เกลียดเข้าไส้! 'เนติวิทย์' ผ่อนผันเกณฑ์ทหารปีที่ 3 ลั่นเป็นระบบไพร่-ทาส ไม่มีประโยชน์กับประชาชน


เพิ่มเพื่อน    

4 เม.ย.62 - นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 22 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ขึ้นทะเบียนทหารกองเกินเอาไว้ที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ที่ผ่านมาผ่อนผันไปแล้ว 2 ครั้ง อ้างว่ายังศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มักจะแสดงจุดยืนให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยอ้างว่าเป็นสิ่งล้าสมัยและเกินความจำเป็น โดยเมื่อปีที่แล้วได้ใส่นาฬิกาจำนวน 14 เรือน เหน็บ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ

แต่ปีนี้นายเนติวิทย์ได้จำลองบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แขวนคอมาด้วย และมีข้อความคำว่า นายสั่งมา อยู่กลางบัตร และกระดาษอีก 2 แผ่นที่มีข้อความว่า เกณฑ์กองทัพออกจากการเมือง หยุดสร้างวาทกรรมแบ่งแยกคนไทย ส่วนอีกใบหนึ่งมีข้อความว่า เกณฑ์นายพลกลับกรมกอง ได้เดินทางมาที่สถานที่คัดกรองคัดเลือกทหารที่ภายในโรงเรียนเทศบาล 1 (เยี่ยมเกษสุวรรณ) ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เผื่อขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ซึ่งในปีนี้เป็นการขอผ่อนผันเป็นปีที่ 3 ของนายเนติวิทย์ ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 133

หลังจากที่นายเนติวิทย์ ได้เข้ายื่นเอกสารการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารเป็นที่เรียบร้อย นายเนติวิทย์ ได้ออกมากล่าวว่า ปีนี้ได้เดินทางมาขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารเป็นปีที่ 3 แล้วเนื่องจากยังศึกษาอยู่  ส่วนป้ายที่แขวนคอมานี้ก็เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวถึงความสุจริตโปร่งใสในกระบวนการการเลือกตั้งที่ผ่านมา และก็คำว่านายสั่งมา ก็เป็นคำหนึ่งที่มันผุดขึ้นมาในหัว เมื่อเห็นว่ามันมีบัตรเกินบัตรเสริมเยอะมาก ส่วนมันจะมีความหมายว่าอย่างไรก็แล้วแต่จะตีความเอาแล้วกัน ส่วนอีก 2 แผ่นที่นำมาด้วยคือ เกณฑ์ทหารออกจากการเมือง เราต้องการให้ทหารเป็นทหารอาชีพ แต่ทหารทุกวันนี้เราจะเห็นว่าไม่เป็นทหารอาชีพ และการเกณฑ์ทหารเกณฑ์คนเข้าไปเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองให้กับกลุ่มนายทหารชนชั้นสูงเท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นประโยชน์ของราษฎร์จริงๆ

เพราะฉะนั้นการเกณฑ์ทหารที่เราบอกว่ารักชาติ จริงๆมันเป็นประโยชน์ของใครกันแน่ และก็สร้างวาทกรรมอีก ตอนนี้ก็มีการแบ่งแยกให้คนไทยแตกแยกแตกต่างกัน โดยบอกคนนี้เป็นคนไทยที่ทำตัวไม่ถูกต้อง อย่างนี้เป็นต้น ตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่ของทหารไม่ใช่หน้าที่ของ ผบ.ทบ. ที่จะออกมาพูด นี่คือสิ่งที่ตนอยากแสดงออก ก่อนที่จะเกณฑ์ทหารก็ต้องทำให้คุณปลอดพ้นจากการเมืองก่อน เป็นประโยชน์จริงของประชาชนทุกคน

"หลังจากที่ผมจบจากการศึกษาแล้วก็จะยังต่อต้านการเกณฑ์ทหารอยู่เหมือนเดิม และจะมาผ่อนผันอีกแต่ผมจะรณรงค์ในระยะยาวให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติการเกณฑ์ทหาร และอาจจะเป็นไปได้ถึงการต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ด้วย ยังไงผมก็ไม่ยอมมาเกณฑ์ทหารแน่นอนเพราะไม่เห็นด้วยกับระบบที่เป็นอยู่เป็นระบบไพร่เป็นระบบทาส เป็นระบบที่ไม่มีประโยชน์กับประชาชน"

คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ไม่อยากจะมาเกณฑ์ทหาร เขามีความรับใช้ชาติในมุมมองของเขา เขามีทักษะมีความสามารถต่างๆ แต่เขาต้องมาอยู่ในกรงขังมนุษย์ ตนคิดว่ามันไม่เหมาะสม และการเมืองปัจจุบันที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดนมาตรา 116 เป็นการกลั่นแกล้งชัดเจน สำหรับคนไทยเขาก็รู้ว่า ผบ.ทบ.ออกมาพูด เห็นคนโน้นคนนี้ออกมาพูด มีการไปฟ้องร้องต่างๆ นั่นบ่งบอกชัดเจนว่ามีการกลั่นแกล้งทางการเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทหารไม่ได้มีความสามารถสักเท่าไหร่ นอกจากกลั่นแกล้งพลเมือง

ทหารกลัวความจริง มีทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และมีอำนาจ แต่เมื่อคนไม่ยอมรับคนไม่เชื่อถือ สิ่งที่มีอยู่ก็เหมือนตัวตลก เราจึงต้องการทหารอาชีพ ทหารที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีกลับมา นี่คือสิ่งที่ตนต้องการ ตนไม่ได้บอกว่าทหารไม่จำเป็น ทหารจำเป็นและมีเกียรติมีศักดิ์ศรี แต่ก็ต้องทำตัวให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ทุกวันนี้ที่มาแทรกแซงทางการเมือง ที่มาเล่นงานคนที่คิดต่างทางการเมือง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"