(แม่ครูจรรยา วงศ์ชัย)
อากาศร้อนปัญหาการแสบไหม้ผิวหนังมักพบได้ในผู้สูงอายุ สมุนไพรจึงนับเป็นตัวช่วยดูแลผิวที่สำคัญ เพราะสามารถใช้ได้ทั้งบริโภคและปรุงเป็นยาสำหรับทาภายนอกได้อีกเช่นเดียวกัน ที่สำคัญหากปรุงอย่างถูกต้องแม่นยำ ยังเป็นยารักษาโรคที่ปลอดสารเคมีตกค้างในร่างกายอีกด้วย แม่ครูจรรยา วงศ์ชัย แพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านล้านนา จากชมรมแพทย์แผนไทย จ.เชียงใหม่ มาแนะนำการปรุงสมุนไพรพื้นบ้านซึ่งสรรพคุณเป็นยาเย็น ที่มักปลูกไว้ภายในครัวเรือน เพื่อลดปัญหาผิวแสบไหม้ช่วงซัมเมอร์ไว้น่าสนใจ
(ยาสมุนไพรน้ำสูตรที่ 1 ประกอบด้วย เสลดพังพอนตัวเมีย, หญ้านาง, ใบบัวบก เคี่ยวร่วมกับน้ำมันมะพร้าว กระทั่งยาสมุนไพรเซตตัว และเหลือเพียงน้ำมันสมุนไพรสำหรับทาผิวลดอาการแสบไหม้)
แม่ครูจรรยา ให้ข้อมูลว่า “ผู้สูงอายุสามารถเลือกใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาเย็นในการลดปัญหาอาการผิวหนังแสบไหม้ โดยการปรุงเป็นยาสำหรับทาภายนอก ซึ่งมีด้วยกัน 2 สูตร เริ่มจาก “สูตรแรก” ให้นำ 1.เสลดพังพอนตัวเมีย หรือพญายอ 1 กำมือ 2.ใบหญ้านาง 1 กำมือ 3.น้ำมันมะพร้าว สำหรับ วิธีทำ ให้นำสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดมาคั้นน้ำรวมกันให้ได้ 1 แก้ว จากนั้นนำน้ำสมุนไพรที่ได้ 1 แก้ว มาเคี่ยวรวมกับน้ำมันมะพร้าว 1 แก้ว โดยการเคี่ยวไปเรื่อยๆ กระทั่งตัวน้ำยาสมุนไพรเซตตัว สังเกตง่ายๆ ว่าจะเหลือเพียงแค่น้ำมันมะพร้าว (น้ำ 2 แก้วเหลือเพียง 1 แก้ว ก็ถือว่าใช้ได้) จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น และนำมาทาที่บริเวณแขนและขาที่มีอาการแสบไหม้
เนื่องจากสรรพคุณของสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดที่กล่าวมา จะช่วยลดอาการแสบไหม้ และผดผื่นคันจากโรคภูมิแพ้อากาศ เนื่องจากเสลดพังพอนเป็นยาเย็น ส่วนใบหญ้านางนั้นช่วยแก้เมล็ดสัตว์กัดต่อย แก้ผิวน้ำร้อนลวก และลดอาการผื่นคันจากภูมิแพ้ ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถปรุงยาสมุนไพรลดอาการแสบไหม้ผิวสูตรดังกล่าวด้วยการใส่สมุนไพรอย่าง “น้ำคั้นใบบัวบก” ได้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญยังสามารถใช้สูตรน้ำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดอย่างละ 1 แก้ว และใช้น้ำมันมะพร้าว 3 แก้ว เพื่อเคี่ยวให้เป็นยาสมุนไพร โดยให้เหลือแต่น้ำมันมะพร้าวเช่นเดียวกัน
(ยาน้ำสมุนไพรสูตรที่ 2 ประกอบด้วย น้ำคั้นขมิ้นชัน, เปลือกทานาคา, ใบต้นนางคำ, เจลใสว่านหางจระเข้, น้ำมันมะพร้าว สรรพคุณช่วยลดอาการแสบไหม้ผิว และผดผื่นคันจากภูมิแพ้อากาศ)
สำหรับ “สูตรที่สอง” ได้แก่ 1.ขมิ้นชัน 2.ว่านนางคำ 3.เปลือกทานาคา หรือต้นกระแจะ 4.น้ำมันมะพร้าว วิธีทำ ให้นำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดมาคั้นเอาแต่น้ำ สามารถใช้สูตรน้ำสมุนไพรอย่างละ 1 แก้ว เคี่ยวกับจำนวนของน้ำมันมะพร้าวในปริมาณที่เท่ากัน หรือใช้น้ำสมุนไพร 3 ชนิดรวมกัน 1 แก้ว และเคี่ยวร่วมกับน้ำมันมะพร้าว 1 แก้ว สำหรับยาสมุนไพรน้ำทาผิวสูตรนี้จะมีลักษณะน้ำสีเหลืองเล็กน้อยจากขมิ้นชัน สำหรับใครที่หาเปลือกทานาคาค่อนข้างยาก สามารถใช้ “น้ำคั้นใบบัวบก” หรือจะใช้ “ว่านหางจระเข้” โดยการฝานวุ้นใสๆ ใส่ลงไป ขณะที่กำลังเคี้ยวน้ำขมิ้นชันและน้ำว่านนางคำร่วมกับน้ำมันมะพร้าวก็ได้เช่นกัน เนื่องจากว่านหางจระเข้ก็มีสรรพคุณเป็นยาเย็น ซึ่งช่วยสมานแผลหรือปัญหาผิวหนังแสบไหม้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |