เด้ง 5 เสือ สภ.พาน พร้อมตั้งกรรมการสอบ หลังกรมการปกครองบุกจับคาราโอเกะค้ากามสาวเมียนมา พบสมุดจ่ายส่วยเจ้าหน้าที่กว่า 10 หน่วย รุมทึ้งเดือนละกว่า 2 หมื่น
    เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา นายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองกว่า 50 นาย บุกเข้าช่วยเหลือหญิงสาวเหยื่อค้ามนุษย์ภายในร้านสาวพานคาราโอเกะ ถนนทางหลวงหมายเลข 1 เส้นทางเชียงราย-พะเยา อ.พาน จ.เชียงราย 
    เจ้าหน้าที่พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นตลาดเก่า เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มีตึกแถวชั้นเดียวล้อมรอบ และมีร้านคาราโอเกะอยู่ติดกัน 3 ร้าน นอกจากนี้มีการดัดแปลงห้องแถวที่อยู่ใกล้กันเป็นที่พัก เมื่อตรวจสอบภายในร้านสาวพานคาราโอเกะ พบหญิงสาวชาวเมียนมา อายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศ ซึ่งหญิงชาวเมียนมา 3 คนให้ปากคำว่าต้องทำงานตั้งเเต่ 2 ทุ่ม จนถึงตี 2 หรือจนกว่าเเขกที่มาใช้บริการจะหมด โดยทางร้านคิดค่าบริการแบบชั่วคราว 1,100 บาท หักให้แม่เล้า 300 บาท หักค่าโรงแรม 100 บาท ส่วนการซื้อบริการแบบค้างคืนจะคิดราคา 2,500 บาท หักให้แม่เล้า 500 บาท ทั้งนี้ ส่วนต่างที่เหลือทั้งสองแบบ เด็กสาวที่ขายบริการจะไม่ได้รับเงินทันที แต่แม่เล้าหรือเจ้าของร้านจะเก็บไว้เพื่อป้องกันการหลบหนี อ้างว่าเมื่อถึงเวลาได้กลับบ้านจึงจะจ่ายเงิน
    จากการตรวจค้นภายในร้าน นอกจากจะพบถุงยางอนามัยจำนวนมากแล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญเป็นสมุดจดการขายบริการของเด็กสาวแต่ละคน และสมุดที่เจ้าของร้านอ้างว่าเป็นบัญชีจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 10 หน่วยงาน รวมทั้งตำรวจ รวมแล้วเป็นเงินเดือนละกว่า 2 หมื่นบาท ซึ่งจะได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบต่อไป
    ด้านนายรณสิทธิ์กล่าวว่า มีพลเมืองดีร้องเรียนและเเจ้งเบาะแสผ่านเฟซบุ๊ก "เพจล่า" ว่าร้านคาราโอเกะดังกล่าวมีการลักลอบค้าประเวณีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เเละเป็นสถานบริการที่ส่งเสียงดังรำคาญ จากนั้นสายลับของมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ จึงลงพื้นที่สืบข้อเท็จจริงนานประมาณ 1 เดือน พบในบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งมั่วสุมค้าประเวณี มีร้านคาราโอเกะทั้งหมด 3 ร้าน และได้ข้อมูลการสืบสวนชัดเจน จึงยื่นจดหมายร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย จากนั้นลงพื้นที่สืบสวนซ้ำพร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ปรากฏพบข้อมูลตรงกัน จึงปฏิบัติการบุกจับกุมร้านสาวพานคาราโอเกะ ช่วยเหยื่อค้ามนุษย์ในครั้งนี้ 
    ส่วนนายมานะ สิมมา กล่าวว่า เบื้องต้นได้นำนายสุทัศน์ เทศน์นาม อายุ 46 ปี ชาวเชียงราย ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน และ น.ส.เฮง ชาวเมียนมาที่เป็นภรรยา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พาน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานค้าประเวณี, มั่วสุมค้าประเวณีภายในร้าน ส่วนหญิงเมียนมาทั้ง 3 คนที่ช่วยเหลือไว้ได้ส่งไปตรวจร่างกาย หากพบว่ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็แจ้งข้อหานายสุทัศน์ฐานค้ามนุษย์
    พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงการจับกุมแหล่งค้าประเวณีในร้านสาวพานคาราโอเกะว่า พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้ว พร้อมกับมีคำสั่งให้ ผกก.สภ.พาน, รอง ผกก.ป., รอง ผกก สส.,สวป., สว.สส. มาปฏิบัติราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จว.เชียงราย โดยการสืบสวนข้อเท็จจริงต้องทำโดยรวดเร็ว เป็นธรรม เพื่อให้ความกระจ่างแก่สังคม
    พ.ต.อ.ชัชทอง ธุระทอง ผกก.สภ.พาน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พาน ได้ร่วมกับฝ่ายปกครองตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ ในการร่วมกันล่อซื้อบริการจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาและพบผู้เสียหาย ส่วนที่พบสมุดรายชื่อบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งนายสุทัศน์ระบุว่าจ่ายให้เจ้าหน้าที่นั้น ยังไม่ชัดเจนว่าจ่ายค่าอะไร หรือจ่ายให้ใครบ้าง เพราะเป็นเพียงการจดบันทึกสั้นๆ แต่ก็จะสอบสวนต่อไป.