บทเรียนจากไลฟ์ฆ่าหมู่ในมัสยิดเมืองไครสต์เชิร์ช รัฐสภาออสเตรเลียผ่านกฎหมายกำหนดให้บริษัทโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊กและยูทูบ ต้องรับผิดชอบหากไม่ลบเนื้อหารุนแรงสุดโต่งอย่างทันควัน โดยระบุโทษปรับมโหฬาร ส่วนผู้บริหารอาจโดนจำคุกสูงสุด 3 ปี อีกด้านมือปืนฆ่าหมู่มัสยิดโดนตั้งข้อหาฆาตกรรม 50 กระทง
แฟ้มภาพ จากวิดีโอที่คนร้ายถ่ายทอดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ขณะก่อเหตุกราดยิงมัสยิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 / AFP
คริสเตียน พอร์เตอร์ อัยการสูงสุดของออสเตรเลียคุยว่า กฎหมายที่ผ่านรัฐสภาด้วยคะแนนท่วมท้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน นั้นน่าจะเป็นกฎหมายฉบับแรกของโลกที่กำหนดให้พวกผู้บริหารของบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหารุนแรงที่ผู้ใช้งานเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มของพวกเขา
กฎหมายฉบับนี้เรียกร้องให้บริษัทโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก และยูทูบ และบรรดาผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้ ต้องรับผิดชอบในการลบเนื้อหาที่น่ารังเกียจอย่างรวดเร็ว อาทิ ภาพวิดีโอเกี่ยวกับการก่อการร้าย, ฆาตกรรม และอาชญากรรมร้ายแรงอื่นๆ หากไม่ดำเนินการ บริษัทอาจถูกปรับเงินนับพันๆ ล้านดอลลาร์ หรือ 10% ของรายได้ประจำปีทั่วโลก ส่วนผู้บริหารนั้นอาจถูกจำคุกสูงสุด 3 ปี
สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ซึ่งคงต้องรับศึกหนักในการเลือกตั้งที่อาจจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม กล่าวว่า บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่นั้นต้องรับผิดชอบด้วยการดำเนินการทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้มั่นใจว่าพวกผู้ก่อการร้ายฆ่าคนจะไม่ฉวยประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีของพวกเขา
เบรนตัน ทาร์แรนต์ ชายชาวออสเตรเลีย วัย 28 ปี บุกเข้าไปกราดยิงฆ่าหมู่ชาวมุสลิม 50 ศพ ในมัสยิด 2 หลัง ที่เมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม โดยเขาถ่ายทอดสดการฆ่าหมู่ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ด้วย เฟซบุ๊กกล่าวว่า บริษัทลบวิดีโอ 1.5 ล้านวิดีโอหลังเกิดเหตุ
เมื่อวันศุกร์ ตำรวจนิวซีแลนด์ส่งตัวเขาขึ้นศาลอีกครั้งเพื่อแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย 50 กระทง และพยายามฆ่าอีก 39 กระทง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |