยู่ โดยในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผู้แทนระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ ได้จัดประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งถือว่าการเจรจามีความคืบหน้าในเชิงบวก
ความจริงตั้งแต่เริ่มต้น รัฐบาลจีนไม่เคยต้องการให้มีสงครามหรือความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ ทั้งยังเสนอแนวคิดที่ว่าร่วมมือกันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย ในขณะที่ความขัดแย้งจะสร้างปัญหาและผลเสียต่อทั้งสองฝ่าย
แต่ก็มีบางคนบอกว่าควรตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ โดยสิ้นเชิง ซึ่ง ฯพณฯ หวัง อี้ ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า การตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนนั้นถือได้ว่าเป็นการตัดโอกาสและตัดอนาคต และเป็นการตัดขาดจากโลกด้วย เพราะว่าเศรษฐกิจจีนนั้นผูกพันกับเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด
ดังนั้นจีนจึงสนับสนุนแนวคิดความร่วมมือที่เป็นพหุภาคี ร่วมมือและชนะด้วยกัน โดยแนวคิดความร่วมมือที่เปิดกว้างนี้จีนได้ยึดมั่นมาโดยตลอดและจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ในเมื่อประเทศอื่นมีแนวคิดที่แตกต่าง จีนจะยึดมั่นในหลักการเปิดประเทศต่อไป โดยในรายงานการทำงานรัฐบาลของ ฯพณฯ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้ระบุมาตรการที่จะใช้ในการดำเนินงานขั้นต่อไปไว้แล้ว
ยกตัวอย่าง การลดภาษีศุลกากรและการอำนวยความสะดวกในการทำพิธีศุลกากร ที่จะทำให้การค้าระหว่างประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ประเทศจีนจะจัดงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติครั้งที่ 2 ซึ่งเราได้เชิญประเทศไทยเข้าร่วมด้วย เพื่อให้สินค้าคุณภาพดีๆ ของไทยสามารถเข้าตลาดจีนมากยิ่งขึ้น
สุทธิชัย: การเจรจาน่าจะบรรลุข้อตกลงไหมครับ
ท่านทูต: การเจรจานั้นขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย ถ้าดูจากปัจจุบันกำลังมุ่งสู่ทิศทางเชิงบวก แต่อย่างไรก็ต้องดูทั้งสองฝ่าย รัฐบาลจีนมีจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องการเจรจากับสหรัฐฯ อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกว่า เรายินดีที่จะแก้ปัญหาข้อกังวลซึ่งกันและกันด้วยวิธีการเจรจา ซึ่งเรามีความยืดหยุ่นอย่างเต็มที่ แต่ยังคงต้องยืนหยัดในแนวคิดพื้นฐานและปฏิบัติตามกฎระเบียบร่วมกันด้วย หากย้อนไปดูกระบวนการเจรจา จะเห็นได้ว่ารัฐบาลจีนมีความจริงใจและตั้งใจในการแก้ปัญหามาโดยตลอด.
(พรุ่งนี้: การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน)
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |