"เคิร์สต์เจน นีลเซ็น" ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐแล้วเมื่อวันอาทิตย์โดยให้มีผลวันพุธ หลังจากผลงานด้านปราบปรามผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย 16 เดือนยังไม่หนักหน่วงถึงใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
แฟ้มภาพ วันที่ 12 ตุลาคม 2560 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จับมือเคิร์สต์เจน นีลเซ็น หลังจากเสนอชื่อเธอรับตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิคนใหม่ / AFP
รายงานของเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2562 อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งว่า การยื่นลาออกของรัฐมนตรีหญิงวัย 46 ปีครั้งนี้เป็นไปตามคำร้องขอของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้แสดงความโกรธเกรี้ยวต่อสถานการณ์บริเวณชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ที่จำนวนผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นพรวดพราดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทรัมป์ทวีตเมื่อวันอาทิตย์แจ้งว่า นีลเซ็นจะพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (ดีเอชเอส) และเขาขอบคุณการทำหน้าที่ของเธอ ทวีตต่อมาทรัมป์เผยว่า เควิน แม็กอลีแนน ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐ จะรักษาการในตำแหน่งนี้แทน
ด้านนีลเซ็น ทวีตว่า เธอจะทำงานจนถึงวันพุธที่ 10 เมษายน เพื่อช่วยให้การส่งไม้ต่อเป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อความมั่นใจว่าภารกิจสำคัญๆ ของดีเอชเอสจะไม่ได้รับผลกระทบ
นีลเซ็นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนล่าสุดจากจำนวนมากมายที่พ้นจากตำแหน่งในรัฐบาลทรัมป์หลังจากทำหน้าที่ได้ไม่นาน และทำให้รัฐบาลทรัมป์เหลือผู้หญิงอยู่เพียง 4 คนเท่านั้น นอกจากนี้ทรัมป์ก็ยังไม่ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีกลาโหม และหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนใหม่ มาทำหน้าที่อย่างถาวร
ก่อนหน้าถูกเสนอชื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีดีเอชเอสเมื่อเดือนธันวาคม 2560 นีลเซ็นเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยดีเอชเอสในสมัยที่จอห์น เคลลี เป็นรัฐมนตรี เคลลีย้ายไปทำหน้าที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวแต่มีปัญหาขัดคอกับทรัมป์ และลาออกเมื่อวันที่ 2 มกราคม
มีข่าวลือกันว่า นีลเซ็นจะโดนไล่ออกตามเคลลีมานานหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานเมื่อปลายปีที่แล้วว่าเธอทะเลาะกับจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสายเหยี่ยว เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลนี้อีกรายเผยว่า โบลตันแนะนำทรัมป์ว่านีลเซ็นควรจะพ้นจากตำแหน่ง
เบนนี ธอมป์สัน ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครต กล่าวว่า การแต่งตั้งนีลเซ็นมารับตำแหน่งนี้ถือเป็นหายนะตั้งแต่เริ่มต้น แต่เธอก็ไม่ควรตกเป็นแพะรับบาปนโยบายโหดเหี้ยมและแย่มากของทรัมป์
รัฐมนตรีหญิงผู้นี้กลายเป็นหนังหน้าไฟของนโยบายคนเข้าเมืองของทรัมป์ที่เธอมักกล่าวปกป้องอยู่เสมอ ปีที่แล้วเธอและรัฐบาลโดนโจมตีอย่างหนักเรื่องนโยบายแยกกักขังลูกกับพ่อแม่ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย จนทรัมป์ต้องยอมถอยด้วยการลงนามคำสั่งยกเลิกนโยบายนี้เมื่อเดือนมิถุนายน
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทรัมป์เพิ่งประกาศอย่างปุบปับว่าเขายกเลิกการเสนอชื่อโรนัลด์ วิเทียลโล เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE) โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องการคนที่ดุดันกว่านี้ คำประกาศนี้บวกกับการลาออกของนีลเซ็นถูกมองเป็นสัญญาณว่าทรัมป์ต้องการเดินนโยบายคนเข้าเมืองที่แข็งกร้าวมากขึ้น
หน่วยลาดตระเวนชายแดนประเมินว่า เดือนมีนาคม มีคนเข้าเมืองข้ามชายแดนเม็กซิโกเข้าสหรัฐมากกว่า 100,000 คน เป็นยอดต่อเดือนสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ส่วนใหญ่มาจากเอลซัลวาดอร์, ฮอนดูรัส และกัวเตมาลา สร้างความขุ่นเคืองใจหนักแก่ทรัมป์ถึงขั้นประกาศตัดความช่วยเหลือที่เคยให้แก่ 3 ประเทศนี้ ทรัมป์ยังขู่จะปิดชายแดนเม็กซิโกด้วย แต่กระแสต่อต้านอย่างหนักทำให้เขาล้มเลิกข้อเสนอนี้แล้วขู่จะขึ้นภาษีศุลกากรรถยนต์จากเม็กซิโกแทน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |