บนสถานการณ์ที่หาความแน่นอนอะไรไม่ได้....
    ดูอย่าง "บิ๊กโจ๊ก" ยังตกเก้าอี้เฉย
    ทั้งๆ ที่เส้นทางสู่เก้าอี้ ผบ.ตร. ....
    โรยด้วยกลีบกุหลาบ
    แต่บนความสับสนวุ่นวายและอึมครึม กลับมีความแน่นอนอย่างเหลือเชื่อ 
    พรรคการเมืองแบ่งขั้วกันถาวร!
    อย่างน้อยก็ตอนนี้
    น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
    พรรคฝ่ายตรงข้ามไม่ไปวันเกิดพรรคอีกฟาก
    ปกติทะเลาะกันให้ตาย...
    ยังส่งตัวแทนไป
    แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ครบรอบก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ๗๓ ปี ไม่มีตัวแทนพรรคเพื่อไทยหอบดอกไม้ไปแสดงความยินดี
    ไม่ต้องพูดถึง อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย เพื่อชาติ  
    ที่หนักหนาสาหัสกว่า ทำบุญครบรอบ ๑๐ ปี พรรคภูมิใจไทย ขั้วทักษิณ ดูจะมีเพียง เพื่อไทย ที่ยังตัดสวาทไม่ขาด แต่ก็ส่งเพียง วัฒนา เมืองสุข ส.ส.สอบตก เป็นตัวแทน
    ส่วนพรรคอื่นที่บอกว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เห็นแม้เงา
    หรือนี่คือวัฒนธรรมใหม่ 
    ไม่เผาผี!
    หรือว่าเกรงการไปร่วมงานจะกลายเป็นคบเผด็จการ
    ขนาดพรรคการเมืองยังคิดกันแบบนี้
    สปิริตการเมืองหายไปไหนหมด
    แล้วประชาชน มวลชนพรรคจะขนาดไหน
    วาทกรรมประชาธิปไตย เผด็จการ ดูจะได้ผลทางการเมือง แต่ในแง่ความอยู่รอดของประเทศแล้ว กลับเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะเรามีแค่ประชาธิปไตยสีเทา 
    มีนักวิชาการไม่เรียกพรรคพลังประชารัฐ หรือแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย
    ให้เหตุผลว่า แม้จะผ่านการเลือกตั้ง แต่ยังถือเป็นพรรคสืบทอดอำนาจให้เผด็จการ เฉกเช่นพรรคเสรีมนังคศิลา หรือพรรคเสรีธรรม เป็นต้น
    แต่วิธีคิดเช่นนี้เหมือนทำแกงส้มไม่ใส่มะขามเปียก 
    บนเงื่อนไขของพรรคเสรีมนังคศิลา เสรีธรรม สืบทอดอำนาจเผด็จการจริง โดยไม่มีขั้วตรงข้ามที่เป็นนักการเมืองโคตรโกง เช่น ทักษิณ ชินวัตร
    ประชาธิปไตยในขณะนั้นจึงไม่มีการนำนักการเมืองขี้โกงเจือปน
    จึงพูดได้เต็มปากว่าฝ่ายไหนคือฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายไหนเป็นเผด็จการ
    ปัจจุบันเงื่อนไขต่างออกไป สมุนทักษิณ อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย มันก็แค่ประชาธิปไตยสีเทา 
    และประชาธิปไตยสีเทานี่เองที่ทำให้เผด็จการพันทางอย่าง คสช.ได้รับการยอมรับจากประชาชน 
    วันนี้จากวาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตยโดยประชาธิปไตยสีเทากับฝ่ายเผด็จการได้สร้างรอยร้าวครั้งใหม่ในสังคมไทย
    ถ้าจะถามหาความรับผิดชอบ แน่นอนทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน
    แต่พวกใส่ฟืนโหมแรงไฟ ประชาธิปไตยสีเทา ไม่ควรมีที่ยืนบนเส้นทางประชาธิปไตยที่ไร้คนโกง.