3เม.ย.62-นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาฯ สกสค.) ว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งหัว คสช. ฉบับที่ 7/2558 เรื่อง เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ สกสค.พ้นจากตำแหน่ง ส่งผลให้โครงการพัฒนาชีวิตครูต้องยกเลิกไป เพราะคณะกรรมการของโครงการนี้เป็นผู้แทนครูในคณะกรรมการ สกสค. โดยในคณะกรรมการชุดปัจจุบันไม่มีผู้แทนครู ทำให้คณะกรรมการของโครงการพัฒนาชีวิตครูขาดองค์ประกอบ ไม่สามารถประชุมได้จึงต้องยกเลิกโครงการฯ นี้ไป ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการ สกสค.ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธาน เร็วๆ นี้ ตนจะเสนอให้มีการพิจารณาการดำเนินการโครงการพัฒนาชีวิตครูขึ้นมาใหม่ โดยโครงการดังกล่าวจะมีคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ เป็นผู้ขับเคลื่อนการบริหารจัดการโครงการ ซึ่งกรรมการจะไม่มีการสรรหาใหม่แต่จะใช้บุคลากรเดิมที่มีอยู่ใน สกสค.

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้โครงการพัฒนาชีวิตครู เป็นโครงการที่เกิดขึ้นก่อนโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.) โดยการดำเนินการของ สกสค.ร่วมกับ ธนาคารออมสิน และศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตครูปล่อยเงินกู้ให้แก่ครู ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวมีเงินที่ธนาคารออมสินจ่ายมาให้เพื่อเป็นการดำเนินโครงการตามข้อตกลงเงื่อนไขระหว่าง สกสค.และธนาคารออมสิน ร้อยละ 25 สตางค์ แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่  ส่วนแรกร้อยละ 0.07 ให้เครือข่ายพัฒนาชีวิตครูไปบริหารเอง  ส่วนที่สองร้อยละ 0.08 ให้กับ สกสค.ไว้ดำเนินโครงการ และส่วนที่สามร้อยละ 0.10 ไว้เป็นกองทุนประกันความเสี่ยง  ซึ่งล่าสุดตนได้ตรวจสอบในบัญชีของโครงการนี้พบเงินค้างอยู่ จำนวน 41 ล้านบาท ดังนั้นการให้มีคณะกรรมการดำเนินการโครงการพัฒนาชีวิตครู ก็เพื่อให้มีการขับเคลื่อนโครงกานี้ต่อไปได้ เพราะที่ผ่านมาเครือข่ายพัฒนาชีวิตครูได้ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้รับจัดสรรเงินให้แก่เครือข่ายพัฒนาชีวิตครูตามข้อตกลงเงื่อนไขที่ทำไว้กับธนาคารออมสิน

“ก่อนผมจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ สกสค.เมื่อปี 61 คณะกรรมการ สกสค. ให้ยุติโครงการพัฒนาชีวิตครูและคืนเงินให้กับธนาคารออมสินไปบริหารจัดการเอง แต่เมื่อผมดูข้อมูลอย่างละเอียดพบว่า คณะกรรมการ สกสค.ลงมติเกินอำนาจ เพราะโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ ศธ. ธนาคารออมสิน และเครือข่ายพัฒนาชีวิตครู ดำเนินการร่วมกัน ดังนั้นการที่คณะกรรมการ สกสค.มีมติให้ยกเลิกโครงการฯ ที่ ครม.เคยมีมติมาแล้ว ทำให้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นผมจึงจะเสนอให้ รมว.ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค.ทบทวนใหม่ เพราะ สกสค.มีหน้าดูแลลูกหนี้จนคนสุดท้าย ซึ่งเราไม่ได้ปล่อยกู้ใหม่ แต่เราต้องการจัดระบบลูกหนี้โครงการนี้ที่มีประมาณ 18,000 คน คิดเป็นวงเงินกว่า 15,000 ล้านบาท และในจำนวนนี้มีลูกหนี้ จำนวน 800 คนเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาชีวิตครูเกิดขึ้นใหม่ เพื่อให้เข้ามาบริหารจัดการโครงการนี้อย่างเป็นระบบต่อไป ตามสโลแกนของ สกสค.ที่ต้องการซ่อมอดีต สร้างอนาคต”ปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ สกสค. กล่าว