9 เม.ย.62-  นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ Peace News ถึงเส้นทางเดินการเมืองไทยหลังเลือกตั้งว่า การเมืองไทยยังไม่มีทางออก เดินเข้าสู่ทางตัน เพราะการเลือกตั้งภายใต้กติการะบบบัตรใบเดียวของรัฐธรรมนูญปี 2560 นั้น จะทำให้พรรคการเมืองเป็นเบี้ยหัวแตก ไม่มีพรรคใดได้เสียงเกิน 175 เสียง และเกิดวิกฤตรออยู่ข้างหน้า

“ท้ายที่สุดพรรคที่ได้ ส.ส.เขตมากที่สุดจบลงที่ 137 เสียง ถ้าเดินไปข้างหน้าตอนนี้ เราจะเป็นรัฐบาลผสมเหมือนในอดีต ซึ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวายนำพาสู่ความล้มเหลวเหมือนในอดีต”

นายจตุพร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ อย่าว่าแต่ในประเทศไทยเลย แม้แต่ในโลกก็เป็นครั้งแรกที่เลือกตั้งไปแล้ว ไม่ชัดเจนว่าจะนับคะแนนอย่างไรในระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนในระบบเขตก็มีข้อสงสัย ข้อกังวลมากมาย แม้ว่ายังไม่สะเด็ดน้ำก็ตาม

ในกระดานการเมืองเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชนะหรือผู้แพ้ ดัชนีทางการเมืองคะแนนปริ่มน้ำด้วยกันทั้งคู่ ด้วยตัวเลขสเกลนี้ มันเดินต่อไปไม่ได้ แม้ฝั่งหนึ่งจะมีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 250 เสียงยกมือให้เข้าสู่สภา แต่เมื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ก็ถือว่าตันแล้ว เดินต่อไปไม่ได้

นายจตุพร ย้ำว่า หากจะไปไล่ซื้อ ส.ส.พรรคอื่น หรือที่เรียกว่า “งูเห่า” ก็จะเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งแบกความดีไว้บนบ่า งูเห่าก็พันคอไปไหนไม่ได้

“ผมขอประเมินสนามการเลือกตั้งนี้ว่า การจัดการเลือกตั้งที่ กกต.ถูกประเมินว่า ไม่สุจริต เที่ยงธรรม ทำให้ กกต.ตกเป็นจำเลยสังคม ถ้าเอามาตรวัดเดียวกับการเลือกตั้งปี 2549 และ 2557 การเลือกตั้งปี 2562 มีเหตุผลที่จะทำให้เกิดโมฆะมากกว่าเป็นร้อยเท่า”

รวมทั้ง ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งหนนี้ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน ดังนั้น ยิ่งเดินไปข้างหน้า ตัวเลขก็ยิ่งจะเป็นทางตัน ความเชื่อมั่นต่อ กกต.ก็ไม่เกิด ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดกันไว้อยู่แล้วถึงอิทธิฤทธิ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่สร้างความหายนะให้บ้านเมือง แล้วก็เป็นจริงตามนั้น.