พอช.จัดงาน“รื้อบ้าน สร้างเรือน คืนเขื่อน ให้สายคลอง” สร้างบ้านใหม่ที่ชุมชนริมคลองบางซื่อรวม 422 หลัง


เพิ่มเพื่อน    

 ริมคลองบางซื่อ/ พอช. จัดงาน “รื้อบ้าน สร้างเรือน คืนเขื่อน ให้สายคลอง” ที่ชุมชนริมคลองบางซื่อ  เขตห้วยขวาง  ประเดิมรื้อบ้าน 10 หลังแรกจากทั้งหมด 49 หลัง  จากนั้นจะสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้  และเตรียมรื้อ-สร้างบ้านใหม่อีก 3 ชุมชนริมคลองบางซื่อ  รวมทั้งหมด 422 หลัง  ขณะที่การรื้อย้าย-สร้างบ้านใหม่ทั้งหมด 50 ชุมชน  รวม 7,069 หลัง  ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 32 ชุมชน  สร้างบ้านเสร็จแล้ว 2,068  หลัง

                               

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ  โดยให้ กทม.ก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพการระบายน้ำในคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ ระยะทางทั้งหมด (ทั้ง 2 ฝั่ง) ประมาณ 45 กิโลเมตร และจะต้องรื้อย้ายบ้านเรือนที่รุกล้ำแนวคลอง-แนวก่อสร้างเขื่อน  เพื่อสร้างบ้านใหม่  รวม 50 ชุมชน  จำนวน 7,069 ครัวเรือน  โดยรัฐบาลมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนฯ  เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559   ขณะนี้การก่อสร้างเขื่อนฯ มีความคืบหน้าประมาณ 40 %  ส่วนการรื้อย้ายชุมชนและก่อสร้างบ้านใหม่ดำเนินการไปแล้ว 32 ชุมชน  ก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ  รวม  2,068  หลัง

 

ล่าสุดวันนี้ ( 3 เมษายน) ที่ชุมชนริมคลองบางซื่อรัชดาภิเษก  เขตห้วยขวาง  กรุงเทพฯ  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้จัดงาน “รื้อบ้าน สร้างเรือน คืนเขื่อน ให้สายคลอง”  โดยมีการรื้อย้ายบ้านเรือนริมคลองบางซื่อที่อยู่ในแนวก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร  เพื่อเตรียมก่อสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่ที่อยู่นอกแนวเขื่อน   โดยมีนายไมตรี  อินทุสุต  ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนเป็นประธานในการจัดงาน  มีผู้บริหาร พอช.  ผู้แทนสำนักงานเขตห้วยขวาง  กรมธนารักษ์  ทหาร  สมาชิกเครือข่ายพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชนริมคลอง  และชาวชุมชน  เข้าร่วมงานประมาณ 100 คน

นายไมตรี  อินทุสุต  ร่วมรื้อบ้าน

 

นายไมตรี  อินทุสุต  ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ  กล่าวว่า  คลองบางซื่อเป็นคลองที่แยกมาจากคลองลาดพร้าว (บริเวณวัดลาดพร้าว) มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร  มี  4 ชุมชนตั้งอยู่  สภาพเป็นชุมชนแออัด  น้ำเน่าเสีย  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้เข้ามาสนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนฯ  โดยการรื้อย้ายบ้านออกจากแนวก่อสร้างเขื่อนฯ แล้วสร้างบ้านใหม่ให้มีความสวยงาม  มีสิ่งแวดล้อมที่ดี  มีความสะอาด   โดยในวันนี้จะรื้อบ้าน 10 หลังแรกในชุมชนริมคลองบางซื่อรัชดาก่อน  จากนั้นจะรื้อทั้งหมด 49 หลัง  เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยได้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้

 

“พื้นที่ชุมชนริมคลองบางซื่อถือว่าเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ  เพราะการสัญจรไปมาสะดวก  อยู่ติดกับถนนรัชดาภิเษก  ใกล้สถานีรถไฟฟ้า  มีออฟฟิศ  และมีร้านค้าต่างๆ ตั้งอยู่  เมื่อสร้างบ้านใหม่แล้ว  ก็จะมีการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมต่างๆ  ทำให้ชุมชนริมคลองบางซื่อมีความสวยงาม  กลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ  ลูกหลานก็จะมีบ้านใหม่ที่มั่นคง  มีสิ่งแวดล้อมที่ดี  มีความสุข”  นายไมตรีกล่าว

