9 เม.ย.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่คลิปและภาพนิ่งเหตุการณ์คนร้ายขโมยกล่องใส่เงินบริจาคที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโต๊ะจำหน่ายตั๋วรถโดยสารของ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ภายใน สถานีขนส่งขอนแก่นแห่งที่ 3 หรือ บขส.3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยพบกับนายขวัญชัย เพ็ชรศรี อายุ 35 ปี หัวหน้าฝ่ายขายบริษัทนครชัยแอร์ จำกัด สาขาขอนแก่น ซึ่งได้พาดูจุดที่คนร้ายก่อเหตุ ซึ่งเป็นจุดวางตู้รับบริจาคของหน่วยงานสาธารณะกุศลต่างๆ บริเวณด้านหน้าจุดจำหน่ายตั๋วรถโดยสาร ซึ่งพบว่าได้หายไป 1 กล่อง

นายขวัญชัย กล่าวว่า ที่บริเวณด้านหน้าหน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วนั้น จะมีตู้รับบริจาคขนาดเล็กตั้งวางอยู่คู่กันจำนวน 2 ตู้ แต่ละตู้จะถูกยกออกมาวางในช่วงเช้าของเวลาทำการ และจะเก็บเข้าไว้ในสำนักงานของช่วงเย็นในทุกๆวัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิฯ จะมาขอทำการเก็บเงินที่ตู้เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ในช่วงที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา (8 เม.ย.) ขณะที่จะจัดเก็บตู้บริจาคเข้าไปในสำนักงาน ได้เดินออกมาตรวจสอบก็ปรากฏว่า ตู้บริจาคของมูลนิธิเพื่อเด็กหายไป

"ผมจึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งก็พบภาพพฤติกรรมของคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อสีม่วง ถือเสื้อแจ๊กเก็ตสีครีม ทำทีเดินปะปนมาพร้อมกับลูกค้าที่กำลังยืนรอคิวซื้อตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์ จากนั้นคนร้ายได้เดินออกไปที่มุมขวาของเคาน์เตอร์และใช้เสื้อคลุมตู้บริจาค พร้อมกับอุ้มตู้บริจาคเดินออกไป โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีในการก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ การขโมยตู้บริจาคดังกล่าวนั้นเคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์เช่นกัน ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้คนเดินทางจำนวนมาก จึงมีความพลุกพล่านโดยรอบสถานีขนส่ง คนร้ายจึงฉวยโอกาสก่อเหตุได้ง่าย แต่ในปีนี้บริษัทฯได้ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ คนร้ายไม่รู้จึงกลับมาก่อเหตุดังกล่าว"

นายขวัญชัย กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบพภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายรายนี้เดินวนไปมาหลายรอบ รอลูกค้ามาซื้อตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์จำนวนมาก จึงอาศัยจังหวะที่พนักงานให้บริการกับลูกค้า จึงลงมืออุ้มตู้บริจาคไปทันที อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยเมืองเก่า ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากตู้บริจาคดังกล่าวเป็นของมูลนิธิเพื่อเด็กและเงินในตู้ก็เป็นของมูลนิธิ จึงต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ในแต่ละเดือนมูลนิธิจะมาเก็บเงินจากตู้บริจาคไปได้ประมาณ 3,000 บาท จึงคาดว่าคนร้ายที่มาก่อเหตุน่าจะต้องการเงินกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้