7 เมษายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  กล่าวถึงทิศทางหลังเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย ในการให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ รายการหนึ่ง ว่า พรรคภูมิใจไทยคงต้องรอให้กกต.รับรองผลส.ส.อย่างเป็นทางการ เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังไม่นิ่ง และยังไม่ทราบว่ากกต.จะใช้สูตรใดคำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ  รวมทั้งยังไม่ทราบว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่ใดบ้าง  จึงอยากทราบความชัดเจนก่อนดีในวันที่ 9 พ.ค.  จากนั้นจึงตัดสินใจไปในแนวทางที่เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและบ้านเมือง พร้อมทั้งยังยึดหลักการเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงที่จะร่วมรัฐบาล 4 ข้อ  คือ 1.พรรคนั้นต้องไม่มีความขัดแย้ง 2.ต้องรักประชาชน 3.ต้องเทิดทูนสถาบัน และ4.ต้องทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง   ถ้าพรรคไหนทำได้ พรรคภูมิใจไทยก็ยกตำแหน่งนายกฯให้ไปเลย ส่วนที่มีกระแสข่าวจับจองกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ไม่เป็นความจริง วันนี้ยังไม่ได้คุยกับใครเลยทั้งสิ้น   

"สถานการณ์ปัจจุบันนี้  พรรคมี ส.ส.เข้าเป้าประมาณ 40-50 ส.ส. พรรคจะร่วมรัฐบาลกับคน ที่ไม่นำประเทศไปสู่ความขัดแย้ง ต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้า รักประชาชน ไม่มีอคติ กับสถาบันที่คนไทยเคารพสักการะสูงสุด ผมยังยึดถือหลักการที่วางไว้ 4 ข้อจนถึงวันนี้ผมก็ยังยึดถือ สอดคล้องกับแนวทางของพรรคที่มีคำขวัญตั้งแต่ช่วงตั้งพรรคเมื่อปี 2551  คือปกป้องสถาบันและยืนยัดมาถึงวันนี้ ขณะที่บางพรรคโดนกล่าวหาว่าจาบจ้วงสถาบันนั้น ดังนั้นในเรื่องจาบจ้วงสถาบัน พรรคคงไปร่วมงานด้วยไม่ได้เด็ดขาด โดยไม่ต้องรอหลักฐานชัดเจนออกมา"

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวและว่า ที่ผ่านมาประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทย เพราะนโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาปากท้องก่อนปัญหาทางการเมือง อาทิแก้รัฐธรรมนูญ และ แบ่งขั้วการเมือง   พรรคภูมิใจไทยเมื่อเข้าไปทำงาน จึงต้องทำงานทันทีไม่มีเวลาทำเรื่องอื่นๆ เพราะจากประสบการณ์ที่อยู่การเมืองมา20 ปี  รัฐบาลหลังเลือกตั้ง อาจจะอยู่ไม่ยาว เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อจำกัดมากมาย และ พรรคภูมิใจไทย ขอยืนยันว่าจะผลักดันนโยบายทั้ง 12 ด้านที่หาเสียงไว้ทุกวิถีทาง โดยเฉพาะนโยบายกัญชา หากพรรคใดไม่ยอมรับนโยบายนี้ คงไม่ไปร่วมทำงานด้วย

“หลังจากนี้ เมื่อมีการเลือกตั้งไปแล้ว ต้องไม่มีคำว่าฝั่งประชาธิปไตย ฝั่งสืบทอดอำนาจ และโกง  วันนี้ประชาชนเลือกมาแล้ว แต่ยังมีวาทกรรมแบบนี้ อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่มีกำหนดเวลาการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ และ ม.44 ยังอยู่ เมื่อผลเลือกตั้งออก พรรคอันดับหนึ่งและอันดับสอง ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อทำงานให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ” นายอนุทิน กล่าว