 

นางประยูร  เจนวิถี   ผู้นำชุมชนริมคลองบางซื่อรัชดา  กล่าวว่า  ชุมชนอยู่อาศัยกันมานานกว่า 40 ปี  เป็นชุมชนที่สร้างบ้านอยู่ในที่ดินราชพัสดุ  เมื่อทางรัฐบาลมีโครงการสร้างเขื่อนฯ ป้องกันน้ำท่วม  ชาวบ้านก็ไม่ได้คัดค้าน  และได้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงหรือบ้านประชารัฐริมคลองกับทาง พอช.  เพื่อให้ กทม.สร้างเขื่อนได้  ส่วนชาวบ้านจะได้มีบ้านใหม่ที่มั่นคง ถูกกฎหมาย  โดยชาวบ้านยอมรื้อย้ายบ้านออกจากแนวก่อสร้างเขื่อนฯ เพื่อสร้างบ้านใหม่ในที่ดินเดิม  และได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์  เนื้อที่ทั้งหมด 1 ไร่  2 งานเศษ  ค่าเช่าตารางวาละ 4 บาทต่อเดือน  ระยะเวลาเช่าช่วงแรก 30 ปี (ต่อสัญญาได้ครั้งละ 30 ปี)  เพื่อก่อสร้างบ้านใหม่  รวมทั้งหมด 43 หลัง   รองรับชาวบ้าน 47 ครัวเรือน (มีผู้ไม่เข้าร่วม 2 ครัวเรือน)  และจะมีบ้านกลาง  2 หลัง  สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ด้อยโอกาส  มีฐานะยากจน  หรือผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานดูแล

 

“หลังจากรื้อย้ายบ้านทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้แล้ว  ชุมชนก็จะเริ่มสร้างบ้านใหม่ในเดือนพฤษภาคม  ตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้   นอกจากนี้เราก็จะปรับปรุงพื้นที่ด้านหน้าที่ติดกับถนนรัชดาภิเษกให้เป็นตลาดชุมชน  ให้ชาวบ้านเอาสินค้าหรืออาหารต่างๆ ไปขาย  เพราะอยู่ใกล้ออฟฟิศและสถานีรถไฟฟ้า  มีคนผ่านไปมาตลอดวัน  ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ  มีรายได้มาผ่อนบ้านและใช้จ่ายในครอบครัว”  ผู้นำชุมชนริมคลองบางซื่อรัชดาบอกถึงแผนงาน  

สภาพชุมชนเดิม

   แบบบ้านที่จะสร้างใหม่

 สำหรับแบบบ้านที่จะก่อสร้าง  มี 2 แบบ  ขนาดเนื้อที่เท่ากันคือ 5.5 x 5 ตารางเมตร   1.บ้านแฝด 2 ชั้น  ราคา 417,450 บาท  ผ่อนชำระกับสหกรณ์ฯ เดือนละ  3,205 บาท  และบ้านแฝด 3 ชั้น  ราคา 574,981 บาท  ผ่อนชำระเดือนละ 4,191 บาท  โดยชาวชุมชนรวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการ 

 

ทั้งนี้ พอช.ได้สนับสนุนงบประมาณด้านการปรับปรุงสาธารณูปโภค  อุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย  ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ  ฯลฯ  รวมครัวเรือนละ 147,000 บาท  รวมงบช่วยเหลือทั้งหมด  7,325,500  บาท   และสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวม  15 ล้านบาทเศษ

 

อย่างไรก็ตาม  นอกจากชุมชนริมคลองบางซื่อรัชดาที่กำลังรื้อย้ายเพื่อเตรียมก่อสร้างบ้านใหม่จำนวน 43 หลังแล้ว  ยังมีชุมชนริมคลองบางซื่ออีก 3 ชุมชนที่เตรียมรื้อย้ายและสร้างบ้านใหม่ภายในปีนี้อีก 3 ชุมชน  คือ  1.ชุมชนริมคลองบางซื่อลาดพร้าว (ซอย) 34  รวม 85 หลัง  2.ชุมชนริมคลองบางซื่อลาดพร้าว (ซอย) 42 - 44 รวม  198 หลัง  และ 3.ชุมชนริมคลองบางซื่อลาดพร้าว (ซอย) 46  รวม  96   หลัง  รวมบ้านที่จะสร้างใหม่ตลอดริมคลองบางซื่อ 4 ชุมชน   จำนวน 422 หลัง

สภาพชุมชนริมคลองบางซื่อ

 

นายธนัช นฤพรพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว กล่าวว่า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ พอช. จัดทำแผนงานรองรับที่อยู่อาศัยของประชาชนที่รุกล้ำคลองลาดพร้าว-คลองบางซื่อ ตามโครงการบ้านมั่นคง หรือ ‘บ้านประชารัฐริมคลอง’ รวมทั้งหมด 50 ชุมชน รวม 7,069 ครัวเรือน  และเนื่องจากพื้นที่ริมคลองเป็นที่ดินราชพัสดุ ซึ่งกรมธนารักษ์ดูแลอยู่ ดังนั้นชุมชนที่สามารถอยู่อาศัยในที่ดินเดิมได้จะต้องเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ เปลี่ยนสถานะจากผู้บุกรุกเป็นผู้เช่าที่ดินให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากอยู่ไม่ได้เพราะพื้นที่ไม่เพียงพอจะต้องจัดหาที่ดินแปลงใหม่

 

ส่วนการสนับสนุนชุมชนนั้น พอช.จะสนับสนุนงบประมาณตามโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง  ครัวเรือนละ 147,000 บาท  แยกเป็น 1.งบพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ครัวเรือนละ 50,000 บาท 2.งบอุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย (ปลูกสร้างบ้าน,ซื้อที่ดิน ฯลฯ ) ครัวเรือนละ 25,000 บาท 3.งบช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ (ที่พักชั่วคราว,ลดภาระหนี้สิน) ครัวเรือนละ 72,000 บาท 4.งบบริหารจัดการ ชุมชนละ 50,000-500,000 บาท 5.งบสินเชื่อเพื่อก่อสร้างบ้านครัวเรือนละ 330,000-400,000 บาท ชำระคืนภายใน 15-20 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาทต่อปี

 

ปัจจุบันมีชุมชนที่กำลังก่อสร้างบ้านในคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ  รวม 32 ชุมชน ก่อสร้างเสร็จไปแล้ว  จำนวน  2,068  ครัวเรือน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 641 ครัวเรือน  และพื้นที่พร้อมก่อสร้างบ้าน 327 ครัวเรือน  ดำเนินการใน 8 เขตริมคลองฯ  คือ  วังทองหลาง  ห้วยขวาง  ลาดพร้าว  จตุจักร  บางเขน  หลักสี่  ดอนเมือง  และสายไหม

 

ส่วนการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตและประตูระบายน้ำในคลองลาดพร้าว-คลองบางซื่อ (คลองบางบัว-คลองถนน-คลองสอง) ระยะทางทั้งสองฝั่ง 45 กิโลเมตรเศษ เริ่มจากบริเวณอุโมงค์เขื่อนพระราม 9 เขตวังทองหลาง ไปยังประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ เขตสายไหม เพื่อระบายน้ำลงสู่อุโมงค์คลองบางซื่อ อุโมงค์พระราม 9 ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและทะเลต่อไป โดยบริษัทริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ประมูลงานได้ในวงเงิน 1,465 ล้านบาท  เริ่มก่อสร้างเดือนกุมภาพันธ์ 2559 - มิถุนายน 2562 ขณะนี้บริษัทก่อสร้างเขื่อนฯ ได้ประมาณ 40 % จากปริมาณงานทั้งหมด

บ้านและเขื่อนฯ ที่สร้างเสร็จแล้วในชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ  เขตสายไหม

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"