"บิ๊กตู่" ซัดบางคนหาวิธีซิกแซ็กเพื่อเอาชนะกฎหมายทุกตัวต้องเรียกว่าคนเลว คสช.ปัดเตะตัดขาหัวหน้าอนาคตใหม่ ชี้เป็นคดีส่วนบุคคลไม่เกี่ยวพรรคการเมือง ขณะที่ อนค.ระดมนักกฎหมายผุดกลุ่ม "นอสท." นัดให้กำลังใจที่ สน.ปทุมวัน 6 เม.ย. "ธนาธร" แจงเจอกลุ่มผู้ชุมนุมหลังออกจาก สน.ปทุมวันมาแล้วจึงอาสาไปส่ง ซัดทำลายความน่าเชื่อถือ อนค. ฝ่ายตรงข้ามสืบทอดอำนาจ กกต.เรียก "ศรีสุวรรณ" ให้ถ้อยคำสอบโอนทรัพย์สินให้ Blind trust สำนักข่าวอิศราเปิดภาพชุด "ธนาธร" ช่วยหาเสียง 7-9 ม.ค.ที่ ตจว.คลี่เงื่อนปมโอนหุ้นวี-ลัค มีเดีย
ที่สโมสรทหารบก (ส่วนกลาง) วิภาวดี วันที่ 4 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ว่า ปัจจุบันนี้มีหลายหน่วยงานที่พันกันเยอะ บางคนมองว่าหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ไม่ดี แต่ทั้งหมดต้องทำงานด้วยกันเป็นเครือข่ายใยแมงมุม วันนี้เราจึงแก้ไขกฎหมายหลายตัวเพื่อลดขั้นตอนให้สามารถทำงานได้ แต่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่เพื่ออำนวยความสะดวก
"ส่วนกฎหมายการเอาผิดเอาโทษนั้นมีอยู่แล้วอย่างเพียงพอ แต่ทุกคนอยากให้มีมากขึ้น แต่บางคนมักหาวิธีซิกแซ็ก หรือทำให้มากกว่ากฎหมาย เพื่อเอาชนะกฎหมายทุกตัว นั่นคือคนเลว อย่างนี้ต้องเรียกว่าคนเลว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผิด ม.116 ว่าการดำเนินคดีทางกระบวนการยุติธรรมต้องใช้เวลา และคดีนี้ไม่ใช่คดีพรรคการเมือง แต่เป็นคดีตัวบุคคล และขั้นตอนเป็นหมายเรียก คือการเรียกไปให้ข้อมูล เป็นไปตามกฎหมาย บางคดีก็ยังไม่สิ้นสุดและลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน อยากให้มองว่าขบวนการยุติธรรมนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล เพราะจะทำให้บุคคลนั้นมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวตนเองและช่องทางที่เป็นสากล
เมื่อถามถึงข้อครหาว่าเป็นการเตะตัดขาพรรคอนาคตใหม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ไม่อยากให้มองเช่นนั้น บางครั้งต้องพิจารณาว่าเป็นการพูดอคติที่มีอยู่ดั้งเดิม จะเห็นว่าตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน และจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งแล้ว บางบุคคลจะทำอะไรก็ตาม หรือมีประเด็นใดเกิดขึ้นก็ตาม จะกล่าวถึง คสช.ตลอด อยากให้ประชาชนแยกแยะ เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกันจริงหรือไม่ ไปเหมารวมตามความรู้สึกของตัวเองคงไม่ได้ บางคนก็พูดเหมือนกับมีธงในใจ
"ยืนยัน คสช.ไม่ได้ทำร้ายประเทศ ตั้งแต่ คสช.เข้ามามีบทบาท เราทำทุกสิ่งเพื่อสังคมและประเทศชาติ และทุกสิ่งที่ผ่านทำอยู่บนพื้นฐานหลักฐานข้อเท็จจริงและสิ่งต่างๆ ที่มีข้อพิสูจน์แบบจัดตั้งได้" พ.อ.วินธัย กล่าว
ถามว่า คสช.กลายเป็นจำเลยสังคมหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า คนที่มีความคิดหลากหลายต้องดูว่ามีทัศนคติอย่างไรกับ คสช. โดยเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา นายธนาธรได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า "เมื่ออำนาจมืดไม่ยอมปล่อยอนาคตใหม่" ภายหลังมีหมายเรียกให้ไปรายงานตัวที่ สน.ปทุมวัน วันที่ 6 เม.ย.นี้ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ ว่าเป็นเกมการเมืองที่กำลังกลัวพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนลุกขึ้นมาต่อต้านเผด็จการทหารด้วยกัน
ระดมนักกฎหมายช่วย
ด้านนายคารม พลพรกลาง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งเป็นต้นมา มีการดำเนินคดีกับพรรคการเมืองฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.อย่างน่าสงสัย โดยเฉพาะการดำเนินคดีของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค สะท้อนว่าผู้มีอำนาจในสังคมไทยไม่ยอมรับความคิดใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น กลับต้องถูกดำเนินคดีด้วยการหยิบยกข้อกฎหมายมาใช้อย่างคลุมเครือเพื่อดิสเครดิตทางการเมือง จึงสอบถามไปยังทนายและนักกฎหมายของพรรคการเมืองฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช. และแวดวงวิชาการทางกฎหมายก็คิดเห็นตรงกันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้อง ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับ คสช.ถูกกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม
“ผมกับทนายและนักกฎหมายที่มีความคิดในเชิงหัวก้าวหน้า จึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มนักกฎหมายอนาคตใหม่เพื่อสังคมไทยที่เท่าเทียม (นอสท.) โดย นอสท.จะเริ่มทำกิจกรรมไปให้กำลังใจนายธนาธร ที่ต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ สน.ปทุมวันตามหมายเรียกที่ถูกกล่าวหาตาม ม.116 ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. และจะดำเนินการให้เกิดความยุติธรรม ด้วยการทำให้เห็นว่าการแจ้งข้อกล่าวหาโดยไร้ข้อเท็จจริงนั้น ต้องถูกตรวจสอบเช่นกัน” นายคารมกล่าว
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่สยามสแควร์ นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 6 เม.ย. ตนจะเดินทางไป สน.ปทุมวัน เวลา 10.00 น. ตามหมายเรียก เพื่อแสดงความจริงใจ ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดเมื่อเดือน มิ.ย.2558 มีกลุ่มนักศึกษาที่ออกมารณรงค์ครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร ในวันที่ 22 พ.ค.2558 ก่อนที่เยาวชนกลุ่มนี้จะโดนคดีความ ทำให้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งเข้าไปให้กำลังใจที่บริเวณหน้า สน.ปทุมวัน ในวันที่ 24 มิ.ย. 2558 เท่าที่ตนจำได้ รถคันที่ใช้ในวันเกิดเหตุน่าจะเป็นรถของบริษัทที่มีคุณสมพร เป็นกรรมการผู้จัดการ
“ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เดินทางไปให้กำลังใจเยาวชนกลุ่มนี้ด้วย เมื่อไปถึง สน.ประมาณช่วง 2-3 ทุ่ม พอตกดึก เมื่อเยาวชนกลุ่มนี้ได้รับการปล่อยตัวมาจาก สน. ผมอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อพบกับ นายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในสมาชิกของเยาวชนกลุ่มนี้ที่ริมถนน ผมเลยถามเขาว่าออกมาแล้วกำลังจะไปไหน ผมเลยอาสาไปส่งที่ที่เจ้าตัวต้องการไปให้ เรื่องเป็นแบบนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน การที่คุณรังสิมันต์เดินออกมาจาก สน.ได้ แสดงว่าเขาได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ใน สน.ออกมาแล้ว ผมไปเจอเขาอยู่ข้างถนน กำลังเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ผมจึงอาสาไปส่งเพื่อให้กำลังจิตกำลังใจกัน ซึ่งผมพร้อมชี้แจงทุกประเด็นในเรื่องนี้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่โดนข้อกล่าวหามาตรา 116 นายธนาธรกล่าวว่า นี่เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการพยายามทำลายฝั่งตรงข้ามกับการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ ส่วนตัวไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมรับมือทุกสถานการณ์
“คิดว่ามีความเป็นไปได้ 2 อย่าง คือ 1.พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมออกจากเรื่องความผิดปกติของการเลือกตั้ง และความกดดันที่มีต่อ กกต. 2.ความพยายามที่จะทำลายพรรคอนาคตใหม่ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จากความกลัว การเติบโตขึ้นของพลังผู้ที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ”
เขากล่าวว่า หากกระบวนการยุติธรรมและโปร่งใสจริง เชื่อว่าคดีที่เกิดกับตน นายปิยบุตร และพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมดไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายเพียงพอที่จะลงโทษเราทุกคดี เราเชื่อในความบริสุทธิ์ใจ
กกต.สอบโอนหุ้นให้ trust
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือด่วนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่สมาคมได้เคยร้องเรียนเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ให้มีการตรวจสอบนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งได้แถลงข่าวโอนทรัพย์สินไปให้ trust หรือกองทุน เป็นผู้ดูแล โดยอ้างว่าวิธีการนี้เป็นมาตรฐานใหม่ ไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนใช้ private fund มาก่อน อาจเข้าข่ายหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองตาม ม.73 (5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 เพราะวิธีการดังกล่าวในอดีตเคยมีนักการเมืองมากมายที่ใช้วิธีการโอนหุ้นของตนไปให้ trust ดูแล ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเป็นนักการเมืองคนแรกที่กระทำเช่นนี้ตามที่นายธนาธรแอบอ้างแต่อย่างใด
"บัดนี้สำนักงาน กกต.ได้มีหนังสือมายังสมาคมเพื่อให้ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมพร้อมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการไต่สวน สอบสวน เอาผิดกับนายธนาธรต่อไป ซึ่งหาก กกต.วินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนตาม ม.73 (5) จริง ก็จะมีบทลงโทษตาม ม.195 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 คือต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปีด้วย" นายศรีสุวรรณกล่าว และว่า สมาคมจะเดินทางไปให้ถ้อยคำต่อ กกต. ในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.2562 เวลา 13.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร B
วันเดียวกัน สำนักข่าวอิศราเผยแพร่ภาพชุด-กำหนดการพรรคอนาคตใหม่ ช่วงวันที่ 7-9 ม.ค.62 ขณะที่นายธนาธรลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงใน จ.สุรินทร์-บุรีรัมย์-นครศรีธรรมราช โดยระบุว่า กรณีการโอนหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา รวม 900,000 หุ้น มูลค่า 9 ล้านบาท ให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ว่าตกลงเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร กันแน่? เพราะนายธนาธรชี้แจงว่า ทำการโอนหุ้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2562 จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า นางสมพร ในฐานะกรรมการบริษัท ได้ยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้านำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ระบุวันลงทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2562
สำหรับภาพและคลิปวิดีโอในการลงพื้นที่หาเสียงดังกล่าวที่ถูกถ่ายระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค.2562 นั้น ในไลน์พรรคอนาคตใหม่ ได้ลบไปทั้งหมดแล้ว จึงเหลือแต่กำหนดการ และข้อมูลจากสื่ออย่างเป็นทางการของพรรคอนาคตใหม่ ที่นำมาเสนอให้ทราบข้างต้น
"ประเด็นคือ ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏออกมาว่า นายธนาธรลงพื้นที่หาเสียงอยู่ต่างจังหวัดระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค.2562 แล้วนายธนาธรใช้เวลาช่วงไหนเดินทางทำตราสารโอนหุ้นให้กับนางสมพร รวมถึงลงนามสำคัญเป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน 2 ราย และทนายความโนตารี ได้อย่างไร?" สำนักข่าวอิศราระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |